พูดกับบ้าน

'รงค์ วงษ์สวรรค์......... พูดกับบ้าน ..
บันทึกแห่งชีวิตนักเขียน ในความถวิลถึงบ้านและญาติน้ำหมึก “ผมซื้ออิฐและซีเมนท์ด้วยงานเขียนคอลัมน์วันละ 3 ถึง 4 ชิ้น ผมไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคนขยันเพราะผมบูชาความขี้เกียจ แต่ผมกำลังปลูกบ้าน ...” ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แล้วที่'รงค์ตั้งใจจะเป็นนักเขียนและต้องมีชีวิตที่ดี "ทำไมนักเขียนจะต้องนอนบ้านเช่าซอมมอซ่อ ทำไมนักเขียนจะต้องไม่มีอันจะกิน เราจะต้องปรับปรุงฐานะของเราให้ได้ ต้องมีบ้านเมื่ออายุยี่สิบกว่า มีรถยนต์เมื่อสามสิบกว่า เราต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี มีอาหารที่บำรุงสุขภาพ มีเหล้าดีๆ กิน และก็ทำงานให้เป็นระเบียบ” ด้วยความเชื่อว่า “ผู้ชายถึงอายุ 30 ถ้ายังไม่มีบ้านก็คงยากจะมีบ้าน”“มึงจะเขียนอะไรก็ได้งั้นหรือ”ประเสริฐ พิจารณ์โสภณถามอย่างหงุดหงิด กังวานท้ายประโยคทักท้วงและตำหนิ ผมยักไหล่ก่อนตอบว่า“วันก่อนกูเขียนเกี่ยวกับการเลือกซื้อลิพสติกได้เงินมาซื้อแม่บันได” “ฝ้าเพดานก็ยังไม่มีนี่หว่า พรุ่งนี้มึงจะเขียนอะไร" [วางจำหน่ายแล้ว]

บนถนนของความเป็นหนุ่ม

'รงค์ วงษ์สวรรค์ บนถนนของความเป็นหนุ่ม ...
ซูเปอร์ไฮเวย์ของฮิปปี้ เพลย์บอย สารคดีละเลียดโลกกว้างในวัยหนุ่มกำดัด สุดยอดสารคดีขบวนแรกในวัยหนุ่มของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ถ่ายทอดประสบการณ์ท่องโลกกว้างอันน่าตื่นตะลึงในดินแดนญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ในฐานะนักข่าวหนังสือพิมพ์ “สยามรัฐ” และตัวแทนนิตยสาร “ดาราไทย” โดยปิดท้ายเล่มด้วยเรื่องสั้นสะท้อนชีวิตวัยหนุ่มของผู้เขียน “บางซ่อน-กรุงเทพฯ” “บนถนนของความเป็นหนุ่ม” ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2504 ในแบบฉบับปกแข็งหนาร่วม 400 หน้ากระดาษ ด้วยความเป็นหนุ่มในวัยกำดัด ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มีความสดในการคิดและเขียนถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่สายตาของเขาพบเจออย่างละเอียด รวดเร็วและเฉียบคม กล่าวได้ว่า “บนถนนของความเป็นหนุ่ม”เป็นสารคดีที่มีชีวิตชีวามากที่สุดที่ช่วยพิสูจน์และยืนยันคำพูดติดปากของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่ว่า “การเดินทางเป็นสายตาของนักเขียน” [วางจำหน่ายแล้ว]

ไฟอาย

ไฟอาย 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ..
จากคอลัมน์ “รำพึงรำพัน โดยลำพู” งานเขียนในยุคแรกเริ่มของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เขียนลงใน “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” เป็นการคิดคำนึงถึงสังคมในแง่มุมต่างๆ อย่างน่าสนใจ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ พูดถึงคนในระดับล่างไม่ว่าจะเป็นคนกวาดถนน คนโซ โสเภณี ฯลฯ และด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาอย่างโชกโชน คลุกคลีกับคนทุกระดับ ทุกชนชั้น ทำให้ “รำพึงรำพัน” เป็นสุดยอดผลงานยุคเริ่มต้นของนักเขียนไทยผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ทั้งในแง่ของการใช้ภาษาและมุมมองชีวิตที่สะท้อนผ่านตัวละครต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์“ไฟอาย”เป็นงานขบวน 3 จากคอลัมน์รำพึงรำพันโดยลำพู สืบต่อจากเล่ม “หนาวผู้หญิง” และ “เถ้าอารมณ์” ปรากฏตัวให้ผู้อ่านยลโฉมครั้งแรกในปีเดียวกัน คือ พ.ศ. 2503 หลังจากเปิดตัวผลงาน“ไฟอาย” ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น ในปีถัดมา'รงค์ วงษ์สวรรค์ จึงผลงานนวนิยาย“สนิมสร้อย” ตามออกมาติดๆ [วางจำหน่ายแล้ว]

