พูดกับบ้าน

'รงค์ วงษ์สวรรค์......... พูดกับบ้าน ..
บันทึกแห่งชีวิตนักเขียน ในความถวิลถึงบ้านและญาติน้ำหมึก “ผมซื้ออิฐและซีเมนท์ด้วยงานเขียนคอลัมน์วันละ 3 ถึง 4 ชิ้น ผมไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคนขยันเพราะผมบูชาความขี้เกียจ แต่ผมกำลังปลูกบ้าน ...” ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แล้วที่'รงค์ตั้งใจจะเป็นนักเขียนและต้องมีชีวิตที่ดี "ทำไมนักเขียนจะต้องนอนบ้านเช่าซอมมอซ่อ ทำไมนักเขียนจะต้องไม่มีอันจะกิน เราจะต้องปรับปรุงฐานะของเราให้ได้ ต้องมีบ้านเมื่ออายุยี่สิบกว่า มีรถยนต์เมื่อสามสิบกว่า เราต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี มีอาหารที่บำรุงสุขภาพ มีเหล้าดีๆ กิน และก็ทำงานให้เป็นระเบียบ” ด้วยความเชื่อว่า “ผู้ชายถึงอายุ 30 ถ้ายังไม่มีบ้านก็คงยากจะมีบ้าน”“มึงจะเขียนอะไรก็ได้งั้นหรือ”ประเสริฐ พิจารณ์โสภณถามอย่างหงุดหงิด กังวานท้ายประโยคทักท้วงและตำหนิ ผมยักไหล่ก่อนตอบว่า“วันก่อนกูเขียนเกี่ยวกับการเลือกซื้อลิพสติกได้เงินมาซื้อแม่บันได” “ฝ้าเพดานก็ยังไม่มีนี่หว่า พรุ่งนี้มึงจะเขียนอะไร" [วางจำหน่ายแล้ว]

บนถนนของความเป็นหนุ่ม

'รงค์ วงษ์สวรรค์ บนถนนของความเป็นหนุ่ม ...
ซูเปอร์ไฮเวย์ของฮิปปี้ เพลย์บอย สารคดีละเลียดโลกกว้างในวัยหนุ่มกำดัด สุดยอดสารคดีขบวนแรกในวัยหนุ่มของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ถ่ายทอดประสบการณ์ท่องโลกกว้างอันน่าตื่นตะลึงในดินแดนญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ในฐานะนักข่าวหนังสือพิมพ์ “สยามรัฐ” และตัวแทนนิตยสาร “ดาราไทย” โดยปิดท้ายเล่มด้วยเรื่องสั้นสะท้อนชีวิตวัยหนุ่มของผู้เขียน “บางซ่อน-กรุงเทพฯ” “บนถนนของความเป็นหนุ่ม” ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2504 ในแบบฉบับปกแข็งหนาร่วม 400 หน้ากระดาษ ด้วยความเป็นหนุ่มในวัยกำดัด ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มีความสดในการคิดและเขียนถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่สายตาของเขาพบเจออย่างละเอียด รวดเร็วและเฉียบคม กล่าวได้ว่า “บนถนนของความเป็นหนุ่ม”เป็นสารคดีที่มีชีวิตชีวามากที่สุดที่ช่วยพิสูจน์และยืนยันคำพูดติดปากของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่ว่า “การเดินทางเป็นสายตาของนักเขียน” [วางจำหน่ายแล้ว]

ไฟอาย

ไฟอาย 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ..
จากคอลัมน์ “รำพึงรำพัน โดยลำพู” งานเขียนในยุคแรกเริ่มของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เขียนลงใน “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” เป็นการคิดคำนึงถึงสังคมในแง่มุมต่างๆ อย่างน่าสนใจ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ พูดถึงคนในระดับล่างไม่ว่าจะเป็นคนกวาดถนน คนโซ โสเภณี ฯลฯ และด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาอย่างโชกโชน คลุกคลีกับคนทุกระดับ ทุกชนชั้น ทำให้ “รำพึงรำพัน” เป็นสุดยอดผลงานยุคเริ่มต้นของนักเขียนไทยผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ทั้งในแง่ของการใช้ภาษาและมุมมองชีวิตที่สะท้อนผ่านตัวละครต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์“ไฟอาย”เป็นงานขบวน 3 จากคอลัมน์รำพึงรำพันโดยลำพู สืบต่อจากเล่ม “หนาวผู้หญิง” และ “เถ้าอารมณ์” ปรากฏตัวให้ผู้อ่านยลโฉมครั้งแรกในปีเดียวกัน คือ พ.ศ. 2503 หลังจากเปิดตัวผลงาน“ไฟอาย” ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น ในปีถัดมา'รงค์ วงษ์สวรรค์ จึงผลงานนวนิยาย“สนิมสร้อย” ตามออกมาติดๆ [วางจำหน่ายแล้ว]

'รงค์ ชุด เหยี่ยวฮิปปี้

แสงแดดเป็นไข้ ไฉไลเป็นบ้า ไม่นานเกินรอ
รวมผลงานชุดเหยี่ยวฮิปปี้ 3 เล่ม
ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์
....
แสงแดดเป็นไข้ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ .... ....................
ผลงานที่ไม่เคยรวมเล่มมาก่อนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ดำเนินการสานต่อให้เป็นรูปเป็นร่าง ว่าด้วยเรื่องราว "หม่อมราชวงศ์นัดพบนักเลง" เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ยุคทำหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ต้องมีนัดพบกับ "ยาม" ของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย โดยมี'รงค์ วงษ์สวรรค์ อยู่ในเหตุการณ์แสนระทึก เพราะต้องทำหน้าที่เป็นลูกมือคอยจดบันทึกการสัมภาษณ์ครั้งนั้นด้วยความอกสั่นขวัญแขวน มีให้อ่านทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากฝีมือการแปลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช[วางจำหน่ายแล้ว]
......................................................
........................ ............. ...................................... ........
ไฉไลเป็นบ้า 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ... เรื่องราวเิกิดขึ้นเมื่อครั้งสมัย'รงค์ วงษ์สวรรค์ สวมวิญญาณนักข่าวหนุ่มไฟแรงสุดเท่ ตะลุยโรงถ่ายหนังจีนชอว์ บราเดอร์ที่กำลังฮอตสุดๆ ในเวลานั้น เจาะลึกสัมภาษณ์ รัน รัน ชอว์ เจ้าของชอว์บราเดอร์, ศึกษาวิธีตั้งชื่อหนังสือจีนสุดฮิตสมัยนั้น, การเซ็นเซอร์, ความลับในการทำซับไตเติล ตั้งแต่ยุคก่อตั้งชอว์บราเดอร์ จนมาถึงจอห์น วู ผู้ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นขวัญใจฮอลลีวู้ดและนักดูหนังรุ่นใหม่ [วางจำหน่ายแล้ว]
......................................................................................... ........................................................................................ ........................................................................................ ..... ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ ....................
ไม่นานเกินรอ
'รงค์ วงษ์สวรรค์
....
เจ้าของคำพูดสุดคลาสสิค"ไม่นานเกินรอ"ที่ใครๆ ก็เอามาใช้พูดกันเขียนกันทุกวันนี้ จะมีกี่คนที่รู้ว่าเป็นสำนวนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ "ไม่นานเกินรอ"เป็นบทบันทึกความในใจจากซอกหลืบลึกที่สุดของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนหนุ่มหัวก้าวหน้าในยุคนั้นที่กำลังเพียรพยายามก่อร่างสร้างสไตล์งานเขียนที่เป็นตำนาน แต่กลับโดนถล่มเละเทะจากนักวิจารณ์ผู้โหดเหี้ยมที่นั่งกระดิกเท้าคอยพิพากษาเขาอยู่บนยอดหอคอยสูงของยุคนั้นอย่างดุเดือด จนกระทั่ง'รงค์ ถึงกับสบถเอาไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ว่า "ไม่นานเกินรอ! ไม่นานเกินรอ! ผมอยากเปิดเผยความในใจกับเขาว่าผมไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากไอ้โง่คนหนึ่งเท่านั้น! โง่บรรลัย! ให้ห่ากิน!" [วางจำหน่ายแล้ว]
..................................................
..........................................................

'รงค์ คืนรัก

คืนรัก : 'รงค์ วงษ์สวรรค์
พิมพ์ครั้งที่ 5 (วางจำหน่ายแล้ว)
เรื่องราวของบาปหวาน ตราตรึง กาลครั้งหนึ่งยังมี"รัก"เริ่มต้นจาก"ใคร่"หนังสือที่ผู้หญิงหลายคนบอกว่า"เกลียดที่สุด"ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ แต่สำหรับ'ปราย พันแสง มันคือหนังสือที่ "ย้อนศร เซ็กซี่ มีสไตล์ เชิงชั้นร้ายกาจ เท่เหลือกินเหลือใช้ น่าเอาไปทำหนัง"นี่คือผลงานของ'รงค์อีกเล่มหนึ่งที่เป็นหนังสืออยู่ในดวงใจ'ปราย พันแสง ตลอดกาลนับตั้งแต่ได้อ่านครั้งแรก จะมีอะไรคลาสสิคไปกว่าเหตุการณ์ในคืนเดียว ที่ผู้ชายคนหนึ่ง อยากได้ผู้หญิงคนหนึ่ง สารพัดวิธีการที่ผู้ชายคนนั้นเสกสรรหามาเพื่อหล่อน จึงดำเนินไปบนความใคร่ที่ไร้สิ่งเจือปนแม้แต่น้อย ใคร่จริงๆ ใคร่ล้วนๆ แต่งามละเมียดจนคุณอาจไม่อยากเชื่อ ว่าเรื่องพรรค์นี้มันงามถึงเพียงนี้ได้เชียวหรือ สำหรับคนที่ชอบพูดคำว่า"รัก" บางทีใครคนนั้นอาจจะไม่มีวันได้รู้เลยก็ได้ว่า บางครั้งความรักที่แท้จริงนั้น ...มันก็มาจาก"ใคร่" และดำรงอยู่ในหัวใจอย่างลึกซึ้งได้เช่นกัน นี่คือสุดยอด"เชิงและ"ชั้น"ในสไตล์การเขียนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เราต้องศึกษา คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือและตัวอย่างบทแรก
คลิกอ่านรายละเอียด

วานปีศาจตอบ

'รงค์ วงษ์สวรรค์ วานปีศาจตอบ
พิมพ์ครั้งที่ 2
คัดสรรบทสัมภาษณ์ “คมกริบ” จำนวน 12 ชิ้น จากบทสัมภาษณ์จำนวนหลายร้อยชิ้นตลอดชีวิตของนักเขียนใหญ่ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “พญาอินทรี” แห่งวงการวรรณกรรมไทย รวมถึงการสัมภาษณ์ยียวนกวนยิ้ม’รงค์ วงษ์สวรรค์ ในอดีตของขรรค์ชัย บุนปาน บิ๊กบอสแห่งอาณาจักรมติชนปัจจุบันนี้ ซึ่งเคยเป็นนักเขียนหนุ่มรุ่นน้องย่าน “เฟื่องนคร” สมัยนั้น ปัจจุบันบทสัมภาษณ์เจ๋งๆ แบบ 12 ชิ้นนี้ ไม่มีให้หาอ่านที่ไหนแล้ว ร้อยปีเมืองไทยจึงจะมีนักเขียนแบบนี้ได้สักคนหนึ่ง ร้อยปี จะมีนักเขียนไทยที่ให้สัมภาษณ์ได้ “คมกริบ” แบบนี้สักคนหนึ่ง--หรืออาจจะไม่มีอีกเลย! นอกจากนี้ ยังมีภาคพิเศษสุดๆ คือการสัมภาษณ์ ท่านปรีดี พยมยงค์ ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ขณะลี้ภัยอยู่ ณ บ้านชานกรุงปารีส เมื่อปี 2521 ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นบทสนทนาสุดคลาสสิคของคนสองคน ที่ก้าวเดินบนถนนต่างสาย ยิ่งใหญ่ในเส้นทางของตัวเอง ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ที่เราทุกคนต้องอ่าน ต้องศึกษา ไม่ว่าคุณจะเคยอ่านงานเขียนของ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มาก่อนหรือไม่ก็ตาม
(วางจำหน่ายแล้ว)

มกราคม อำลา

.................
ข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ตลอดเวลาเจ้า พี่อ้อม 081-7164007 e-mail : tuneinpeople@gmail.com เว็บไซต์ http://www.tunegerden.com/

หน้าซองจดหมายอาปุ๊ + บทรำพึง ถึงคนที่ไปจิบไวน์บนฟ้า

บทรำพึง...
คิดถึงคนบางคน
ที่กำลังจิบไวน์บนฟ้า.. ภาพจาก tuneingarden.com
Last update: July,04-2009 ......................
ใครเขียนหนังสือมาบ้างจะรู้ เวลาไม่ได้เขียนอะไรนานๆ มันจะฝืด อาปุ๊-'รงค์ วงษ์สวรรค์ เคยพูดกับฉันว่า "ตอนอาหนุ่มๆ นะ อาเขียนชิบหาย คิดอะไรหน่อย เห็นอะไรหน่อย อยากเขียน แล้วก็เขียนออกมาได้มหาศาล บางทีกลับไปอ่าน ยังรู้สึกว่ามันต้องแก้ตรงนั้นแก้ตรงนี้ คือสมัยหนุ่มจะแรงดี แต่งานเขียนอาจจะไม่ค่อยดีเหมือนตอนแก่"...ฉันก็ว่า "อุ๊ย อา ยิ่งดีสิคะ ยิ่งแก่ยิ่งเขียนกระจายไปเลยสิ ดีจะตาย"แต่อาปุ๊ตอนนั้นนั่งรถเข็นมาร่วมงานหนังสือมติชนที่เชียงใหม่ตอบฉันว่า"ตอนแก่นี่ ความคิดดีๆ มันเยอะก็จริง แต่ไม่ค่อยมีแรงเขียนว่ะ"...คลิกอ่านต่อ.............. ......... *... ...คนอ่าน .........47 ความคิดเห็น

งานอาปุ๊อีกชุด

น้ำผึ้งพระจันทร์หยดแรก
'รงค์ วงษ์สวรรค์
คัดสรรผลงาน'รง วงษ์สวรรค์ ที่ติดหนึบอยู่ในดวงใจ 'ปราย พันแสง ผลงานมาสเตอร์พีซแห่งระลึกถึง รวมผลงานเขียนแห่งแรงบันดาลใจของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่มีอิทธิพลต่องานเขียนของ'ปราย พันแสง ทั้งงานเขียนที่ดีที่สุด รักที่สุด และแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่สุดของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ในสายตาของคนเขียนหนังสือรุ่นหลัง ผู้ยังมี " ' " อยู่นำหน้าชื่อตามนักเขียนในดวงใจและยังบูชาผลงานของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ไม่เสื่อมคลาย ทุกเรื่องในเล่มนี้คัดสรรค์มาเพื่อนักอ่านหน้าใหม่ ที่ไม่เคยได้สัมผัสผลงานชิ้นเยี่ยมจริงๆ ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ มาก่อน รวมทั้งสำหรับนักอ่านหน้าเก่า ที่อยากจะอ่านใหม่อีกครั้งในวันนี้ [มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้]
......................................................................................... ..................................................................
...................... ........................................................................................ ........................................................................................ .......................................................................................
.
SEX : เซ็กซ์กอฮอลิก
'รงค์ วงษ์สวรรค์ .... รวมผลงาน sex life ทัศนคติและรสนิยมเกี่ยวกับเซ็กซ์ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เจ้าตัวบรรจงคัดสรรค์เตรียมใส่แฟ้มไว้สำหรับการรวมเล่ม แต่บังเอิญมีธุระต้องไปจิบไวน์บนฟ้าเสียก่อนที่งานจะสำเร็จเป็นเล่ม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนจะได้อ่านจากเล่มนี้ คือสิ่งที่'รงค์ วงษ์สวรรค์ ตั้งใจทิ้งเอาไว้ให้เราคิดถึงเขาโดยเฉพาะ [มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้]
..........................................................................................
.........................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................................
..........................................................................................
...............................................................................................................................................

ฉันเกลียดเธอ

คนอ่าน




ฉันเกลียดเธอ
ฉันรักเธอ ชีวิต
'ปราย พันแสง
...

คู่มือนักบริโภคของหวาน คัดสรรจากคอลัมน์ฮิตหนังสือพิมพ์มติชน หน้า 14 วันอาทิตย์ ผลงานของ’ปราย พันแสง ที่มีผู้อ่านตัดเก็บมากที่สุด มีผู้นำไปแต่งเพลงมากที่สุด มีผูนำไปอ้างอิงในบล็อกและเว็บไซต์ต่างๆ มากที่สุด และถูกส่งต่อๆ เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์มากที่สุดในรอบทศวรรษ

ในชีวิตเราทุกคนคงเคยผ่านพบมิตรภาพแสนดี แต่มีกี่คนที่รักษามันเอาไว้ได้คงมั่นไม่หวั่นไหว วันคืนแห่งชีวิตกลืนกินและฉุดดึงเรารุดไป หันกลับมามองข้างหลังอีกทีอาจจะเศร้าใจ หากพบว่าคนที่เราไว้ใจ ไม่มีใครเดินตามเรามาอีกแล้ว –
แค่อยากรู้…เธอยังไม่ลืมฉัน

เมื่อรักใครคนหนึ่ง จึงไม่สำคัญเลยว่าเราจะได้กอดกันหรือไม่ ความรักบางอย่างในชีวิตคนเราเอื้อมไม่ถึง สัมผัสไม่ได้ เหมาะสำหรับเอาไว้มองดู ไว้ชื่นชมอยู่ไกลๆ – รักเธอกอดคนอื่น

หากฉันตาย ขอเธอจงอย่าร้องไห้ ความตายเป็นเพียงบ้านใหญ่อีกหลังหนึ่ง บ้านที่ซึ่งเบาบางโปร่งใส เป็นบ้านที่เราประดับภาพตกแต่งไว้กับผนังแห่งความว่างเปล่า เมื่อฉันอยู่ในบ้านแห่งความตาย ฉันจะมองเห็นเธอได้ในทุกหนแห่ง– คนดีอย่าร้องไห้

ทหารหนุ่มแอบหลงรักเจ้าหญิงเลอโฉม เจ้าหญิงบอกเขารอคอยอยู่ใต้ระเบียงห้องของเธอให้ครบ 100 วัน 100 คืน แล้วเธอจะเป็นของเขาตลอดไป ทหารหนุ่มเฝ้าคอยอยู่ตรงนั้นวันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า รอคอยในสายลมบาดผิว รอคอยในสายฝนกระหน่ำ รอคอยในความเหน็บหนาวของหิมะ จนหยาดน้ำตาพรูพราวเป็นสาย จนกระทั่งถึงคืนที่ 99 ทหารหนุ่มหยุดร้องไห้ หยุดรอคอย หยุดทุกอย่างไว้ แล้วเดินจากไป --พลทหารกับเจ้าหญิง
.........
.
แค





แค่อยากรู้ เธอยังไม่ลืมฉัน
.......
Piglet sidled up to Pooh from behind.
"Pooh!" he whispered.
" Yes,Piglet? "
"Nothing," said Piglet,taking Pooh's paw.
" I just wanted to be sure of you."


ภาพมิตรภาพแสนซื่อ ขณะที่พิกเล็ทเดินตามหมีพูห์ไปต้อยๆ รอยเท้าคู่เล็กๆย่ำไปบนหิมะ เคียงข้างกับรอยเท้าของพูห์ไปตลอดทาง เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง

ทั้งคู่คงเดินมาด้วยกันนานพอสมควร และคงไม่ได้คุยอะไรกันเลย พิกเล็ทเลยต้อง"ขอเสียง"ด้วยการเรียกพูห์ เมื่อพูห์ขานรับและถามกลับว่า"มีอะไรหรือพิกเล็ท"พิกเล็ทกลับเกาะมือพูห์ไว้ก่อนตอบว่า"เปล่า ไม่มีอะไร แค่อยากมั่นใจว่าเราเดินมาด้วยกันเท่านั้นเอง"

ภาพนี้ ถ้อยสนทนานี้ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง สังเกตไหมว่าพูห์เดินนำหน้า ควรเป็นพูห์หรือเปล่าที่น่าจะเป็นฝ่าย"ขอเสียง"พิกเล็ท ว่ายังเดินตามตัวเองมาหรือไม่ นั่นหมายถึงว่าเป็นความกังวลในใจพิกเล็ทเอง ที่เกรงว่าพูห์จะลืมเพื่อนตัวเล็กๆอย่างเขา

ในชีวิตเราทุกคนคงเคยผ่านพบมิตรภาพแสนดี แต่มีกี่คนที่รักษามันเอาไว้ได้คงมั่นไม่หวั่นไหว วันคืนแห่งชีวิตกลืนกินและฉุดดึงเรารุดไป หันกลับมามองข้างหลังอีกทีอาจจะเศร้าใจ หากพบว่าคนที่เราไว้ใจ …ไม่มีใครเดินตามเรามาอีกแล้ว

ไม่อยากเดินข้างหน้าเพราะเกรงว่าฉันจะลืมเธอ ไม่อยากตามหลังเช่นกัน กลัวตามไม่ทัน กลัวเธอทำฉันหล่นหาย อยากให้เราเดินเคียงกันไป อยากอุ่นใจมั่นใจ ว่าตลอดการเดินทางชีวิตอันยาวไกล …เรายังมีกันและกันไปตลอดทาง



แค่อยากรู้ เธอยังไม่ลืมฉัน
ตีพิมพ์ครั้งแรกในคอลัมน์ "ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต"
'ปราย พันแสง หนังสือพิมพ์มติชนรายวันหน้า 14
ฉบับวันอาทิตย์ 12 ธันวาคม 2542
คลิกอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือ
I Hate You
ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต




...สิบปีล่วงแล้ว
รักเธอ ...กอดคนอื่น
ถ้อยคำที่ผู้คนมักเข้าใจผิด!
last update 01.02.2009
..................
ชวนคุณมาปุจฉาวิสัชนา ว่าด้วยไม่รักก็กอดไม่ลง?
ได้กอดทุกคนที่รัก ? รักทุกคนที่กอด--เอ๊ ยังไง?
โอเค รักคนไหนได้กอดคนนั้นย่อมเป็นลาภอันประเสริฐ
แต่ถ้าเกิดคนที่คุณรักไม่อยากกอดคุณล่ะ---แล้วจะยังไง
เมื่อรักแล้วได้กอดแล้ว ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ
วันหนึ่งก็อาจเกิดรักใหม่ได้อีก
อยากกอดคนอื่นอีก คุณจะแก้ปัญหาชีวิตยังไง
มามะ --มาถอดหัวใจ
ถกกันให้แหลกไปข้าง--ให้มันรู้กัน! :)
.....
ความเดิมจากหนังสือ "ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต" มันมีอยู่ว่า

...........
เมื่อรักใครคนหนึ่ง
จึงไม่สำคัญเลยว่าเราจะได้กอดกันหรือไม่
...
ความรักบางอย่างในชีวิตคนเราเอื้อมไม่ถึง
สัมผัสไม่ได้
เหมาะสำหรับเอาไว้มองดู...
ไว้ชื่นชมอยู่ไกลๆ
....
ดวงไฟประภาคารสวยล้ำค่า
ยามเราล่องเรืออยู่ในทะเลลึก
จนหาทางกลับไม่ได้
...
เราจ้องมองดวงไฟ
เพียงให้รู้ว่าควรเดินหน้าไปทิศทางใด
ใช่จะต้องเบนหัวเรือ..เพื่อมุ่งไปจอดเทียบท่า
หน้าประภาคารเสียเมื่อไหร่
....
ได้รักเธอ...ประภาคารก็ดูสวยดี
คนที่ฉันกอดได้
ก็ทำให้รู้ว่าโลกนี้สดชื่นสว่างไสว
....
อย่าสนใจเลยนะคนดี
ว่ารักเธอแล้ว ฉันคนนี้จะกอดใคร
แค่เชื่อว่าฉันรักเธอตลอดไป
เพียงพอแล้ว
,,,,,,,,,,,,,,,

*รักเธอ...กอดคนอื่น" เป็นงานขียนชิ้นหนึ่งจากพ็อคเก็ตบุ๊ค "ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต" เคยตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์เมื่อปี 2542

.......

งานเขียนชิ้นเล็กๆ ชิ้นนี้ จัดว่าเป็นงานเขียนของฉันที่มีผู้อ่านรู้จัก และมักจะหยิบยกมาเอ่ยอ้างถึงมากที่สุดชิ้นหนึ่ง.ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

..
มันเหลือเชื่อมากว่า ถ้าคุณค้นหาคำว่า "รักเธอ กอดคนอื่น" ในกูเกิ้ล มันจะมีมากกว่า 172,000 ลิงค์ [อ่านว่าหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสองพันลิงค์ในอินเตอร์เนต] ณ เดือนมกราคม 2552 ที่เอ่ยอ้างถึงงานชิ้นเล็กๆ ชิ้นนี้
..
ในขณะที่ลิงค์เกี่ยวข้องกับ 'ปราย พันแสง ผู้เขียนงานชิ้นนี้
ในกูเกิ้ลกลับมีแค่ 60,000 กว่าลิงค์เท่านั้นเอง
ตัวเลขน้อยกว่ากันเป็นแสนๆ นะคุณ :)
...
คุณเชื่อหรือยัง
ว่าบางครั้ง "ผลงาน"
ก็ใหญ่โตมโหฬารกว่า"คนทำงาน" เยอะเลย :)
..
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
...
เพราะคนทำงานบางประเภท ก็อยากให้ผู้คนสนใจผลงานมากกว่าตัวเขา
....
ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่มีแนวคิดเช่นนี้
และเดินทางบนถนนสายนี้ด้วยความตั้งใจเช่นนั้น
..
ปัญหามันมีอยู่ว่า"รักเธอ กอดคนอื่น"ชิ้นนี้
อาจจะเป็นงานของฉันที่มีคนรู้จักมากที่สุด
แต่มันก็เป็นงานเขียนที่มีคนอ่านแล้วเข้าใจผิดมากที่สุด
....
ฉันก็เลยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร่ำไห้
กับมันดี
...
เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจมาหลายปี เพราะถือว่าเขียนจบไปแล้ว พิมพ์เป็นเล่มไปแล้ว จะพูดมากไปก็ใช่ที่ ฉันว่ามันบ้ามาก หากจะต้องวิ่งไปแก้ไขอะไรๆ ที่เราตีพิมพ์ไปแล้วอย่างนั้น
....
เพราะโลกแห่งการอ่านนั้นเสรี คนอ่านมีสิทธิ์ตีความไปได้ทุกอย่าง ตามแต่สติปัญญาความคิดอ่านของเขาจะพาไป
...
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความหมายแท้จริงที่ผู้เขียนตั้งใจสื่อ
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ
..
ฉันยอมรับ
ฉันเข้าใจดี
...
แต่มีบางคนไปไกลกว่านั้น ตีความดีความชอบของงานชิ้นนี้ เพื่อเป็นเหตุผลหาความชอบธรรมให้ตัวเอง ในการทำให้ครอบครัวชาวบ้านเขาแตกแยกนี่สิ
...
เว็บไซต์บางแห่ง.นำ"รักเธอกอดคนอื่น"ไปแปะหัวแปะท้ายฮาวทู(ซึ่งไม่รู้ว่าเอาจากที่ไหนมาแปะไว้)ว่าด้วยวิธีหว่านเสน่ห์กับผู้ชายผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว,วิธีแย่งแฟนเพื่อน.อะไรทำนองนั้น ---เป็นงั้นไป
...
โอ้! ใครหนอใคร
ไม่สงสารคนเขียน
ก็สงสารคนอ่านบ้างเถอะ
ใครนะใคร---ช่างไม่ละอาย
...
"รักเธอกอดคนอื่น"...สิบปีก็ผ่านแล้ว
อาจถึงเวลาที่ฉันต้องมาเก็บกวาดสะสางหยากไย่ในครัวเรือนกันสักทีแล้ว
ดีไหม :)


...