'รงค์ ชุด เหยี่ยวฮิปปี้

แสงแดดเป็นไข้ ไฉไลเป็นบ้า ไม่นานเกินรอ
รวมผลงานชุดเหยี่ยวฮิปปี้ 3 เล่ม
ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์
....
แสงแดดเป็นไข้ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ .... ....................
ผลงานที่ไม่เคยรวมเล่มมาก่อนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ดำเนินการสานต่อให้เป็นรูปเป็นร่าง ว่าด้วยเรื่องราว "หม่อมราชวงศ์นัดพบนักเลง" เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ยุคทำหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ต้องมีนัดพบกับ "ยาม" ของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย โดยมี'รงค์ วงษ์สวรรค์ อยู่ในเหตุการณ์แสนระทึก เพราะต้องทำหน้าที่เป็นลูกมือคอยจดบันทึกการสัมภาษณ์ครั้งนั้นด้วยความอกสั่นขวัญแขวน มีให้อ่านทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากฝีมือการแปลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช[วางจำหน่ายแล้ว]
......................................................
........................ ............. ...................................... ........
ไฉไลเป็นบ้า 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ... เรื่องราวเิกิดขึ้นเมื่อครั้งสมัย'รงค์ วงษ์สวรรค์ สวมวิญญาณนักข่าวหนุ่มไฟแรงสุดเท่ ตะลุยโรงถ่ายหนังจีนชอว์ บราเดอร์ที่กำลังฮอตสุดๆ ในเวลานั้น เจาะลึกสัมภาษณ์ รัน รัน ชอว์ เจ้าของชอว์บราเดอร์, ศึกษาวิธีตั้งชื่อหนังสือจีนสุดฮิตสมัยนั้น, การเซ็นเซอร์, ความลับในการทำซับไตเติล ตั้งแต่ยุคก่อตั้งชอว์บราเดอร์ จนมาถึงจอห์น วู ผู้ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นขวัญใจฮอลลีวู้ดและนักดูหนังรุ่นใหม่ [วางจำหน่ายแล้ว]
......................................................................................... ........................................................................................ ........................................................................................ ..... ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ ....................
ไม่นานเกินรอ
'รงค์ วงษ์สวรรค์
....
เจ้าของคำพูดสุดคลาสสิค"ไม่นานเกินรอ"ที่ใครๆ ก็เอามาใช้พูดกันเขียนกันทุกวันนี้ จะมีกี่คนที่รู้ว่าเป็นสำนวนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ "ไม่นานเกินรอ"เป็นบทบันทึกความในใจจากซอกหลืบลึกที่สุดของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนหนุ่มหัวก้าวหน้าในยุคนั้นที่กำลังเพียรพยายามก่อร่างสร้างสไตล์งานเขียนที่เป็นตำนาน แต่กลับโดนถล่มเละเทะจากนักวิจารณ์ผู้โหดเหี้ยมที่นั่งกระดิกเท้าคอยพิพากษาเขาอยู่บนยอดหอคอยสูงของยุคนั้นอย่างดุเดือด จนกระทั่ง'รงค์ ถึงกับสบถเอาไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ว่า "ไม่นานเกินรอ! ไม่นานเกินรอ! ผมอยากเปิดเผยความในใจกับเขาว่าผมไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากไอ้โง่คนหนึ่งเท่านั้น! โง่บรรลัย! ให้ห่ากิน!" [วางจำหน่ายแล้ว]
..................................................
..........................................................

'รงค์ คืนรัก

คืนรัก : 'รงค์ วงษ์สวรรค์
พิมพ์ครั้งที่ 5 (วางจำหน่ายแล้ว)
เรื่องราวของบาปหวาน ตราตรึง กาลครั้งหนึ่งยังมี"รัก"เริ่มต้นจาก"ใคร่"หนังสือที่ผู้หญิงหลายคนบอกว่า"เกลียดที่สุด"ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ แต่สำหรับ'ปราย พันแสง มันคือหนังสือที่ "ย้อนศร เซ็กซี่ มีสไตล์ เชิงชั้นร้ายกาจ เท่เหลือกินเหลือใช้ น่าเอาไปทำหนัง"นี่คือผลงานของ'รงค์อีกเล่มหนึ่งที่เป็นหนังสืออยู่ในดวงใจ'ปราย พันแสง ตลอดกาลนับตั้งแต่ได้อ่านครั้งแรก จะมีอะไรคลาสสิคไปกว่าเหตุการณ์ในคืนเดียว ที่ผู้ชายคนหนึ่ง อยากได้ผู้หญิงคนหนึ่ง สารพัดวิธีการที่ผู้ชายคนนั้นเสกสรรหามาเพื่อหล่อน จึงดำเนินไปบนความใคร่ที่ไร้สิ่งเจือปนแม้แต่น้อย ใคร่จริงๆ ใคร่ล้วนๆ แต่งามละเมียดจนคุณอาจไม่อยากเชื่อ ว่าเรื่องพรรค์นี้มันงามถึงเพียงนี้ได้เชียวหรือ สำหรับคนที่ชอบพูดคำว่า"รัก" บางทีใครคนนั้นอาจจะไม่มีวันได้รู้เลยก็ได้ว่า บางครั้งความรักที่แท้จริงนั้น ...มันก็มาจาก"ใคร่" และดำรงอยู่ในหัวใจอย่างลึกซึ้งได้เช่นกัน นี่คือสุดยอด"เชิงและ"ชั้น"ในสไตล์การเขียนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เราต้องศึกษา คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือและตัวอย่างบทแรก
คลิกอ่านรายละเอียด