สำหรับคนแถวนี้ หลังจากปุจฉาวิสัชนากันมาพักหนึ่ง

จากคอมเมนต์ข้างล่างที่เราคุยกัน

ตอบกันไปบ้างแล้ว

ก็มีความเห็นเหมือนและต่างกันไปดังนี้ค่ะ

.........

-คนเราอาจรักได้มากกว่าหนึ่งในครั้งเดียวกัน.เพราะหัวใจนั้นลึกลับซับซ้อน.คนรักเลิกรากันไกลแล้ว.แต่บางทีความรักมันยังอยู่ ก็จะให้ทำยังไงละ แต่เราควรกอดได้เพียงแค่หนึ่งเท่านั้น.เพราะอ้อมแขนเรามีเนื้อที่พอแค่คนๆ.เดียว รักแต่กอดไม่ได้นั้นก็น่าเศร้า แต่บางทีคิดถึงก็สุขใจดีเหมือนกัน กอดได้แต่ไม่รักนั้นซิเศร้ากว่า.หากกอดๆ.กันอยู่ดันไปปิ๊งคนใหม่ ก็เลิกกอดกันเหอะ จะทนอึดอัดทำไม รักแต่กอดไม่ได้นั้นเข้าใจ.กอดได้แต่ไม่รัก ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่ากอดได้อย่างไร @moment

-เข้าใจว่าไอ่คนกอดน่ะมันเห็นแก่ตัวและสงสารคนถูกกอดค่ะพี่ปราย ถ้ากอดคนที่ตัวเองรักไม่ได้ ก็อย่าเอาอ้อมกอดของตัวเองไปทรมานหัวใจคนอื่นเลย เวลาอ่านบทนี้ ก็จะคัดกรองเอาแค่ส่วนที่หมายถึงคนบางคนก็เป็นได้แค่ประภาคารในชีวิตเราเท่านั้น แล้วก็จะเก็บเค้าไว้แค่ตรงนั้น แต่ไม่รัก ไม่เคยคิดที่จะเอาไปใช้เป็นข้ออ้างในการกอดใครค่ะ เพราะถ้าไม่รักแล้ว ก็คงกอดคนนั้นไม่ลงหรอกค่ะ ^^


'ปราย พันแสง ตอบ-ไม่รักแล้วคงกอดไม่ลง--คอนเฟิร์มค่ะน้อง แต่ก็ต้องมีคนสงสัยมากๆ ใช่ไหม ว่ารักเธอแล้วยังมารักไอ้คนที่เรากอดนี่อีกได้ยังไง

โธ่ พ่อแม่รักลูกคนโตได้เท่าไหร่ ยังรักลูกคนถัดมาได้อีกเท่าๆ กัน ขอบเขต ความสามารถในการรัก ของคนเรานั้นกว้างใหญ่และขยายออกไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่ารักแบบพ่อแม่ รักแบบหนุ่มสาว หรือแม้แต่รักต้นไม้ใบหญ้าสัตว์เลี้ยงก็ตามเถอะ

ยกตัวอย่างความรักที่เรามีต่อแฟนเก่ากับแฟนคนปัจจุบัน-ก็เป็นอย่างนั้น เราจึงต้องแยกให้ออกระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ระหว่างความรับผิดชอบ กับเสียงในใจ พวกที่มีปัญหารักสามเส้านั้นคือพวกที่ไม่รู้จักแยกแยะ และรักไม่เป็น

อย่างเรามีแฟนปัจจุบัน.ถ้าเรารักเป็น.แยกแยะได้.เราก็จะไม่ยอมไปวุ่นวายกับแฟนเก่าอีกก็เท่านั้น.เยื่อใยความผูกพันที่มีก็แค่เก็บไว้ในใจ จะไปกงไปกอดเค้าอะไร มันก็ไม่ได้หรอก-จริงมั้ย! มันเป็นจรรยาบรรณของคนมีหัวใจ เพราะเราก็ไม่อยากให้คนที่เรารักทำกับเราอย่างนั้นเหมือนกันใช่มั้ย :)



-"สำหรับความรัก.แค่ได้รักก็เพียงพอแล้ว".ใครไม่รู้บอกไว้.. แค่รักไม่ผิดหรอก.ถ้าคนที่กอดก็รักถึงแม้จะน้อยกว่า(นิดนึง)คนที่ทำให้โลกสว่างไสวได้เนี่ยใครๆก็อยากกอดเนอะ ^^ PLANKTON


'ปราย พันแสง ตอบ คุณ PLANKTON นั่นสิคะ-ถึงว่า.กอดแล้วสดชื่น.โลกสว่างไสว.ใครๆ.ก็อยากกอด ใครๆ.ก็ย่อมรัก หรืออยากรัก-ยังไงก็รักอยู่แล้ว
นี่ไง ดิฉันจึงไม่เคยเข้าใจว่า-ทำไมคนจึงชอบคิดว่าเราไม่ได้รักคนที่เรากอด สงสัยดิฉันสื่อสารล้มเหลวจริงๆ ล่ะค่ะ :)



- คำสี่คำในบทนี้ คำไหน สำคัญที่สุด รัก-เธอ-กอด-คนอื่น ดูเผินๆ ทุกๆคำสำคัญเท่าเทียมกันและโยงใยถึงกันอย่างแยกไม่ออก แต่เมื่อใช้ใจดวงเดียวที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้มองให้ลึกซึ้งจริงๆแล้ว.คำว่า "เธอ" คือที่สุดของผมครับ # ชายที่หลงรักสีเขียว (มะกอก)

'ปราย พันแสง ตอบ คุณ ชายที่หลงรักสีเขียว (มะกอก) ถามว่าสี่คำของคุณอันไหนสำคัญที่สุดดิฉันคิดว่า "รัก" ค่ะ นี่ตอบแบบเจ้าของโรงงานน้ำตาลตัวแม่เลยนะเนี่ย ฮ่าฮ่า



- เพราะรักเธอกอดคนอื่น... ทำให้ได้เข้าใจว่า แค่ได้รักก็พอแล้ว แค่ได้เฝ้าดูคนๆ นั้นก้าวเดิน เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ ก็พอใจแล้ว แต่ถ้าถามว่ารักใครมากกว่ากัน ก็คงรักคนที่รักได้และกอดได้อย่างสบายใจน่ะค่ะ รักเธอกอดคนอื่น ก็คงดีว่ากอดเธอ กอดคนอื่นมั๊งคะ อิอิ -_" lighthouse@vavee

'ปราย พันแสง ตอบ คุณ lighthouse@vavee

ถูกต้องเลยค่ะ..น้อง-รักนะ จุ๊บจุ๊บ ฮ่า



-เราไม่สามารถกอดทุกคนที่เรารักได้และไม่สามารถรักทุกคนที่กอดได้.เพราะถ้ากอดของเรามันมีความสำคัญกับคนอื่น.เราก็พร้อมที่จะกอดเค้าได้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ.เพราะกอดสำหรับบอสไม่ต้องใช้หัวใจ ความรักเท่านั้นที่ต้องใช้หัวใจอย่างเดียว บอสสส

'ปราย พันแสง ตอบ คุณ บอส กอดไม่ต้องใช้หัวใจหรือคะ เดี๋ยวพี่ต้องกลับไปคิดอีกทีนะ เพราะใน "รักเธอกอดคนอื่น" บทนี้จริงๆ แล้วก็รักคนที่เรากอดอยู่จะตายนะ บางทีอาจจะรักมากกว่า "เธอ" เสียอีกเพราะเรากอดเค้าได้ แต่ทำม้ายย ทำมาย คนจึงตีความว่าไม่ได้รักเสียนี่ ฮ่า



- ขออนุญาต ต่อความยาวสาวความยืด กับคุณบอส :-) เราเข้าใจมาตลอดนะเนี่ยว่าการกอด เป็นการแสดงความรักอย่างนึง.เพิ่งรู้ว่า.มีคนคิดว่า.กอดโดยไม่รักรักก็ได้.สงสัยต้องระแวงคนมากอดหน่อยซะแล้ว.น่ากลัวๆ :-) ลงชื่อ ผู้หญิงหลงรักสีน้ำตาล *0*



'ปราย พันแสง ตอบ คุณ ผู้หญิงที่หลงรักสีน้ำตาล เริ่มสนุกแล้วนะเนี่ย บอสสู้ๆ บอสสู้ตาย น้องสีน้ำตาลก็ทำให้พี่เริ่มกลัวน้องเหมือนกันนะ ฮ่าๆ แต่พี่กำลังคิดว่า นี่เรากำลังตีความหมายของคำว่า "กอด" ไปทางอื่นกันหรือเปล่านะ ซึ่งจริงๆ แล้ว ก่อนที่จะเตลิดเปิดเปิงไปกับการ"กอด" ขนาดนั้น พี่ว่าเราอาจจะต้องเข้าใจสิ่งที่เราเรียกว่า "รัก" กันอีกทีนะ



-ผมคิดว่าผมคงเข้าใจเหมือนเดิม ผมถามคุณดีกว่า ถ้าวันนี้มีคนบอกว่า ไม่อยากกอดเพราะไม่อยากผูกพัน คุณคิดอย่างไร ฮือบางทีเผื่อจะคิดอะไรออกและตาสว่าง จาก คนเคยรู้จัก

'ปราย พันแสง ตอบ คนเคยรู้จัก--แหมลงชื่อเสียน่าใจหาย ...ห่างไกลจริงๆ นา :)
"ไม่อยากกอด เพราะไม่อยากผูกพัน"หรือคะ.ไม่หรอกม้างงงง.ก้อนเนื้อเล็กๆ.ใต้อกเบื้องซ้ายของคนเรา.มักจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินคาดเสมอ.วันหนึ่งแก่ๆ ตัวไป.กอดใครไม่ได้.ไม่มีใครให้กอดหรือไม่นึกอยากกอดใครอีกต่อไปแล้ว.คุณอาจจะเริ่มรู้ตัวแล้วล่ะว่า.ไอ้ที่คุณไม่ยอมกอดเค้านี่แหละ.อาจจะยิ่งผูกพันคุณกับเขาแน่นหนานักล่ะ :)

เพราะอะไรน่ะหรือคะ--ก็เพราะธรรมชาติของมนุษย์เราไงคะ อะไรที่ได้มาง่ายๆ สบายๆ นานวันไปก็ค่อยๆ หลงลืม เบื่อๆ จืดจางกันไป.แต่อะไรที่ต้องหักห้ามใจ-ไม่ให้แตะ-แตะไม่ได้-กอดไม่ถึงนี่แหละ---ตัวร้าย.มันมักตราตรึง สดใหม่ในใจคุณไปจนวันตายเชียวล่ะค่ะ คุณคอยดูละกัน :)

คุณทำให้ดิฉันนึกถึงนักเขียนคนโปรดของดิฉัน-นอร์แมน.เมลเลอร์.ค่ะ.เค้าบอกว่า.เค้าแอนตี้การ masturbate ของมนุษย์ พวกที่ปลีกวิเวกไปมีเซ็กซ์ตามลำพังเนี่ยเขาเกลียดมาก ฮ่า (ขำจริงๆเน้อ) เขาบอกว่าพวกนี้รกโลก ไม่รู้เกิดมาทำไม เพราะเขาเชื่อว่าเวลาคนเรารักกัน หรือมีอะไรๆ กันเนี่ย มันจะเปลี่ยนแปลงอีกฝ่าย หรือเปลี่ยนแปลงโลกนี้ไปจากเดิมเสมอ ไม่มากก็น้อย ...ซึ่งดิฉันคิดว่า"กอด"เนี่ย ก็น่าจะอยู่ในข่ายลัทธิเมลเลอร์นี้เหมือนกัน-หรือคุณว่าไง-อา...ดิฉันไปไกลเกินไปหรือเปล่าเนี่ย จบก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ :)



-ต้องขอสารภาพก่อนนะคะ ว่าเคยนำงานเขียนชิ้นนี้ของพี่ปรายไปลง spcae ของตัวเองด้วย แต่ก็ลง credit ไว้นะคะ ^^ รักเธอ กอดคนอื่น คิดว่า บางครั้งความรักก็ไม่ได้หมายถึงการได้ครอบครองเสมอไป ฉันรักเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องมารักฉัน เสียเมื่อไหร่ ปัจจัยที่ทำให้เราได้รักกันมันมีหลายอย่าง จะออกแนว รักกันแต่พ่อแม่กีดกัน ก็ไม่ใช่นะ ^^ คำว่า "รัก" ของแต่ละคน ย่อมมีนิยามที่แตกต่างกัน รักเธอ กอดคนอื่น คงจะเสมือน ฉันรักเธอ แต่ฉันก็ไม่สามารถเคียงข้างเธอได้--อย่างนั้นกระมัง แต่เราก็มีความสุขกับการได้มองเห็นเขานะคะ ** มินตรา **


'ปราย พันแสง ตอบ คุณ มินตรา อ่า แบบนี้แหละ ใช่เลยค่ะ.ตีแตกโป๊ะเลยค่ะ :) แต่สำหรับพี่ ไม่รู้ไม่เห็นก็ได้นะ ต่างคนก็ต่างอยู่กันไป คนเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ กอดกันไม่ได้ ก็สามารถรู้สึกถึงกันดีๆ ก็ได้นี่นา ใช่มั้ย ใช่มั้ย