วานปีศาจตอบ

'รงค์ วงษ์สวรรค์ วานปีศาจตอบ
พิมพ์ครั้งที่ 2
คัดสรรบทสัมภาษณ์ “คมกริบ” จำนวน 12 ชิ้น จากบทสัมภาษณ์จำนวนหลายร้อยชิ้นตลอดชีวิตของนักเขียนใหญ่ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “พญาอินทรี” แห่งวงการวรรณกรรมไทย รวมถึงการสัมภาษณ์ยียวนกวนยิ้ม’รงค์ วงษ์สวรรค์ ในอดีตของขรรค์ชัย บุนปาน บิ๊กบอสแห่งอาณาจักรมติชนปัจจุบันนี้ ซึ่งเคยเป็นนักเขียนหนุ่มรุ่นน้องย่าน “เฟื่องนคร” สมัยนั้น ปัจจุบันบทสัมภาษณ์เจ๋งๆ แบบ 12 ชิ้นนี้ ไม่มีให้หาอ่านที่ไหนแล้ว ร้อยปีเมืองไทยจึงจะมีนักเขียนแบบนี้ได้สักคนหนึ่ง ร้อยปี จะมีนักเขียนไทยที่ให้สัมภาษณ์ได้ “คมกริบ” แบบนี้สักคนหนึ่ง--หรืออาจจะไม่มีอีกเลย! นอกจากนี้ ยังมีภาคพิเศษสุดๆ คือการสัมภาษณ์ ท่านปรีดี พยมยงค์ ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ขณะลี้ภัยอยู่ ณ บ้านชานกรุงปารีส เมื่อปี 2521 ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นบทสนทนาสุดคลาสสิคของคนสองคน ที่ก้าวเดินบนถนนต่างสาย ยิ่งใหญ่ในเส้นทางของตัวเอง ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ที่เราทุกคนต้องอ่าน ต้องศึกษา ไม่ว่าคุณจะเคยอ่านงานเขียนของ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มาก่อนหรือไม่ก็ตาม
(วางจำหน่ายแล้ว)

มกราคม อำลา

.................
ข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ตลอดเวลาเจ้า พี่อ้อม 081-7164007 e-mail : tuneinpeople@gmail.com เว็บไซต์ http://www.tunegerden.com/

หน้าซองจดหมายอาปุ๊ + บทรำพึง ถึงคนที่ไปจิบไวน์บนฟ้า

บทรำพึง...
คิดถึงคนบางคน
ที่กำลังจิบไวน์บนฟ้า.. ภาพจาก tuneingarden.com
Last update: July,04-2009 ......................
ใครเขียนหนังสือมาบ้างจะรู้ เวลาไม่ได้เขียนอะไรนานๆ มันจะฝืด อาปุ๊-'รงค์ วงษ์สวรรค์ เคยพูดกับฉันว่า "ตอนอาหนุ่มๆ นะ อาเขียนชิบหาย คิดอะไรหน่อย เห็นอะไรหน่อย อยากเขียน แล้วก็เขียนออกมาได้มหาศาล บางทีกลับไปอ่าน ยังรู้สึกว่ามันต้องแก้ตรงนั้นแก้ตรงนี้ คือสมัยหนุ่มจะแรงดี แต่งานเขียนอาจจะไม่ค่อยดีเหมือนตอนแก่"...ฉันก็ว่า "อุ๊ย อา ยิ่งดีสิคะ ยิ่งแก่ยิ่งเขียนกระจายไปเลยสิ ดีจะตาย"แต่อาปุ๊ตอนนั้นนั่งรถเข็นมาร่วมงานหนังสือมติชนที่เชียงใหม่ตอบฉันว่า"ตอนแก่นี่ ความคิดดีๆ มันเยอะก็จริง แต่ไม่ค่อยมีแรงเขียนว่ะ"...คลิกอ่านต่อ.............. ......... *... ...คนอ่าน .........47 ความคิดเห็น