- โอ้พึ่งเห็นปุจฉาที่พี่ปรายชวนถกเรื่องกอด ที่จ่าหัวไว้ข้างบน ประมาณว่าถกกันให้แหลกไปข้าง น่าสนุกจริง นึกถึงวันที่นั่งกินเหล้ากับเพื่อนแล้วเถียงกันด้วยเรื่องคล้ายอย่างนี้แหละ แล้วผู้หญิงก็ตอบอย่าง ผู้ชายก็ว่าอีกอย่าง สรุปวันนั้น เซ็งเป็ด มั่วแต่เถียงกันจนลืมกินเป็ด สำหรับฉัน..ฉันว่าคนเราน่าจะกอดเฉพาะคนที่เรารัก เพราะไม่งั้นจะทนกลิ่นขี้เต่าเหม็นๆของเค้าไม่ได้ และเผลอตอนดึกๆจะแอบบีบคอกันตายเปล่าๆ ฉันก็ว่าตามที่ฉันคิดนะค่ะ ฉันมันใจร้ายค่ะ นิสัยน่าเกลียดฉันเชื่อว่าความรักจะทำให้อ้อมกอดของเราพอดี ไม่หลุดหลวมง่ายและอุ่นพอใช้แทนผ้าห่มได้ ฉันยืนยันไม่รักไม่กอด....เพื่อนผู้ชายมาดแมนของฉันวันนั้นมันว่า"ไม่รักแต่กอดเพราะสงสาร" ดูมันทำ! คุณผู้ชายที่ผ่านมาทางนี้ ขี้สงสารมั้ยหนอ อยากรู้จัง @moment



'ปราย พันแสง ตอบ คุณ @moment
เรื่องแบบนี้ต้อง คุยกันหลังกินดื่มผ่านไปสักสองสามแก้ว จะออกรสเป็นพิเศษค่ะ เรื่องกอดเพราะสงสารของเพื่อนชายมาดแมนของน้องนี่ ...ก็น่ะนะ พี่เองก็ไม่ค่อยเข้าใจเค้าเหมือนกันค่ะ ว่ายังไง แต่นึกถึงเพลงๆ หนึ่ง ที่มักจะได้ฟังเวลาไปนั่งตามผับหรือร้านอาหารตอนดึก จะมีคนร้องเพลงนี้ตามๆ กันทั้งร้านเลย พี่ฟังแล้วก็ได้แต่ปลงอนิจจัง เพลงนั้น ชื่อเพลง "คิดเสียว่าสงสาร" ของ อ้อย กระท้อน เป็นเพลงที่ขี้เมาอกหักชอบกันมากเลย ---แต่พี่นะ ไม่ชอบเพลงนี้เอาเสียเลย ร้องออกมาได้ยังงายยยยย ว่า"เพราะโลกนี้มีเธอเพียงคนเดียว ฉันจึงเสียเธอไม่ได้ ถ้าเธออยากทำร้ายก็เชิญ แต่อย่าเดินหนีไปจากฉัน คิดเสียว่าสงสาร อย่าลงทันฑ์ด้วยการลาจาก"


โอ้ยยย ตาย
หมดเลย...หมดกัน


รักอะไรจะหมดสภาพซมซาน เกาะแข้งเกาะขาเค้าขนาดนั้นนะ..รั บ ไ ม่ ไ ด้ อ่ะ.รักประเภทไหนกันที่ต้องอ้อนวอนร้องขอกันขนาดนี้(รักเนี่ยมันขอกันได้ซะทีไหน).ช่างไม่มีศักดิ์ศรีเอาซะเลย.ฟังทีไรพี่ก็นึกทุกที.ว่าผู้หญิงในเพลงคนนี้น่าจะโดนซักฉาดหน่อยนะ โทษฐานที่ร้องเชิญชวนทำร้ายดีนัก -ฮ่า!



-บางครั้งบทความนี้ก็ถูกนำมาใช้เป็นคำปลอบใจสำหรับคนที่มีคนรักสองคนแล้วคนกลางก็มักจะนำบทความนี้ มาเขียนหรือส่งให้คนรักอีกคนนึงที่เค้าไม่สามารถกอดได้ ถ้าถามว่า ทำแบบนี้ถูกรึเปล่า หนูรู้สึกว่ามันไม่ถูกเลย แต่ไม่รู้ทำไม พอได้ฟังหรืออ่านบทความนี้จากคนๆ นั้นทีไร กลับพอใจที่จะได้ยินแบบนั้น ทั้งๆที่รู้ว่า จริงๆแล้วมันเป็นแค่การเอาบทความดีๆ มาใช้เป็นเครื่องมือของคนเห็นแก่ตัว ที่จริงหนูว่า คนที่เอาไปตีความผิด บางทีเค้าอาจตั้งใจที่จะตีความไปแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ เพื่อหาเหตุผลให้กับสิ่งที่ตัวเองทำโดยเฉพาะ เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจว่า ทำไมคนหนึ่งคนถึงรักคนได้สองคนพร้อมกัน แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไม // blastnest


’ปราย พันแสง ตอบ blastnest อืมม์ รักสามเส้าเนี่ย มันเจ็บจริงๆ นิ แต่บางทีคนเรามันก็เลือกความรักไม่ได้หรอก ก็มันรักไปแล้ว จะทำไง แต่เราเลือกใช้ชีวิตได้ไง เลือกที่จะไม่ช้ำใจไปมากกว่านี้ ก็อาจจะต้องหัดมองประภาคารให้ดูสวยดี---บ้างนะ ---ไม่เชื่อลอง :)


-ชอบจังเลยครับ "เจ้าของโรงงานน้ำตาลตัวแม่""จรรยาบรรณของคนมีหัวใจ"ป.ล. ขอให้คุณ'ปราย และทุกๆคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น มีความสุข และอบอุ่นเสมอ กับการกอด ไม่ว่าจะเป็น การกอดแบบธรรมดา แค่โอบไม่ถึงกับกอด และ กอดรัดฟัดเหวี่ยง นะครับ #คนงานโรงงานน้ำตาล(อ.วังน้ำเขียว กะเช้า)

’ปราย พันแสง ตอบคุณ #คนงานโรงงานน้ำตาล(อ.วังน้ำเขียว กะเช้า)
อ่า บางทีดิฉันจะลองเขียนเรื่องการกอดล้วนๆ บ้างดีกว่า :)ให้มันเป็นเรื่องกายล้วนๆ โดยไม่เกี่ยวกับใจเลยนะ ดูซิว่าจะเป็นไง :)บางทีน้องสีน้าตาล และอีกหลายน้องแถวนี้มาอ่านแล้วอาจจะเลิกอ่านงานเขียน 'ปราย พันแสง ไปเลยก็ได้นะฮ่า


-แง๊!! คุณมินตรากับพี่ 'พี่ปรายใจร้าย *0*กอดที่เรารักไม่ได้ ทำไมต้องไปกอดคนอื่นที่ไม่เรารักด้วยละคะ แง๊ๆๆๆ!! โอเคค่ะ โอเค เราอาจจะมีความหมาย หรือมีนิยามในความรักที่แตกต่างกัน จะไม่ถามว่า มันจำเป็นไหมที่จะต้องรักถึงจะ "กอด" ใครอีกคนได้ แต่ถามว่า "กอด"มันคือการแสดงออกของความรักหรือเปล่าคะ? *0* //ผู้หญิงหลงรักสีน้ำตาล


’ปราย พันแสง ตอบ ผู้หญิงหลงรักสีน้ำตาล ขำน้องจริงๆ เหมือนโดนบังคับให้ยอมรับยังไงไม่รู้นะเนี่ย ไม่ต้องยอมรับก็ได้ค่ะน้อง พี่ไม่ว่า ฮ่า ถึงไม่ถาม ว่าจำเป็นไหมที่เราต้อง "กอดอีกคนได้" แต่พี่ก็อยากตอบนะ รักข้างเดียว รักแค่ในใจ รักไม่สัมฤทธิ์ผลจากอีกฝ่ายนั้น มันก็เหมือนภาคทฤษฎีลอยๆ ที่ไม่มีภาคปฏิบัติมารองรับนั้น ก็อาจจะมีฮาๆ ดังเช่นนอร์แมน เมลเลอร์ ที่เค้าเหยียดหยามพวกชอบสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองว่ารกโลกนั่นแหละค่ะ ฮ่าฮ่า คงต้องรบกวนให้น้องอ่านเรื่อง"ลัทธิเมลเลอร์"ที่พี่ตอบไปแล้วอีกครั้งหนึ่งแล้วล่ะค่ะ




-เอ่อ พูดถึงหนังสือเรื่องนี้ รักเธอ รักฉัน รักใคร ๆ แต่สรุปได้เลยว่า รักฉัน มันก็ดูออกได้แล้วละค่ะว่ามันคือความรักที่บริสุทธิ์ไม่ว่าจะรักแบบไหน ๆ แต่ถ้าให้ไปกอดคนอื่นนี่ดิ เป็นประเด็นที่ทำให้ปอแอบเคืองพี่ปรายไปพักใหญ่ ๆ 55+ (ผิดอารายนิ) กอดคนอื่น อาจจะเป็นกอดแม่ กอดคนรัก คนอื่นในที่นี้ ไม่ได้รวมถึงทุกคนเสมอไปเนาะ (พยายามมองโลกในแง่ดีนะเพ่) แต่ที่สำคัญ อยากฟังความในใจของของพี่ปราย มากก่า อ่ะ 555+ ดีมั้ย! ดีมั้ย! (จุ๊บๆ ค่ะ) แต่พูดไปแล้ว กอดสำหรับปอ สำคัญนะพี่ เพราะนู๋ชอบกอดเพื่อแสดงความรัก Oporlesion


’ปราย พันแสง ตอบคุณ Oporlesion แน่ะ มีแอบเคือง อย่าเพิ่งเคืองเลยค่ะ.เพราะต่อไปจะหายเคือง เนื่องจากว่าที่น้องเคืองนั้น อาจเป็นเพราะว่าน้องยังอายุน้อยเกินไป--แบบว่าอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าใจเรื่องนี้ค่ะ เชื่อพี่ (อีกแย้ว โฆษณาชวนเชื่อจริงๆ เล้ย ฮ่า) อ้อ การกอดเป็นการแสดงความรัก ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกค่ะน้อง เช่นว่าโกรธกันมาเป็นเดือนๆ ปีๆ เดินไปกอดแน่นๆ ทีเดียว รับรองโลกเปลี่ยนได้เลยค่ะ เชื่อพี่ ฮ่า


-จริงๆมันน่าจะเป็น รักคนอื่นแต่กอดเธอ หรือเปล่า ??? อิอิอิ คิดถึงเกี่ยวกับใครสักคน ที่แอบ(หรือไม่แอบ)รักใครอีกคนนึงอยู่ รักเขามากมากเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่เคยรักเราซะที แล้วก็มีใครอีกคนนึงที่เข้ามา เขาเป็นคนดีและเป็นคนที่เราสัมผัสได้มากกว่า คนในฝันคนนั้นที่ถึงเราจะทำยังไงเขาก็ไม่รักเราซะที บางทีเราก็ต้องหาอะไรที่มันไม่เหนื่อยดีกว่า

แต่คิดว่าจริงๆคนที่รักเธอกอดคนอื่นหนะ เค้าก็น่าจะรักคนที่เค้ากอดพอสมควรนะ ไม่งั้นเค้าคงไม่ยอมกอดหรอกจริงมั้ย และในใจลึกๆก็คงอยากจะเป็นคนรักเดียวใจเดียวแหละ แต่มันทำไม่ได้นี้สิและคนที่โดนกอด ก็น่าจะรู้ตัวเองเหมือนกันว่า จริงๆ แล้วในใจคนที่กอดเรา เค้ามีใครอีกคนซ้อนไว้ แต่ก็รับได้ไม่เป็นไร ก็เพราะฉันรักเธอมากเหมือนกัน เธอจะเก็บใครอีกคนไว้ในใจ ก็ไม่เป็นไร ....ไม่ระบุชี่อ


’ปราย พันแสง ตอบคุณ ไม่ระบุชี่อ รักคนอื่น แต่กอดเธอหรือคะ ฮ่า ไม่น่านะ ไม่น่าพี่ว่า บางที ในงาน"รักเธอ กอดคนอื่น" ชิ้นนี้ พี่ว่า "เธอ" น่ะ อาจจะน่าสงสารที่สุด เหมือนโดนตบหัวหลุดไปแล้ว ดันมาลูบหลังปลอบว่า ที่ต้องทำหัวหลุดไปนิดนึงนั้นก็ยังรักนะ รักนะ ทำนองนั้น :)

ที่คุณบอกว่า "คิดถึงเกี่ยวกับใครสักคน ที่แอบ(หรือไม่แอบ)รักใครอีกคนนึงอยู่ รักเขามากมากเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่เคยรักเราซะที แล้วก็มีใครอีกคนนึงที่เข้ามา เขาเป็นคนดีและเป็นคนที่เราสัมผัสได้มากกว่า คนในฝันคนนั้นที่ถึงเราจะทำยังไงเขาก็ไม่รักเราซะที บางทีเราก็ต้องหาอะไรที่มันไม่เหนื่อยดีกว่า"
ถูกต้องแล้วค่ะ
คอนเฟิร์ม :)

.............





........
...........
ลิงค์เกี่ยวกับพ็อคเก็ตบุ๊ค
I Hate You - ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ ชีวิต
..........

พ็อคเก็ตบุ๊คออกใหม่ ฟรีฟอร์มสำนักพิม

[ขวา]
พ็อคเก็ตบุ๊คออกใหม่ วางจำหน่ายแล้ว มกราคม 2553
ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์
Last update :Jan-2010
.............

●พ็อคเก็ตบุ๊คฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ปกติวางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature เอกมัย (Vanilla House), ร้านแพร่พิทยา, ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ --หาไม่เจอกรุณาสอบถามพนักงาน [เค้าจะได้รีบหาหรือรีบสั่งมาวางไงคะ เป็นการช่วยสำนักพิมพ์ได้ด้วยทางหนึ่ง] .ใ

● หาอ่านไม่ได้จริงๆสามารถติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ สำนักงานฟรีฟอร์ม....... บริษัท ลมดี จำกัด เลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259 (เวลาทำการ 09.00 - 17.00 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์) และ 08-5664-9612 อีเมล: freeformthailand@hotmail.com

สำนักพิมพ์ โลนลี่ปาย [lonely pai]
พิมพ์หนังสือปาย ทำในปาย และขายเฉพาะในปาย
ในเครือฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ รับสมัคร กองบรรณาธิการ และ กราฟิคดีไซเนอร์ ฝีมือดี พร้อมเดินทางมาทำงาน
ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
กองบก.ควรมีกล้องดิจิตอล และ pc ของตัวเองมาด้วย
ดีไซเนอร์ควรมีแมคฯ และใช้อินดีไซน์คล่อง
สนใจส่งประวัติและผลงานมาที่อีเมล์ lonelypai@hotmail.com
ด่วนมากๆ งานรอเพียบจ้า!
.......................

ส้นสูง สโนว์ไวท์ ลิปสติก

คำ ผกา เธอคือไม้ขีดไฟ ผู้พร้อมจะจุด : พ.ศ.นี้บอกได้ว่าเธอก้าวขึ้นมาเป็นเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นอีกคนหนึ่ง ด้วยงานเขียนเปื้อนสีโยนออกมาพร้อมลูกระเบิดและไม้ขีดไฟที่จุดติด นอกเหนือจากเนื้อหาที่โดนใจคนหลายคน และขัดใจคนอีกหลายคนเช่นกัน สิ่งที่ทำให้โดนและขัดนั้นคือภาษาที่สื่อสารกับผู้อ่านอย่างถึงอกถึงใจ ร้อนแรง และแสบสันต์
..................

ส้นสูง สโนว์ไวท์ ลิปสติก : กุสุมาลย์ ณ ลำพู + คำ ผกา - ผลงานจดหมายโต้ตอบระหว่างผู้หญิงสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ แฟชั่น สื่อ ผ่านมุมมองทางสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ภาษาพูดแบบถึงลูกถึงคน เจ็บ แสบ กัด มันส์ โดย คำ ผกา คอลัมนิสต์ลูกชาวบ้าน กุสุมาลย์ ณ ลำพู เป็นสาวไฮโซฯ เพื่อนสนิท (วางจำหน่ายแล้ว)

.............

เมนูปรารถนา รักไม่เคยชิน คำ ผกา

......................... ..............

เมนูปรารถนา : คำ ผกา -พิมพ์ครั้งที่ 2 เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ และอารมณ์โรแมนติกของฮิมิโตะ ณ เกียวโต อีกภาคหนึ่งของคำ ผกา โดยเขียนเชื่อมโยงกับฤดูกาล อาหาร เครื่องดื่ม ขนม อันหลากหลาย (วางจำหน่ายแล้ว)

..................................

............................

.........................................

................................ .........

รักไม่เคยชิน : คำ ผกา - ความรักความสัมพันธ์ ปัญหาซับซ้อนสารพันของคนสมัยใหม่ ในมุมมองของผู้หญิงยุคนี้ ผิดถูกเลวดีเราไม่เอ่ยถึง เพียงแต่ทุกอย่างสามารถอธิบายได้ด้วยมุมมองทางสังคม ประวัติศาสตร์ (วางจำหน่ายแล้วนี้)

Alice in Wonderland

...................................................
freeform fairy tales
ชุดออริจินอล 3 เล่ม ที่ห้ามพลาด
.........
เทพนิยายที่เด็กทุกคนต้องอ่าน
ผู้ใหญ่ทุกคนต้องผ่าน
.......
ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์แนะนำสุดหัวใจ :)
เริ่มต้นกันด้วย
Alice in Wonderland : อลิซในดินแดนพิศวง
by Lewis Carroll
จิระนันท์ พิตรปรีชา: แปล
.....................
มาร่วมกันต้อนรับ Alice in Wonderland ที่กำลังจะกลายเป็นฉบับภาพยนตร์อีกครั้งโดยฝีมือกำกับภาพยนตร์ของ ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับสุดเซอร์เจ้าของผลงานภาำพยนตร์เรื่องดังมากมาย (รวมถึงพ็อคเก็ตบุ๊ค "เด็กชายหอยนางรม" ที่หลายคนกำลังตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย) โดยมี จอห์นนี่ เดปป์ มารับบทบาทชายมหัศจรรย์ The Mad Hatter : จิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ บรรจงแปลสุดฝีมือ ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์จัดพิมพ์ เพื่อนักอ่านชาวไทยที่"หลงรักเทพนิยาย"และ"หลงรัก"จอห์นนี่ เดปป์โดยเฉพาะ : ) คลิกอ่านต่อ
..............

เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว+เงื้อแล้วก็ต้องฟัน

เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว........ มนันยา แปล ......... ขายดีติดอันดับ 1. จากงานสัปดาห์หนังสือไปแล้ว สำหรับ “เงื้อแล้วก็ต้องฟัน” ผลงานรวมเรื่องสั้นชั้นเทพชุดที่ 1. ของกีย์ เดอ โมปัสซังต์ นักเขียนในดวงใจตลอดกาลของนักแปลมือ 1.ของเมืองไทยอย่าง “มนันยา”ที่เจ้าตัวบรรจงคัดเลือกเรื่องสั้นแต่ละเรื่องมาแปลด้วยตัวเอง ในสำนวนคมกริบ ไม่บันยะบันยัง ถึงลูกถึงคนอันเป็นเอกลักษณ์
...............
สำหรับ ผลงานรวมเรื่องสั้นชั้นเทพชุดที่ 2. ของกีย์ เดอ โมปัสซังต์คราวนี้ “มนันยา” ยังคัดเลือกทุกเรื่องที่เธอชอบมาแปลด้วยตัวเองอีกเช่นเคย คราวนี้ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ทำให้อ่านอิ่มจุใจ ด้วยหนังสือเล่มใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องสั้นสุดเจ๋งที่คัดแล้วอย่างดี
..........................................................................................
...............................
เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว มีทั้งหมด 25 เรื่อง อาทิ .เพราะไม่กล้านอนเตียง .หอมกลิ่นคอกม้า.แกล้งเจ้าบ่าว ความพยาบาท .เรื่องรักในป่าโปร่ง .สงครามกับหญิงวิกลจริต . เผื่อจะใช้บริการ . เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว . หล่อนเป็นใคร . ผู้มีรักแท้ . ตวงเมียขาย . ปารีสที่อยากรู้จัก . ความในใจของทหารรับใช้ . โชคของผู้หมวดลาร์ . ความลับที่เพิ่งได้รู้ . ความรักอันรุนแรง 7. เบื่อเหลือเกิน . ดาบนี้ขึ้นสนิม . ความรักนิรันดร . ทนไม่ไหวแล้ว ทุกเรื่องยังคมกริบ โหด มันส์ ฮาแบบไม่กล้าวาง ไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเช่นอีกเช่นเคย ฟรีฟอร์มรับประกันว่าอ่านแล้วติดหนึบและจะต้องรีบร้องหาเล่ม 3. มาอ่านโดยพลัน! เล่มต่อไปน่ะหรือ คงไม่ต้องรอนาน กำลังจะวางแผงตามกันมาในเร็วๆ นี้
................ ................... .......................................................................................................................... ....................... ..........................
The Best
Short stories
of Guy De
Maupassant เงื้อแล้ว…
ก็ต้องฟัน มนันยา
: แปล
..............
รวมสุดยอดเรื่องสั้นชั้นเทพของกีย์ เดอ โมปัสซังต์ หักทุกมุม ไม่บันยะบันยัง “มนันยา” บรรจงคัด 12 เรื่องสั้นแสนรักมาบรรจงแปลสุดฝีมือ ผลงานสุดยอดเรื่องสั้นของนักเขียนอายุสั้น ผู้ฝากผลงานยืนยงและยิ่งใหญ่เอาไว้ในโลกวรรณกรรม ด้วยฉายา “บิดาแห่งเรื่องสั้นโมเดิร์น” ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกวางจำหน่ายเกือบทุกปี โดยนักแปลหลายรุ่นหลายคน แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดระดับขึ้นหิ้ง ยิ่งผ่านการเจียระไนจากนักแปลมืออาชีพระดับฉกรรจ์เช่น“มนันยา”ด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “ห้ามพลาดทุกกรณี!” (ราคาปก 165 บาท) คลิกอ่าน,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดเกี่ยวกับ "เงื้อแล้ว...ก็ต้องฟัน" ทั้งหมด

พิศวาสเลือด,ทฤษฎีแห่งการฆ่า

SEX CRIME
พิศวาสเลือด

“ฆาตกรบางครั้งก็เป็นคนธรรมดา จนกว่าจะมีความต้องการทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เจาะลึกสารพัดเล่ห์ร้ายก่อนที่คุณจะกลายเป็นเหยื่อ ….คนฆ่าคนได้ลงคอเพราะอะไร เพราะโกรธ เกลียด อาฆาตมาดร้าย นั่นอาจจะปกติธรรมดา เพราะการฆ่าอีกมากมาย มีสาเหตุซับซ้อนมากกว่านั้น อย่างฆาตกรหญิงที่ฆ่าสามี แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ หนึ่ง ผู้หญิงที่อายุน้อยที่มีความต้องการทางเพศสูง และสอง เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ผิดหวังในเรื่องชีวิตคู่ การศึกษาพบว่าการที่ภรรยาลงมือฆ่าสามีนั้น เกิดขึ้นน้อยกว่าการที่สามีฆาตกรรมภรรยา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ฯลฯ ? (วางจำหน่ายแล้ว) คลิกอ่านรายละเอียด

...................................................................................
...................................................................................
.................................................................................
CRIME SCENES
ทฤษฎีแห่งการฆ่า

ครั้งแรกกับการรวมรวมสารพัดทฤษฏีแห่งการฆ่า แม้ว่าความโหดเหี้ยมของฆาตรกรนั้น บางครั้งไม่มีรูปแบบซับซ้อนใดๆ มากมาย ฆาตรกรจำนวนไม่น้อยเลย ที่ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องมีแรงจูงใจใดๆ ทั้งสิ้น ฆาตรกรต่อเนื่องก็คือฆาตกรที่ลงมือฆ่าซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการข่มขืน เท็ด บันดี เป็นนักศึกษากฏหมายรูปหล่อ ทุกคนในศาลต้องมองเขาจนเหลียวหลัง เขาเป็นตัวอย่างชั้นดีในการศึกษาจิตใจฆาตกรต่อเนื่อง ฉายาของเขาคือ นักฆ่าไอคิวสูง” , อัจฉริยะบางคนอาจจะมีความเป็นฆาตรกรอยู่ในตัว หากมองย้อนไป นักเขียนชื่อก้องโลกทั้งหลายต่างเติบโตมาจากการเป็นเด็กก้าวร้าว และเป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วยกันทั้งนั้นฯลฯ(วางจำหน่ายแล้ว) คลิกอ่านรายละเอียด

หวงเยวี่ยน

หวงเยวี่ยน : หนุ่มนักเขียนดาวรุ่งวัยยี่สิบแปด เคยโพสต์นิยายบนอินเทอร์เน็ต แต่ผลงานก้าวพ้นนิยายรักสูตรสำเร็จแบบอินเทอร์เน็ตไปไกลโพ้น ด้วยความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ กรุยทางสร้างสไตล์เฉพาะตัว มีแรงดึงดูดที่ทำให้ผู้อ่านติดหนึบ สมัยเรียนมัธยมเคยไม่พูดไม่จาถึงครึ่งปี เคยเดินรอบสนามแปดคาบเรียนเพื่อขบคิดข้อสงสัยเกี่ยวกับชีวิต บ้าหนังสือหนัก-ขนาดสะสมเล่มที่อ่านจบแล้วได้มากกว่าหมื่นเล่ม เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือการ์ตูน และนิยามตัวเองว่า "ผมไม่ใช่คนธรรมดา แต่ผมเป็นระเบิด!"