งานอาปุ๊อีกชุด

น้ำผึ้งพระจันทร์หยดแรก
'รงค์ วงษ์สวรรค์
คัดสรรผลงาน'รง วงษ์สวรรค์ ที่ติดหนึบอยู่ในดวงใจ 'ปราย พันแสง ผลงานมาสเตอร์พีซแห่งระลึกถึง รวมผลงานเขียนแห่งแรงบันดาลใจของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่มีอิทธิพลต่องานเขียนของ'ปราย พันแสง ทั้งงานเขียนที่ดีที่สุด รักที่สุด และแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่สุดของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ในสายตาของคนเขียนหนังสือรุ่นหลัง ผู้ยังมี " ' " อยู่นำหน้าชื่อตามนักเขียนในดวงใจและยังบูชาผลงานของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ไม่เสื่อมคลาย ทุกเรื่องในเล่มนี้คัดสรรค์มาเพื่อนักอ่านหน้าใหม่ ที่ไม่เคยได้สัมผัสผลงานชิ้นเยี่ยมจริงๆ ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ มาก่อน รวมทั้งสำหรับนักอ่านหน้าเก่า ที่อยากจะอ่านใหม่อีกครั้งในวันนี้ [มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้]
......................................................................................... ..................................................................
...................... ........................................................................................ ........................................................................................ .......................................................................................
.
SEX : เซ็กซ์กอฮอลิก
'รงค์ วงษ์สวรรค์ .... รวมผลงาน sex life ทัศนคติและรสนิยมเกี่ยวกับเซ็กซ์ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เจ้าตัวบรรจงคัดสรรค์เตรียมใส่แฟ้มไว้สำหรับการรวมเล่ม แต่บังเอิญมีธุระต้องไปจิบไวน์บนฟ้าเสียก่อนที่งานจะสำเร็จเป็นเล่ม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนจะได้อ่านจากเล่มนี้ คือสิ่งที่'รงค์ วงษ์สวรรค์ ตั้งใจทิ้งเอาไว้ให้เราคิดถึงเขาโดยเฉพาะ [มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้]
..........................................................................................
.........................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................................
..........................................................................................
...............................................................................................................................................

จดหมายรัก ปราย พันแสง พิมพ์ครั้งที่ 5





พิมพ์ครั้งที่ 5
Love Letters
จดหมายรัก ’ปราย พันแสง

“เมื่อยังหนุ่มข้าพเจ้าคิดจะรัก แต่เมื่อย่างเข้าวัยชรา ข้าพเจ้ารักจะคิด” นั่นเป็นคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนึ่งในสุดยอดนักเขียนจดหมายรัก นอกจากนี้ในหนังสือเล่มนี้ ยังมีเรื่องราวชีวิต ความรัก และจดหมายของคนดังและไม่ดังของโลก อาทิ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรักไอน์สไตน์ จดหมายรักคาร์ล มาร์กซ์ ฯลฯ เคยฮิตสนั่นลั่นเมืองมาแล้วเมื่อตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ โศก ซึ้งเศร้า เข้าข้น หวาน มันส์ จนอ่านแล้วเหมือนจะละลาย รวมถึงจดหมายพิเศษในกล่องข้างใจ ที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน (ราคาปก 225 บาท)
คลิกอ่านรายละเอียดทั้งหมด


“การตกหลุมรักใครบางคน ไม่ใช่เรื่องงี่เง่าไปเสียทั้งหมด แต่แรงปรารถนารักใคร่ ก็ไม่อาจดึงเราไปจากสิ่งที่เรามุ่งมั่นได้” จดหมายรักไอน์สไตน์

“ผมต่อสู้เพื่อชนชั้นกรรมาชน แต่ความรักของผม มิใช่ความรักของชนชั้นกรรมมาชีพแต่อย่างใด หากแต่เป็นความรักสูงสุด เท่าที่มนุษย์เกิดมาผู้หนึ่งจะพึงรักได้” จดหมายรักมาร์กซิสต์

“ได้รักเธอ…ประภาคารก็ดูสวยดี คนที่ฉันกอดได้ ทำให้รู้ว่าโลกนี้สดชื่นสว่างไสว อย่าสนใจเลยนะคนดี ว่ารักเธอแล้วฉันจะกอดใคร แค่เชื่อว่าฉันรักเธอตลอดไป เพียงพอแล้ว” จดหมายจาก “เรือ” ถึง “ประภาคาร”

“ผมรู้สึกว่า ผมอยู่คนเดียวบนโลกมาตลอด แล้วคุณก็ปรากฏตัวขึ่น” จดหมายรักกริฟฟิน & ซาบีน




การพิมพ์จดหมายต่อสาธารณชน
ถือว่าเป็นการโป๊เปลือยอย่างที่สุด
นอกจากนี้เนื้อหนังมังสาของเขาเองแล้ว
จะไม่มีสิ่งใดปกปิดเขาจากสายตาโลกได้อีกต่อไป
นักเขียน แสดงตัวตนได้หลายแบบ
ตามกลวิธีเขียนที่มีต่างๆ กันมากมาย
แต่นักเขียนจดหมายจะมีตัวตนได้แบบเดียว
คือแบบที่เขาเป็นในจดหมาย...ตลอดไป

อี.บี.ไวท์.



จากใจสำนักพิมพ์
ในการจัดพิมพ์ครั้งแรก

The Love Letters - จดหมายรักเล่มนี้ 'ปราย พันแสง ใช้เวลานานทีเดียวในการรวบรวม ค้นคว้า อ่านจดหมายรักของคนอื่นเป็นหลายๆ สิบฉบับ อ่านจบเธอยังวิเคราะห์ตัวตนและความคิดที่อยู่เบื้องหลังตัวหนังสือของเจ้าของจดหมาย ด้วยมุมมองแบบ 'ปราย พันแสง ชนิดที่ว่าคนอ่านแล้วยังสนุกช่วยวิเคราะห์วิจารณ์ได้อีกยาว

คุณว่ามั้ย หลายเรื่องที่เธอนำมาคุยในคอลัมน์ของเธอมักกลายเป็น "เรื่องในความสนใจที่ต้องถกเถียง" ของผู้คนอีกพักใหญ่ๆ เชียว เราเคยแอบนินทาเธอด้วยความชื่นชมว่าเธอเป็น trendsetter คนหนึ่งของแวดวงหนังสือยุคนี้

นอกจากเธอจะเป็นพวก "ล้ำหน้า" "ช่างอ่าน-ช่างคิด-ขยันเขียน" แล้ว 'ปราย พันแสงยังเป็นพวก "อิน" รสหวาน-ขมของชีวิตอย่างร้ายกาจ เชื่อไม่เชื่อต้องไปหางานเล่มอื่นๆ ของเธอมาอ่านดู บวกกับคุณสมบัติอีกหลายอย่างที่นักเขียนควรพึงมี ทำให้งานเขียนของเธอมีแฟนๆ ติดกันเหนียวแน่น

สำนักพิมพ์หวังว่า 'ปราย พันแสงจะมีงานเขียนที่อ่านสนุก คม-ชัด-ลึก-ยิ่งขึ้นออกมาให้เราอ่านกันอย่างสม่ำเสมอ

ด้วยความนับถือ
พาฝัน ศุภวานิช (บรรณาธิการ)




สารบัญ
เมื่อความรักสอนให้เขียนจดหมาย
จดหมายจาก "เรือ" ถึง "ประภาคาร"
จดหมายรักพวงชมพู
จดหมายรักไอน์สไตน์ (1)
จดหมายรักไอน์สไตน์ (2)
จดหมายรักไอน์สไตน์ (จบ)
กล่องไปรษณีย์สีแดง
จดหมายรักกริฟฟิน & ซาบีน (1)
กฏแห่งการอ่อย
จดหมายรักกริฟฟิน & ซาบีน (2)
สนเท่ห์เสน่หา
จดหมายรักกริฟฟิน & ซาบีน (3)
จดหมายรักกริฟฟิน & ซาบีน (4)
ลายรักอักษร
คู่เขียนอักษร
คู่เขียนคู่ควร
แย้มไม่ได้ เอื้อมไม่ถึง
คิดถึงรักอยากหักคอ
กรณีห่มผ้าให้ผู้หญิงนอนดิ้น
หญิงสาวในเสื้อสีปูน
จดหมายรักมาร์กซิสต์
จดหมายรักต้องเผา!
ทำไมผู้หญิงเค้าเรียกร้อง
จากเรานักวะ?
จดหมายรักมาร์กซิสต์
(ภาคพิสดาร)
รักคนอ่าน
จดหมาย รัก-ไม่รัก-รัก
บางเหตุผลที่ผู้คนชอบจดหมาย
ภาคผนวก
จดหมายส่งท้าย



ตัวอย่างบางตอนในเล่ม
เมื่อความรักสอนให้เขียนจดหมาย
(ไร่แห้วสวนผสม)


"เซ็กซ์กับกอล์ฟ เป็น 2 อย่างในโลกที่เราสามารถสนุกกับมันได้โดยไม่ต้องเก่ง" เควิน คอสเนอร์พูดไว้คมขาดใจในหนังเรื่อง Tin Cup ต้องยอมรับว่าคำพูดนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่า U.S. Open เซ็กซี่ขึ้นมาทันตาเห็น

ความจริงฉันเองไม่ได้รู้อะไรพวกนี้มากหรอก ในภาคทฤษฏีพอลุ้น แต่ฉันชอบหนัง Tin Cup มาก ใครๆ ว่าห่วย แต่ฉันชอบ ดูจบยังเกิดแรงถีบให้ไปหาหนังสือทฤษฎีกอล์ฟมาอ่านเล่มสองเล่ม จนเพื่อนฝูงบางคนหวาดเสียวว่าฉันจะหลงใหลเจ้าหลุมเล็กๆ ในสนามหญ้าเขียวอื๋อเช่นนี้จนกู่ไม่กลับเสียแล้ว