...........................................................................
....................................................
................................................................................................................................
.....................................
............................
剪刀石頭布 ฆ้อน กรรไกร กระดาษ
หวงเยวี่ยน : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
'ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น
[ผลงานเล่มใหม่ล่าสุดของหวงเยวี่ยน
-วางจำหน่ายแล้ว] ...
ฆ้อน กรรไกร กระดาษ”ผลงานเล่มใหม่ล่าสุดของหวงเยวี่ยนจากฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ เป็นเรื่องของชีวิตหญิงสาวตัวเล็กๆ ในสังคม เป็นคนธรรมดาๆ ที่พยายามไขว่คว้าหาความไม่ธรรมดาของชีวิต ด้วยบุคลิคสาวออฟฟิศหน้าตาเรียบๆ คุณสมบัติส่วนตัวและนิสัยใจคอก็ไม่ได้โดดเด่นเกินใคร แต่ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป หลังจากที่เธอได้มีโอกาสได้ชื่นชมภาพวาดชื่อ “รัตติกาลแรก” เมื่อเธอมีโอกาสช่วยเหลือชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งติดอยู่ในแกลเลอรี่เพราะไฟดับ และชายหนุ่มนั้นบังเอิญเป็นผู้วาดภาพนั้น....“ฆ้อน กรรไกร กระดาษ” เคยสร้างความประทับใจมาแล้วจากซีรี่ส์ไต้หวันยอดนิยม เคยฉายในเมืองไทยภายใต้ชื่อ “เกมรักหักเหลี่ยมซี้” ในฉบับซีรี่ส์ย่อมจะมีความแตกต่างจากต้นฉบับดั้งเดิม และ “ฆ้อน กรรไกร กระดาษ” เล่มนี้ ก็จะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราวความรักไร้กฏเกณฑ์(แต่ต้องตัดสินใจด้วยเป่ายิ้งฉุบ)อย่างเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ก่อนจะปิดหนังสือลงด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเปี่ยมสุขกันอีกครั้ง - คลิกอ่านรายละเอียด
...............
.........................................................................................
.....................................
............................
幸福來了
ผู้ชายเหมือนระเบิด
[ความสุขกำลังจะมา]
หวงเยวี่ยน : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
'ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น
...........
[ผลงานเล่มแรกของหวงเยวี่ยน
โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์
-วางจำหน่ายแ้ล้ว]:.
vo.....................
“ผมไม่ใช่คนธรรมดา ผมเป็นลูกระเบิด” ระเบิดลูกนี้ชื่อตัวอักษร ผมใช้ถ้อยคำซื่อตรง บอกเล่าความจริงใจ เหมือนชนวนที่เชื่อมโยงกับวัตถุระเบิด ความรักที่ตราตรึง การผจญภัยที่สดสวย เรื่องราวชวนปลื้ม ปีติระคนเหลือเชื่อกักตุนอยู่เต็มสมอง อัดแน่นเจียนระเบิด รสชาติเข้มข้น ความกดดันไร้ขีดจำกัด จำต้องหาทางระบาย ผมจำเป็นต้องระเบิด กรุณาอย่าเป็นห่วง เมื่อผมแหลกเหลวปี้ป่น ผมจะไม่ทิ้งรอยบาดเจ็บใดๆ ไว้บนตัวคุณเลย ดินระเบิดในตัวผมเป็นจิตวิญญาณ สิ่งเดียวที่จะหวั่นไหวบ้างก็คือหัวใจคุณ นอกนั้นจะไม่มีอะไรแตกสลาย ...แล้วคุณจะลืมผมไม่ลง............ง คลิกอ่านต่อ
..........
คนอ่าน

ซูซาน บอยล์

สู้ สู้! ซูซานบอยล์
ป้าเฉิ่มโลกตะลึง
[ราคาปก 210 บาท]
........
ป้าเฉิ่มซูซาน บอยล์ วัย 48 ปี ผู้ ไม่เคยแต่งงานและไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อน ปรากฏกายบนเวที Britain’s Got Talent เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 กล้องจับภาพกรรมการและผู้ชมแสดงท่าทางเย้ยหยันออกนอกหน้า ก่อนที่ซูซานจะเริ่มร้องเพลง I Dreamed a Dream ซึ่งทำให้ทุกคนอึ้งตะลึงงัน
คลิปวิดีโอการแสดงในวันประกวดของเธอ ถูกโพสต์ลง“ยูทูบ” ทุบสถิติอัตราฮิตเรท หรือจำนวนผู้ชมทะลุ 100 ล้านครั้งในเวลาไม่กี่วัน
“ซูซาน บอยล์” เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกๆ คนที่มีความฝัน” อีแลง เพจ ซูเปอร์สตาร์ นักแสดงละครเวที นักร้องอังกฤษรุ่นลายครามกล่าวไว้อย่างนั้น แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ซูซาน บอยล์ จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ปรากฏการณ์ซูซาน บอยล์ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ชีวิตที่พลิกผันจากดินเป็นดาวเพียงชั่วข้ามคืน อำนาจของ ‘ปากต่อปาก’ ในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่มีอินเตอร์เนตเป็นตัวนำ เรื่องราวชีวิตของเธอถูกสื่อมวลชนล้วงแคะทุกซอกมุม ข่าวคราวไซมอน คาวเวลล์เตรียมจับเธอเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายเพลงของเขา จนถึงข่าวการแปลงโฉมใหม่ของเธอที่ดูดีขึ้น แต่หลายคนต่อต้านเพราะอยากให้เธอขี้เหร่เหมือนเดิมมากว่า(ซะงั้น)
เรื่องราวชีวิตน่าทึ่งของป้าเฉิ่มซูซาน บอยล์ เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!

ไมเคิล เฟลป์ส

หนังสือที่ทุกครอบครัวควรอ่าน ในการพลิกชีวิต(ติดลบ)
สู่ความเป็นเลิศ ไมเคิล เฟลป์ส
เบื้องลับฮีโร่ แชมป์ 14
เหรียญทองโอลิมปิก เรื่องจริง
ที่โลกไม่เคยรู้
ในเกมชีวิต
สุดทึ่ง! กฤติยา รามโกมุท,
นพดล เวชสวัสดิ์ : แปล [ราคาปก 210 บาท]

จาก “เด็กพิเศษ” สมาธิสั้น ปัญหาเพียบ จากครอบครัวหย่าร้าง ไมเคิล เฟลป์ส พลิกชีวิตติดลบเป็นซูเปอร์เปอร์สตาร์ ฮีโร่นักว่ายน้ำขวัญใจชาวอเมริกัน ทุบสถิติ 8 เหรียญทองอันเหลือเชื่อ จากการแข่งขันโอลิมปิกปักกิ่งในปี 2008 อย่างหมดจดสง่างาม
..........
ใครจะคิดว่า “เด็กพิเศษ” จากครอบครัวหย่าร้าง ประสบปัญหาชีวิตอย่างรุนแรงจากโรคสมาธิสั้น แต่สามารถเรียนรู้ต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยวิธีเลี้ยงดูเอาใจใส่สุดพิเศษจากคุณแม่จอมอดทนทรหด ผู้คิดค้นวิธีการเลี้ยงลูกที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร จนกระทั่งเฟลป์สเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับโรคร้ายประจำตัว ต่อสู้กับการล้อเลียนเสียดสีจากเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่มีวุฒิภาวะสูงกว่า
......................................
ไมเคิล เฟลป์ส์ : เบื้องลับฮีโร่ เปิดเผยทุกรายละเอียดในชีวิตแบบเจาะลึก บันทึกทุกสถิติการแข่งขัน ครบครันด้วยภาพถ่ายที่ไม่เคยเปิดเผยจำนวนมาก วิธีเลี้ยงดูเด็กพิเศษด้วยวิธีการสุดวิเศษ รวมทั้งบทวิเคราะห์เจาะลึกค้นหาคำตอบ ว่าทำไมคนที่มีชีวิตติดลบอย่างเฟลป์ส จึงพุ่งสู่ความรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้
...
นี่คือหนังสือที่ทุกครอบครัวควรจะได้อ่าน
รวมทั้งทุกคนที่อยากรู้เบื้องหลังตำนานมีลมหายใจ--- ไมเคิล เฟลป์ส

โดเรียน เงื้อฯ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรัก สิในหมึก แมร์ด 3 เล่ม

The Picture
of Dorian Gray ภาพวาด
โดเรียน เกรย์ ออสการ์ ไวลด์ : เขียน
กิตติวรรณ ซิมตระการ
: แปล จิตราภรณ์ วนัสพงศ์: บรรณาธิการ
’ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น .......................
งานศิลปะชิ้นเยี่ยม!ในรูปแบบนวนิยาย เฉียบคม แสบสันต์ ราวกับเป็นหนังสือรวมฮิตคำคมของออสการ์ ไวลด์ ผลงานนวนิยายเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของคำคมและบทละครสำคัญที่ผู้คนมักจะหยิบยกมาเอ่ยอ้างตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทเพลงให้แก่คีตกวีมากมาย ผลงานของเขาได้รับการนำมาสร้างเป็นละครเวทีและภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในปี 2009 จะมีผลงานจากบทประพันธ์ของออสการ์ ไวลด์ถึง 2 เรื่องที่จะเข้าโรงฉาย ได้แก่ ภาพวาดโดเรียน เกรย์ (The Picture of Dorian Gray) โดยมีชื่อภาพยนตร์ว่าโดเรียน เกรย์ (Dorian Gray) นำแสดงโดยมีคอลลิน เฟิร์ธ นักแสดงหนุ่มจาก “ไดอารีของบริดเจต โจนส์” ส่วนในปลายปี 2009 ก็จะมีเรื่อง A Woman of No Importance ออกฉาย โดยมี อแมนดา เซย์ฟรีด จาก Mamma Mia! รับบทนำ (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านบทแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับ ภาพวาดโดเรียน เกรย์ ทั้งหมด
...........................
..............................
.............................
.............................
.............................
จดหมายรักยาขอบ
เรื่องรักต้องห้ามแต่สุดโรแมนติกของ “ยาขอบ” นักประพันธ์ชั้นครู ที่เคยสร้างผลงานเขียนเขย่าสังคมไทยให้สะท้านสะเทือนประจำยุคสมัย ฝ่ายชายเป็นนักประพันธ์ใหญ่จอมเจ้าชู้ มีภรรยาอยู่แล้วถึง 4 คน แต่ยังสามารถเขียนจดหมายจีบผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาวและอยากเป็นนักเขียนอย่าง “พนิดา” สาวสวยประจำยุคสมัย “จดหมายรักยาขอบ” เป็นหนังสือหายาก เป็นเรื่องรักคลาสสิคที่ตราตรึงใจนักอ่านมายาวนาน สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม ได้รับอนุญาตจากคุณประกายพฤกษ์ ศรุตานนท์ เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือยาขอบ ให้นำมาจัดพิมพ์ซ้ำอย่างถูกต้อง ในรูปเล่มใหม่ สวยงาม แต่ไม่ได้จัดจ้านจนเกินไปนัก ด้วยฝีมือศิลปินชื่อดัง “โลเล” ทวีศักดิ์ ศรีทองดี (ราคาปก 255 บาท) คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือ,คำนิยมยาวจุใจจาก วัฒน์ วรรยางกูร,คำนิยม "เอื้อมไม่ได้แอ้มไม่ถึง"จาก 'ปราย พันแสง และอื่นๆ

...........................

..............................
.............................
.............................
.............................

จดหมายรัก สินในหมึก

พิมพ์ครั้งที่ 5 Love Letters
จดหมายรัก
’ปราย พันแสง
....... “เมื่อยังหนุ่มข้าพเจ้าคิดจะรัก แต่เมื่อย่างเข้าวัยชรา ข้าพเจ้ารักจะคิด” นั่นเป็นคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนึ่งในสุดยอดนักเขียนจดหมายรัก นอกจากนี้ในหนังสือเล่มนี้ ยังมีเรื่องราวชีวิต ความรัก และจดหมายของคนดังและไม่ดังของโลก อาทิ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรักไอน์สไตน์ จดหมายรักคาร์ล มาร์กซ์ ฯลฯ เคยฮิตสนั่นลั่นเมืองมาแล้วเมื่อตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ โศก ซึ้งเศร้า เข้าข้น หวาน มันส์ จนอ่านแล้วเหมือนจะละลาย รวมถึงจดหมายพิเศษในกล่องข้างใจ ที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน (ราคาปก 225 บาท)
...........................
..............................
.............................
.............................
.............................
สินในหมึก
ยาขอบ
...........
เมื่อความรักสอนให้เขียนหนังสือ เคล็ดวิชาการประพันธ์อันเลื่องลือก็หลั่งไหล นี่คือสุดยอดหนังสืออมตะ ยิ่งผ่านกาลเวลา ยิ่งขลังเข้ม และไม่เคยล้าสมัย “สินในหมึก”เป็นหนังสือรวมยุทธวิธีเขียนหนังสือให้ได้อย่างใจ เขียนให้คนติด เขียนให้ขายดี มีคนชื่นชอบโดยทั่วไป ยาขอบไม่เน้นเรื่องพรสวรรค์ คนเราสามารถฝึกปรือให้เก่งขึ้นมาได้ ถ้ามี “ความปลอดโปร่งแห่งอารมณ์” ฯลฯ หนังสือเล่มนี้คัดคำแนะนำเฉพาะหัวกะทิ เป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มาจากภายใน มาจากความเป็นมนุษย์ เป็นจริง พิสูจน์ได้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกเขียนหนังสือทุกรูปแบบ ไม่ว่าเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น บทความ สารคดี เขียนไดอารี่ออนไลน์หรือแม้แต่เขียนบล็อก! (ราคาปก 225 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างบางตอน, คำนิยมจาก วัฒน์ วรรลยางกูร : นักเขียนรางวัลศรีบูรพา ปี 2550 และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือ"สินในหมึก"ทั้งหมด

ชุดแมร์ด 3 เล่ม

A Year in the Merde
อะ เยียร์ อิน เดอะ แมร์ด
ผ้าขี้ริ้วห่อชา
มนันยา: แปลไปหัวเราะไป

ปฐมบทแห่งนวนิยายแสบสันต์และฮากระจาย ด้วยอารมณ์ขันสุภาพแต่ซาดิสต์แบบหนุ่มอังกฤษหัวใจอินดี้ ว่าด้วยเรื่องราวของพอล เวสต์ หนุ่มลอนดอนที่เดินทางมาปารีสเพื่อบุกเบิกธุรกิจร้านน้ำชาอังกฤษในฝรั่งเศส ด้วยความสับสนทางวัฒนธรรม พอลต้องหารับมือกับ“ฝรั่งเศส”ทุกกระบวนท่า ไม่ว่าจะเป็นวิธีเอาตัวรอดจากการประชุมร่วมกับคนฝรั่งเศส วิธีหาบ้านพักแบบฝรั่งเศส สาวฝรั่งเศส จูบแบบฝรั่งเศส รวมถึงวิธีการสะกดภาษาอังกฤษแบบฝรั่งเซส ฝรั่งเศส ฯลฯ.A Year in the Merde ติดอันดับอินเตอร์เบสต์เซลเลอร์ เป็นหนังสือภาคบังคับที่ต้องมีทุกร้านหนังสือในปารีส (ราคาปก 295 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

...........................

.............................. ............................. ............................. .............................

Merde Actually

แมร์ดแอคชวลลี่

ทุกหัวใจมีแมร์ด

วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ :แปล

มนันยา : คำนิยม

หลังจากที่พอลได้เปิดร้านน้ำชาอังกฤษในฝรั่งเศสสมดังความตั้งใจ แต่พอลก็ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับฝรั่งเศสที่ต้องการคำตอบ เช่นว่า อะไรที่จะทำให้ตำรวจในฝรั่งเศสกลัวที่สุด? ทำไมจึงไม่มีการเตือนบนชายหาดเปลือยกาย, การนอนกับเมียของเจ้านายผิดหรือเปล่า? และที่สำคัญพอลยังคงตามหาสาวฝรั่งเศสที่สมบูรณ์แบบ แต่พอลจะเจอรักแท้ไหม หรือจะจบลงบนกองแมร์ด? การผจญภัยครั้งใหม่ของพอลที่ยังคงสร้างปัญหาระหว่างประเทศแบบสุดฮาอีกเช่นเคย (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

...........................