อย่างว่า...ของบางอย่างต้องลงมือจริงด้วยถึงจะเวิร์ค -ใช่มั้ย
คนตีกอล์ฟไม่เป็น - ไม่เคยคิดจะหัด แต่ยังดันทุรังมานั่งอ่านหนังสือพวกนี้ มันจะได้สักแค่ไหน คุณคงนึกภาพออกว่าเป็นยังไง บทสรุปคราวนั้นของฉันจึงมีอยู่ว่า "นั่งเคี้ยวกระดาษเล่นเพลินกว่าเยอะ"...ขอบอก

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันหมกมุ่นอยู่กับการอ่าน "จาดหมายรัก" ของชาวบ้านนับร้อยฉบับ เฉพาะจดหมายรักของซีโมน เดอร์โบวัวร์กับเนลสัน อัลเกรน ชู้รักของเธอก็ทำฉันแทบสลบเหมือดหลายรอบ

หนังสือเล่มหนามาก ใช้หนุนต่างหมอนได้เลย เล่มขนาดพี่น้องคารามาซอฟนั่นล่ะ นี่ขนาดยังไม่ได้อ่านจดหมายรักของเธอกับฌอง ปอล-ซาร์ท สามีอย่างเป็นทางการของเธอเลยนะ

อ่านพวกนี้มากเข้า จู่ๆ เจ้าเรื่องเซ็กซ์กับกอล์ฟที่ว่านี่ก็ลอยผ่านเข้ามาในหัว
ฉันเพิ่งรู้สึก (อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน)

ฉันเพิ่งทำเรื่องขอยืมหนังสือ "จดหมายรักยาขอบ" จากแฟนเก่า เจ้าของหนังสือยังบอกยิ้มๆ ว่า "เอาจดหมายของจริงไปด้วยมั้ย ที่เคยเขียนมาหายังเก็บไว้ทุกฉบับเลยนะ เอามาอ่านทีไรยังร้องไห้ทุกที" ฉันเขียนจดหมายรักเก่งขนาดนั้นเลยนะคุณ ฮึฮึ พูดแล้วจะหาว่าคุย

แต่ได้ชื่อว่าเขียนเก่งนี่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป บางทีมัน "ไม่เวิร์ค" ขึ้นมาได้เหมือนกัน เพราะคนรักบางคนเขาคิดว่าเป็นการ "เล่นสำนวน" มากกว่าอย่างอื่น

ก็อย่างว่า...เหมือนเรื่องเซ็กซ์กับกอล์ฟนั่นแหละ ของบางอย่างนะคุณ ถึงเชี่ยวทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ลองมัน "ไม่เวิร์ค" มันก็ยัง "ไม่เวิร์ค" อยู่ดีแหละ โชคดีที่เราโบ้ยไปโทษเจ้า "บุพเพสันนิวาส" ยัน "โซลเมท" เจ็ดชั่วโคตรได้บ้าง ถ้าไม่มีเรื่องพวกนี้มาให้อ้างคงแย่เหมือนกัน

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คล้ายๆ กันนี้ ไม่เป็นไรนะ
โอ๋โอ๋ สูดลมหายใจลึกๆ ทำใจดีๆ ไว้
เราหมั่นต่ออายุบัตรสมาชิกสมาคมไร่แห้วไปเรื่อยๆ ละกัน
ถือเสียว่ามาช่วยกันดูใจฟ้าดินหน่อยน่ะคุณ!
ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่าคนบางคนมันจะถูกสวรรค์ติ๊กชื่อ
กาหัวเราไว้ และไม่ยอมส่งเนื้อคู่มาให้เราจริงๆ

แต่เก๋ดีเหมือนกันนะ ถ้ามีคนถามเราว่า "ทำไมน้องไม่แต่งงาน"
เราก็ตอบไปเลยว่า "ไม่มีเนื้อคู่"
เน้นคำว่าไม่ใช่ "ไม่เจอ"
แต่มัน "ไม่มี" จริงๆ
ตอนพูดคำว่า "ไม่มี"
กรุณาทำเสียงหนักแน่นหน่อย
เพื่อแสดงความมั่นใจ

ในฐานะประธานชมรมคนรักจดหมายรักแห่งประเทศไทย ฉันมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า เป็นสมาชิกสมาคมไร่แห้วมันก็ดี อย่างน้อย เวลาเราอ่าน-เราเขียน "จดหมายรัก" หัวใจมันก็เต้นแรงตุ๊บตั๊บวี้ดวิ้วเลือดฉีดแรงดี