.......................

...............

.................................................

........................... .............................. ............................. ............................. .............................
Talk to the Snail. ทอล์ค ทู เดอะ สเนล
:กฎแห่งแมร์ด
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง : แปล
..............................
ทำอย่างไรถึงจะได้รับการบริการดีๆ ในภัตตาคารฝรั่งเศส, เรียนรู้การวางตัวแบบสุภาพและหยาบคายสุดๆ ในเวลาเดียวกัน ค้นพบภาษารัก เซ็กส์ และการสูบบุหรี่ (ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ), วลีที่สำคัญและขำขันฝรั่งเศ๊ส ฝรั่งเศสที่นำมาใช้ได้ในทุกสถานการณ์ พร้อมตัวอย่างไหวพริบเล็กๆน้อยๆที่ใช้ได้ในชีวิตจริง ฯลฯ ทั้งหมดรวมอยู่แล้วในหนังสือเล่มนี้ เหมาะกับคนที่สนใจฝรั่งเศส อยากไปฝรั่งเศส หรือคนที่กลัวทุกอย่างเกี่ยวกับฝรั่งเศส ก็ห้ามพลาดเล่มนี้อย่างเด็ดขาด! (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

ร้านชำ ความลับ

SUICIDE SHOP
ร้านชำสำหรับคนอยากตาย
ฌอง เติลเล่ : เขียน
องอาจ กันใจศักดิ์ : แปล
..... ถ้าคุณชอบครอบครัว Addams Family ถ้าคุณมีทิม เบอร์ตันอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้คุณพบรักใหม่อีกครั้ง ซุยไซด์ช็อป (Suicide Shop) หรือ “ร้านชำสำหรับคนอยากตาย” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกิจการร้านค้าเล็กๆ อยู่ในเมืองหนึ่ง ดินแดนซึ่งศาสนาได้เลือนหายไปจากความนึกคิดของผู้คน การฆ่าตัวตายจึงไม่เป็นบาป ไม่ขัดต่อศีลธรรม ณ ที่แห่งนี้กิจการของตระกูลตูวาชกำลังดำเนินไปได้สวย ใครอยากตายได้เลือกตายสมใจ สินค้าในร้านชำแห่งนี้ มีทั้งเชือกแขวนคอ ชุดประกอบพิธีฮาราคีรี ยาพิษหรือแม้แต่ "จูบมรณะ" (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
...................
..........
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........
.........................
ลับในความรัก จิระนันท์ พิตรปรีชา : แปล
พิมพ์ครั้งที่ 3
.... การรักใครสักคนนั้นหมายถึงอะไรกันแน่ ? “คู่สร้างคู่สม” มีจริงหรือไม่ ? ทำไมความหลง จึงไม่ใช่ความรัก ? อะไรคือรัก อย่างไรคือหลง? ทำไมการรักคนเลวจึงเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ? หนังสือเล่มนี้จะช่วยค้นหาความหมายของรักในระดับที่ลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หนังสือเล่มนี้คือของขวัญวาเลนไทน์สำหรับสมอง ..รอถึงวันแห่งความรัก อาจจะสายเกินไป (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

ริต้า ยูบิควิท Child 44 ต้นส้ม

SAINTE RITA เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน แคลร์ วัลเนียวิคส์ : เขียน วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ : แปลถึงเนื้อถึงกระดูก เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน (Sainte Rita, patronne des causes désespérées) เป็นรวมเรื่องสั้นหกเรื่องหกรส ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาฝรั่งเศส ผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิตของ แคลร์ วัลเนียวิคซ์ (Claire Wolniewicz) นักเขียนหญิงสาวสวยเชื้อสายโปแลนด์ กำลังมาแรงเป็นที่จับในแวดวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสขณะนี้(ราคาปก 155 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด .................................................
..
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
UBIQUITE
ผู้ชายครึ่งฝัน
แคลร์ วัลเนียวิคส์ : เขียน
พัชรินทร์ เสี่ยงเทียน : แปล.....
เรื่องราวประหลาดล้ำที่เกิดขึ้นในชีวิตแสนเงียบเหงาของ อดัม โวลลาดิเยร์ พนักงานออฟฟิศหนุ่มผู้เงียบขรึม ที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าตัวเองต้องการหรือชอบทำสิ่งใดในชีวิต ทว่ายังสามารถก้าวหน้าในอาชีพจนได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี ตั้งแต่เล็กจนโตอดัมคุ้นเคยกับกรอบเกณฑ์ของครอบครัว เคยชินกับการอยู่ในโอวาท ไม่เคยมีปากเสียงหรือความคิดเห็น จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อมีคนเข้ามาทักผิดบ่อยๆ ว่าอดัมเป็นคนนั้นคนนี้แทบไม่ซ้ำหน้า เมื่อเขาเริ่มหาวิธีรับมือกับการทักผิด เช่นลองรับสมอ้างไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพและอุปนิสัย จากที่เป็นคนเฉิ่มๆ อดัมกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์และเริ่มติดใจรูปแบบชีวิตคนอื่นที่เขาสมอ้างสวมรอยเข้าอย่างจัง (ราคาปก 155 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

..........................................................................................................................................

..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

.........................................................................

CHILD 44 - รหัสฆาฏ ทอม ร็อบ สมิธ : เขียน สุวัฒน์ หลีเหม : แปล

ตรวจสอบทุกคนที่ไว้ใจ ไม่มีอะไรให้กิน ไม่เหลืออะไรให้รัก ลุ้นระทึกสุดขั้วหัวใจ กับ Child 44 - รหัสฆาฏ สุดยอดนวนิยายทริลเลอร์เรื่องล่าสุดของโลกที่นักอ่านต่างรอคอยและเป็นที่กล่าวขวัญ นวนิยายซึ่งก่อให้เกิดสงครามการประมูลราคาในงาน London Book Fair เมื่อปี 2007 ที่ ยิ่งโด่งดังมากขึ้นเมื่อริดลีย์ สก็อต ผู้กำกับมือรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง “Gladiator” และอีกหลายเรื่องในระดับบล็อกบัสเตอร์ (Alien, Blade Runner, Black Hawk Down) ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อไปทำเป็นภาพยนตร์และตั้งใจจะกำกับด้วยตนเอง Child 44 ขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 27 ประเทศ (ราคาปก 395 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
...........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
坊っちゃん夏目 漱石
ต้นส้ม น้ำตา พายุ
นัทสึเมะ โซเซกิ
กันฐพงศ์ เจียวก๊ก : แปล .... ห้ามอ่านในที่สาธารณะเพราะคุณอาจจะต้องหัวเราะทั้งน้ำตา"นี่คือการผจญภัย ของคุณหนูจอมซ่าส์ คุณย่าโพสิทีฟ สารพัดวีรกรรม เฉิ่มเบ๊อะแต่โคตรจริงใจ ของเอกบุรุษสุดเพี้ยน ผู้ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แล้วคุณจะรักนิยายเรื่องนี้ ...เหมือนฉัน" 'ปราย พันแสง (คำนิยมชมชื่น) จากปกหลัง : นวนิยายญี่ปุ่นชั้นเลิศที่ได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วโลก ผลงานมาสเตอร์พีซของนัทสิเมะ โซเซกิ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยเรื่องราวใสซื่อ โหด มันส์ ฮากระจาย การผจญภัยในโลกมนุษย์บิดๆ เบี้ยวๆ ของคุณหนูขี้วีน จอมเพี้ยน ลูกผู้ดีเก่า ตกกระป๋องและตกกระไดพลอยโจนไปอยู่ในโรงเรียนบ้านนอกคอกนา จึงต้องลุยดะถ้วนหน้า ตั้งแต่อาจารย์ใหญ่ คณะครู นักเรียน ยันนักการภารโรงล้วนแสบซ่าส์ โดยมีคุณย่าโพสิทีฟเป็นแบคอัพ(ราคา 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
..........

ปราย พันแสง พ็อคเก็ตบุ๊ค

คาเฟ่เสน่หา 'ปราย พันแสง
ชีวิตก็เหมือนคาเฟ่ริมทางบางครั้งเนืองแน่น บางครั้งอ้างว้างมีคนผ่านมา มีคนผ่านไปใครจดจำ ใครลืมเลือน ย่อมมิใช่เรื่องใหญ่หากช่วงเวลาที่พบกัน ได้เปิดดวงตา เผยดวงใจหมดจดหมดใจ ...แล้วจากกัน.....คาเฟ่เสน่หา(passion cafe')รวมบทความแห่งเสน่หาที่โลดแล่นในวังวนชีวิต มิใช่ความรักอย่างเดียวที่ทำให้คนเราตาบอด แต่ยังมีความปรารถนาลึกลับซ่อนอยู่ลึกเร้นข้างในใจ ดูเหมือนไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด แต่กลับฉุดกระชากลากถูความเป็นมนุษย์ของเราจนแทบมิอาจต้านทาน(ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
....................................................................................
..........................................................
..........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
..........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.............................................................
.................. Highway Blues
สูงต่ำล้วนผ่านตา
'ปราย พันแสง หลังจาก “คาเฟ่เสน่หา” หนังสือรวมบทความชุดแรกของปี 2551 ได้รับการต้อนรับจากนักอ่านเป็นอย่างดี สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จึงส่งผลงานชุดใหม่ “สูงต่ำล้วนผ่านตา” รวมบทความชุดที่ 2 ของ ’ปราย พันแสง วางแผงตามมาอย่างต่อเนื่อง "สูงต่ำล้วนผ่านตา" รวมบทความว่าด้วยเรื่องราวสิ่งละเล็กๆ พันละน้อยๆ เกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต ซึ่งเคยตีพิมพ์ตามที่ต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการป่ายปีน การขึ้น การลง ในการเดินทางของชีวิตของคนเราที่มีความหมายกว้างไกล (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

.................................................................................

..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

.................................................................

...........

study book ฮารูกิ มูราคามิ ’ปราย พันแสง เขียนอย่างไรให้ขายดีติดเบสท์เซลเลอร์ทั่วโลก ชำแหละคมความคิดและสไตล์การเขียนของ ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนญี่ปุ่นนอกคอก ที่มีผลงานเขียนและงานแปลมากถึง 40 ภาษา กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย แถมติดอันดับขายดีหลายล้านเล่มทั่วโลก ว่ากันว่านี่คือนักเขียนรางวัลโนเบลคนต่อไป (ราคาปก 175บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
...........................
.........................................................................
..........................................................
.........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
............
เรื่องรักใคร่ 'ปราย พันแสง พิมพ์ครั้งที่ 3 .... รวมเรื่องจุ๊กจิ๊กว่าด้วยความรัก หวาน ขม อมหวาน อมเปรี้ยวครบรส ในรูปแบบเรียงความ ภาพยนตร์ ดนตรี เรื่องสั้น บทกวี บทแปล เอสกิโม และอื่นๆ อีกมากมาย “คุณไม่จำเป็นต้องกินคนที่คุณรักนะ จอร์จินา คุณเคยคิดมั้ยว่าการกินเข้าเขาไป มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของคุณ คุณจะคิดว่า เมื่อคุณกินเขาแล้ว คุณกับเขาจะได้อยู่ร่วมกัน ตลอดไปไม่ได้นะ” จินตนาการ,อาหาร,เซ็กซ์ และวิธีปรุงเนื้อคนรัก “ความรักมากมายนั้นมันไม่จีรังยั่งยืนอะไร มันท่วมท้นล้นใจ แล้วจางหายไปได้อย่างมหัศจรรย์ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยฉะนั้น” แล้วเราจะรู้เอง (ราคาปก 175 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
........................
.........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
..........................................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
.........................................................
..........
คนรัก เคยรัก ยังรัก (ดาว)
รวมเรื่องสั้นและบทกวี เคยเป็นหนังสือทำมือชื่อ "ดาว" มาหลายปี ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว เนื้อหาในเล่มว่าด้วยเทหวัตถุโรแมนติกบนท้องฟ้า อันเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ ความสุข ความรัก ความเศร้า และเรื่องราวในชีวิตอีกมากหลาย ทุกเรื่องราวในเล่มล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากดวงดาว เนื่องเพราะดาวบางดวง คำบางคำในชีวิตมีความหมาย บางคำหากหลุดจากปากไป อาจทำให้ดาวทุกดวงบนท้องฟ้าหายวับ
จากปกหลัง "กรุงเทพฯ ยังมีดาวนะ ไม่ว่าดาวประจำเมือง หรือดาวประจำวัน แม้แต่ดาวที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เรายังเห็นกันได้ในเขตเมืองหลวงนี้ ...ตรงไหนก็มีดาว ถ้าเรามีตาสำหรับมองมัน" "สำหรับบางคน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปอย่างว่างเปล่า ชีวิตเป็นอย่างนี้ ความหมายของมันไม่เคยแน่นอน บางครั้งดูเหมือนเราจะเข้าใจในความเป็นไป แต่บางทีก็ไม่ ความร้ายกาจของมันคือ บางทีคิดว่าเข้าใจ แต่ความจริงอาจจะไม่" "แล้วคุณเชื่อไหม เรื่องที่เขาเล่ากัน ว่าคนสองคนจะรักกันไปจนตาย แล้วคุณรู้ไหม หากจะมีใครรักใครไปจนตายจริงๆ มันจะมีแค่คนเดียวเท่านั้น ...ที่รักไปจนตาย" (ราคาปก 125 บาท)

สวนสวรรค์ที่สาปสูญ

Paradise Lost
สวนสวรรค์ที่สาบสูญ : Jimmy Liao
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล :
แปลจากภาษาจีน
'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ
.......................................... หนังสือชุดใหม่ของ "จิมมี่ เลี่ยว"ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในปี 2549 จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์นานมี หนังสือชุดนี้ มีด้วยกันทั้งหมดห้าเล่ม มีตัวละครชุดเดียวกัน แต่ละเล่ม สามารถจบได้ในตอน เรื่องราวทั้งหมดในหนังสือชุดนี้น่ารักและมีเสน่ห์ แบบเศร้าๆ เจ็บๆ แปลกๆ ดี Paradise lost เป็นเรื่องราวมิตรภาพความผูกพัน ของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตจำนวนหนึ่ง มารวมตัวกันอยู่ในดินแดนหนึ่ง ที่พวกเขาทุกคนล้วนเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ละชีวิต จะมีปมด้อย มีบาดแผล มีความพิการ มีความบกพร่อง ซึ่งโลกภายนอกอาจจะปฏิเสธพวกเขา แต่ในดินแดนแห่งนี้ ทุกชีวิตมีอิสระเสรี และมีผู้ที่เข้าใจกันและกัน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ตัวอย่างตัวละครบางตัว ในเรื่องราวชุดนี้ก็ได้แก่
.........................................................................
..........................................................
..................................................
...
หมีกากบาท หมีกากบาทถูกทำร้ายตั้งแต่เล็ก จึงมีรอยแผลอยู่เต็มตัว หากคุณถามเขาว่าเจ็บตรงไหนที่สุด เขาจะชี้ตรงหัวใจ แม้จะได้รับความทุกข์สาหัส แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีแสงสว่าง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ผ้าพันแผล เป็นเด็กชายที่พันผ้าพันแผลทั้งตัว เขามักฝันว่าตัวเองบินได้ และมีผีเสื้อตัวน้อยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
หนูดำ เจ้าของทรมานหนูดำด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่หนูดำก็ยังคงมีจิตใจงดงาม ในบางครั้งเจ้าของอุ้มเขาด้วยความทะนุถนอมอยู่บ้าง แต่หนูดำก็อดที่จะหวั่นกลัวไม่ได้
..................................................................
...................................................................
.........................................................
โทนี่หน้าบาก โทนี่เป็นเด็กชายขี้อายเป็นที่สุด เขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจ มักจะยืนนิ่งอยู่ข้างหิ้งหนังสือในห้องสมุด เขามีแต่เงาตัวเองในกระจกเป็นเพื่อน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ไข่พะโล้ ไม่ว่าจะทำอะไร ไข่พะโล้จะต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนเสมอ ก่อนข้ามถนน หรือกระทั่งในสวนที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง เขาก็ยังอธิษฐาน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
จอห์นจมูกแดง เขามักรู้สึกว่าโลกของเขาว่างเปล่า ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นเพียงความฝัน เขาไม่สามารถอธิบายอะไรให้ใครฟังได้ แต่อย่างน้อย เขาก็รู้สึกสบายใจในโลกอันว่างเปล่าของตัวเอง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
จูลี่ เป็นคนที่ขยันโยนขวดบรรจุข้อความที่ชายหาด ให้ลอยไปตามคลื่นอยู่เสมอ เธอวาดฝันว่าจะพบรักจากการทำเช่นนี้ แต่ขวดเหล่านั้นมักถูกคลื่นซัดกลับ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ลูกโป่ง มักลอยไปลอยมาอยู่คนเดียว วันหนึ่งศีรษะของเขาแตกเป็นรู เจ้าหนูลูกโป่งจึงตกลงมาจากฟ้า แต่ไม่นานก็ถูกจับมัดกลับไปแขวนไว้กับต้นไม้
..................................................................
...................................................................
.........................................................
เหิรหาว เหิรหาวเชอบแกล้งผู้อื่น วันวันเอาแต่หาเรื่องทะเลาะ คนอื่นบอกว่าสีดำ เธอจะบอกว่าขาว เธอเกลียดโลกแห่งความเป็นจริง ชื่นชอบโลกที่โกลาหลวุ่นวาย
..................................................................
...................................................................
.........................................................
โทรโข่ง เอาแต่ป่าวประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เที่ยวกระจายข่าวสารไปทั่ว เขาสวมหมวกกันน็อคจึงไม่ได้ยินเลยว่าเสียงไม่ได้ออกจากโทรโข่ง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
แมรี่และแมวของเธอ แมรี่เลี้ยงแมวตาโตตัวหนึ่ง แต่ละวันแมวของเธอจะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป บางทีรู้สึกหน่าย บางทีรู้สึกเบื่อ บางทีรู้สึกว่าโลกมันน่าขัน
......................................................................
...................................................................
.........................................................
บอลลูน เป็นเด็กฉลาดไอคิวสูง ฉลาดมากเสียจนไม่อยากจะเรียนรู้อะไรทั้งนั้น ทุกคนต่างชื่นชมความฉลาดของเธอ แต่เธอกลับเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคนโง่ ฯลฯ
...................................................................
.........................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
............... Enter Loneliness
Paradise Lost 1 :
เดียวดายในความอ้างว้าง ช้างสีชมพูกับแอ๊ปเปิ้ลสีทอง เป็นตัวละครเปิดเรื่องเข้าสู่สถานที่มหัศจรรย์ ช้างสีชมพูเป็นเพื่อนกับเด็กแว่น ทั้งสองตาบอด มองไม่เห็น แต่ชอบไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหน้าต่าง ชอบนั่งบนโขดหินริมทะเล เพื่อเฝ้ามองพระจันทร์ ทอแสงสว่างไสวขึ้นมาจากผิวน้ำ ทั้งยังชอบทอดกายนอนหงายบนสนามหญ้าโรงเรียน เพื่อรอคอยดวงดาวเปล่งประกายเต็มฟ้า เด็กแว่นเป็นเจ้าของแว่นตาสายรุ้งแสนสวย เสียดายที่เธอมองไม่เห็น ช้างสีชมพูก็มีแว่นสายรุ้งเช่นกัน เสียดายที่มันก็มองไม่เห็น ทั้งสองมิอาจแลเห็นแว่นตาแสนสวยของกันและกัน แต่ตระหนักดีว่า จิตใจของทั้งสองนั้น ต่างงดงามประหนึ่งสายรุ้ง
..................................................
..................................................................
...................................................................
................................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
Snow Falling in Childhood Paradise Lost 2 :
ความปวดร้าวอันงดงาม ปกเล่มนี้ เป็น เจ้าหมีกากบาท ที่กำลังดุ่มเดินเดียวดายอยู่ในป่า หมีกากบาทโดนทำร้ายมาแต่เล็ก ร่างกายยับเยินด้วยบาดแผล หากคุณถามเขาว่าเจ็บปวดตรงไหนที่สุด เขาจะแตะตรงหัวใจ มีใครบ้างไหมที่ไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน เขายืนยันมั่นใจ เจ็บปวดที่สุด ณ จุดใด ต้องทำแผลให้สวยที่สุดตรงจุดนั้น ทุกครั้งที่โดนทำร้าย หมีกากบาทมักซ่อนตัวในสถานที่งดงามที่สุด จินตนาการถึงช่วงเวลาแสนสุข หลังจากหลั่งน้ำตาไม่กี่หยด เขาจะแตะตรงหัวใจแล้วหยุดร้องไห้
.........................................................................
..........................................................
..................................................
.........
..................................................................
...................................................................
..........................................................................................................................
...................................................................
.........................................................
A Mysterious Flower Blooms
Paradise Lost 3:
ดอกไม้แห่งความลับผลิบานแล้ว เป็นดอกไม้แห่งจินตนาการของคนเขียนที่มีครีเอทีฟไอเดียสุดยอด ภาพปกเล่มนี้ ผู้เขียนเลือกตัวละคร“แอนนี่” เป็นตัวเอก ปกสวยจริงๆโดยเฉพาะลวดลายบนต้นไม้ใบไม้ใช้สีเงินสีทองสะท้อนแสงบนพื้นปกสีดำ ลึกลับแบบสไตล์กอธิคนิดๆ วิจิตรตระการตาแบบภารตะหน่อยๆ แปลกตากว่าทุกเล่ม “แอนนี่” เป็นเด็กฉลาดแก่แดดที่สุดในเรื่องราวชุดนี้ แอนนี่รู้จักโลกของผู้ใหญ่เร็วเกินไป เกิดแก่เจ็บตาย เธอเข้าใจทั้งหมด โลกแห่งความจริงของแอนนี่ หมายถึงช่วงเวลาที่เธอได้แสดงละครเท่านั้น
.........................................................................
....................................
..................................................................
...................................................................
..............................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................

The Magic Is Gone Paradise Lost 4 อัศจรรย์พลันสลาย เรื่องเริ่มต้นเมื่อเวทย์มนต์เสื่อมสลายไปหมดสิ้น โลกเราไม่มีแล้วความมหัศจรรย์ ไม่มีเรื่องเหลือเชื่ออะไรแล้วทั้งนั้น ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าทำไมคุณเลี่ยวไม่เอาตอนนี้ไว้เป็นเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดนี้... เพราะมันน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่พอไปเห็นเล่มสุดท้ายจริงๆ จึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ คือคุณเลี่ยวเขาคงไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้ายเหมือนเราไง เขาเลยวางเรื่องนี้ไว้กลางๆ :) ภาพปกเล่มนี้เธอชื่อ “ราตรี” คู่กรณีของ“ทิวา”เรื่องราวของกลางคืนและกลางวันที่ต่างกันอย่างเหลือเกิน โลกของราตรีเต็มไปด้วยสีสัน โลกของทิวากลับมีเพียงขาวดำ

..................................................
..................................................................
...................................................................
...................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
The Lost Miracle
Paradise Lost 5 :
เมื่อปาฏิหาริย์เลือนหาย เด็กน้อยกับสวิงตาข่ายบนปกหนังสือคนนี้ชื่อ “ออทัม” เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ ที่พยายามตามจับความฝันของเธอเอง ออทัมเติบโตมากับคุณปู่ พออายุได้หกขวบ คุณปู่มอบสวิงจับผีเสื้อที่คุณปู่ทำเองให้เธอเป็นของขวัญ วันต่อมาคุณปู่เสียชีวิตกะทันหัน คืนนั้นออทัมฝันเห็นคุณปู่ของเธอส่งยิ้มให้ พลางพูดว่า “จับชีวิตที่สวยงามไว้ให้ดี!”เธอตื่นขึ้นมาทั้งน้ำตา กอดของขวัญจากคุณปู่ไว้แน่น แล้วสาบานว่า เธอจะใช้เวลาทั้งชีวิตไล่จับความสวยงามที่ไม่จีรังเอาไว้ให้ได้
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
The Blue Stone :
Jimmy Liao ชุตินันท์ เอกอุกฤษฏ์กุล : แปลจากภาษาจีน 'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ เป็นหนังสืออีกเล่มของ จิมมี่ เลี่ยว ที่ออกวางจำหน่ายพร้อมกับหนังสือชุด Paradise Lost "โลกเหงาของหินสีฟ้า" เป็นเรื่องราวของหินสีฟ้าก้อนหนึ่ง ที่แตกออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งถูกทิ้งไว้ในป่าลึก อีกซีกหนึ่งถูกพาเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ แล้วก็ถูกแปรรูป ถูกทำให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้มันเหงาแล้วก็คิดถึงอีกครึ่งที่เหลืออยู่ตลอดเวลา จะว่าไปแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็คือ The Missing Piece ของ เชล ซิลเวอร์สไตน์ที่เอามาเขียนใหม่แบบคนตะวันออกดีๆ นี่เอง อาจจะเป็นเพราะจิตวิญญาณแบบเอเชีย ที่เรียกร้องสิ่งต่างๆ จากชีวิตน้อยกว่าคนตะวันตกกระมัง อ่านแล้วจึงรู้สึกว่ามันเป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เจียมเนื้อเจียมตัวดี ถ้าแอบรักใครชอบใคร หนังสือเล่มนี้เหมาะมากที่จะเป็นหนังสือบอกความในใจว่าเรารัก โดยมีหมายเหตุที่มองไม่เห็นว่า รักและคิดถึงนะ แต่ไม่ได้เรียกร้องต้องการอะไรจากเธอเลยนะ เป็นหนังสือที่น่ารักมากๆ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
Paradise Lost
สวนสวรรค์ที่สาบสูญ
: Jimmy Liao
.........................................................
The Blue Stone
โลกเหงาของหินสีฟ้า
: Jimmy Liao
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล
: แปลจากภาษาจีน 'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ
..................................................................
...................................................................
จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมี
สามารถสั่งซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์มได้เลยครับ
โทร.0-2664-4256-7,08-5664-9612
เป็นบริการพิเศษ
สำหรับแฟนหนังสือ'ปราย พันแสง ครับ-ค่าส่งฟรี

28

28

27

27

26

26

25

25

24

24

23

23

22

22

21

21

20

20

19

19

18

18

17

18

16

16

15

15

14

14

13

13

12

12

11

11

X8

8

X7

7

X6

6

X5

5

X4

4

X3

3

X2

1

ติดต่อสังซื้อ

● ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ คุณเจี๊ยบ โทร. 08-5664-9612 ● พ็อคเก็ตบุ๊คสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม วางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature เอกมัย (Vanilla House), ร้านแพร่พิทยา, ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หาไม่เจอกรุณาสอบถามพนักงาน ● ติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ สำนักงานฟรีฟอร์ม บริษัท ลมดี จำกัดเลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259 (เวลาทำการ 09.00 - 17.00 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์) และ 08-5664-9612อีเมล:freeformthailand@hotmail.com: ... * คลิกกลับหน้าแรก *คลิกกลับนิตยสารฟรีฟอร์ม *คลิกกลับฟรีฟอร์มพรินติ้งเซอร์วิส *คลิกกลับบล็อก'ปราย พันแสง