ยังนึกอยู่เลยว่าถ้าไม่เคย "แห้ว"
จะรู้สึกหัวใจหวีดหวิววี้ดวิ้ว
ตอนอ่านเรื่องพวกนี้ได้ขนาดนี้หรือเปล่า




The Love Letter
"เมื่อคืนฉันเขวี้ยงหนังสือออกหน้าต่าง ฉันพยายามลืม คุณคือความผิดพลาดทั้งหมดสำหรับฉัน ฉันรู้ดี แต่ฉันไม่ได้สนใจความคิดของฉันมากนักหรอก นอกจากคิดถึงคุณ"

"เมื่อเห็นคุณ เมื่ออยู่ใกล้ชิดคุณ ฉันรู้สึกถึงเสันผมหอมกรุ่นของคุณที่ปลิวมาแตะแก้มฉัน แต่มันไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ฉันถอนใจจากคุณในบางครั้ง แต่แล้ว ฉันก็ต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องเก่าๆ ของเราอีก"

"ยามที่ฉันผูกเชือกรองเท้า ยามที่ฉันปอกเปลือกส้ม ขับรถ หรือเอนกายนอนลงในแต่ละค่ำคืนที่ไม่มีคุณ ฉันกลับยังจดจำรำลึกได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเรา...มันคงเป็นอยู่เช่นนี้ตลอดไป"

ใครเคยอ่านนวนิยายเรื่อง The Love Letter ของแคทลีน ไชน์ คงพอจดจำจดหมายฉบับนี้ได้ จดหมายรักฉบับนี้ส่งผิดที่ เป็นจดหมายของใครคนหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย กลับเป็นคนได้อ่านมัน และมันก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอตลอดไป (ตามระเบียบฮอลลีวู้ด)

The Love Letter ติดอันดับหนังสือขายดี เคท แคพชอว์ ภรรยาของสตีเว่น สปีลเบิร์ก อ่านแล้วประทับใจจนต้องซื้อไปทำหนัง นำแสดงโดยตัวเธอเอง ให้ปีเตอร์ ชานที่เคยทำหนังเรื่อง "เถียนมีมี่" มาเป็นผู้กำกับฯ

คนที่ชอบเขียนจดหมาย เคยเขียน หรือเคยได้รับจดหมายแบบนี้ อาจยิ่งเข้าใจถึงพลังและเสน่ห์เย้ายวนของ "จดหมายรัก" ได้มากขึ้น และคงไม่แปลกใจว่าทำไมแม่ม่ายลูกติดเจ้าของร้านหนังสืออย่าง "เฮเลน" ตัวเอกในนิยายเรื่องนี้จึงมีอาการแปลกๆ หลังจากอ่านจดหมายรักฉบับนี้เข้า ทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เขียนจดหมายรักถึงเธอสักหน่อย

ทำไมคนเราอ่อนไหวกับจดหมายรัก (ของคนอื่นได้)
คุณเคยสงสัยหรือเปล่า ??



เสน่ห์ในจดหมาย
"การเขียนจดหมายเป็นวิธีคบค้าสมาคมที่ดีที่สุดสำหรับ คนรักสันโดษ" เป็นคำกล่าวของลอร์ด ไบรอน มหากวีสวีตหยด ระดับ "คลาสสิก" ผู้ได้ชื่อว่าเป็น "มือวางอันดับหนึ่งของแผ่นดิน" อีกคนในการเขียนจดหมายรัก

วงเล็บหน่อยนะว่า "สันโดษ" ของท่านลอร์ดอาจจะหมายถึงการคบหากับสาวๆ พร้อมกันหลายคนโดยไม่ยอมผูกมัด ตัวเองกับหญิงคนหนึ่งคนใด

นั่นฉันคิดเอง

เพราะชื่อเสียงของท่านนั้น
เจ้าชู้ระดับ "มืออาชีพ" ทีเดียว
ข่าวว่ามีภรรยาทางการถึง 7-8 คน
ก็คิดดูแล้วกัน

ฉันเก็บจดหมายรักของลอร์ด ไบรอนกับสาวๆ ของเขา ไว้ในกล่องสีชมพูข้างหัวใจหลายฉบับ จะค่อยๆ ทยอยเอามาลง ให้อ่านกัน

ใครที่เคยหลงรักบทกวีโฉมสคราญหวานหยด ดุจเนื้อกวางดำเนินทรายของเขาอย่างบทที่ชื่อว่า She walks in beauty อันลือลั่นบทนั้น อาจจะหลงรักจดหมายรักของเขาเหมือนฉันก็ได้

ฉันรู้สึกว่าจดหมายเหล่านี้นี่เองเป็นต้นธารของบทกวีชั้นยอดทั้งหลาย

นิค แบนทอค อาร์ทิสต์ชาวอังกฤษ นักเขียน นักทำปก ทำภาพประกอบ เจ้าของหนังสือชุด Griffin & Sabine อันเป็นตำนานจดหมายรักฉบับเอ็กโซติคที่มีชื่อเสียงอีกตำนานของโลก กล่าวถึงการเขียนจดหมายไว้ว่า "ผมไม่ได้ต่อต้านการใช้โทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารเรื่องเร่งด่วนหรือพูดคุยทั่วไป แต่ในบางครั้ง ถ้าเราเขียนสื่อสารกันบนแผ่นกระดาษมันจะดีกว่ามาก"

"การเขียนจดหมายดีสำหรับการเปิดเผยความคิดความรู้สึกส่วนตัว ถ้าคุณรู้สึกในสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างแรงกล้า คุณสามารถรวบรวมความรู้สึกของคุณออกมาวางเผยบนหน้ากระดาษ โดยไม่ต้องอึกอักหรือกลัวผิดพลาด คุณสามารถบอกคนที่คุณรักว่า คุณรู้สึกในความรักอันหมดจดงดงามนั้นแค่ไหน หรือแม้แต่การด่าทอคนที่ทำให้คุณยุ่งยากลำบากใจ การด่าด้วยจดหมายจะทำให้คนถูกด่า "รู้สึก" ได้มากเป็นพิเศษด้วย'

ที่ตลกมากคือ หลังจากหนังสือชุด Griffin & Sabine ขายดิบขายดี เป็นที่ชื่นชอบของนักอ่านมากมายทั่วโลก ก็มีนักอ่านบางคนปลาบปลื้มกับผู้เขียนมาก ถึงขนาดเสาะหาเบอร์โทรศัพท์ของนิค แบนทอค แล้วโทร.ไป "กรี๊ด" เขาที่บ้านแต่เช้าตรู่อยู่เนืองๆ ก็เล่นเอาแบนทอคช็อคแด่วไปเลย

นิค แบนทอค ให้สัมภาษณ์ว่าเขาผ่านร้อนผ่านหนาว เจอเรื่องราวเลวร้ายมาหลายอย่างในชีวิต แต่การที่แฟนหนังสือ Griffin & Sabine ใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องมือสื่อสารเพื่อบอกเขาว่า "รัก" หนังสือที่ว่าด้วยจดหมายรักชุดนี้แค่ไหนนั้น มันจัดว่าเป็น "ที่สุด" ของความเลวร้ายในชีวิตเลยทีเดียว!



จดหมายจาก
"เรือ" ถึง "ประภาคาร"

ประสบการณ์เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับจดหมายรักคือ ฉันเคยทำจดหมายรักของพ่อแม่หายไปทั้งกล่อง หลังจากหอบหิ้วไปมาหลายที่

ยังจำรูปร่างหน้าตาของมันได้บ้าง ว่าซองจดหมายที่แม่ส่งหาพ่อส่วนใหญ่เป็นซองสีขาวสีฟ้า มุมซองมีช่อดอกไม้เล็กๆ ส่วนซองจดหมายที่พ่อใช้ส่งหาแม่ ส่วนใหญ่เป็นซองสีขาวมีลายริ้วสีแดง หรือน้ำเงิน

ฉันไม่เคยซื้อซองจดหมายชนิดนี้มาใช้งานเลย

บางครั้งเมื่อได้รับหรือได้เห็นจดหมายที่ใช้ซองแบบนี้ทีไร
มักทำให้ฉันนึกถึงจดหมายรักของพ่อแม่ทุกครั้ง


จดหมายรักก็สำคัญ
พ่อฉันเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนช่างกลแถวสามย่าน ครอบครัวฉันเคยล้อกันว่าเป็นศิษย์รุ่นปู่ย่าน้ำตาเช็ดหัวเข่า เพราะทั้งพ่อทั้งเพื่อนร่วมรุ่นของพ่อแต่ละคน – สุดยอดทุกคน

ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันมักเห็นพ่อง่วนอยู่กับเครื่องยนต์กลไก พ่อจึงเขียนจดหมายรักด้วยปากกาลูกลื่นแบบเดียวกันที่เขาเหน็บกระเป๋าเสื้อไว้กับสมุดจดงานเล่มเล็กๆ พ่อเคยบอกฉันว่า "ปากกาลูกลื่นดีที่สุดเลยลูก พกง่าย ราคาถูก ถ้ามันหาย เราก็ไม่ต้องเสียดาย"

พ่อเขียนหนังสือเร็วมาก ตัวหวัด โย้ไปข้างหลัง เหมือนต้นหญ้าแข็งๆ ในทุ่งกว้างที่เอนระเนนไปทางเดียวด้วยลมพายุ ตัวหนังสือเขาเป็นระเบียบ ดูสวยงาม แต่อ่านยาก พ.พาน, ฟ.ฟัน, บ.ใบไม้, ป.ปลา พยัญชนะ 4 ตัวนี้ของเขาไม่ค่อยมีอะไรต่างกัน

ฉันไม่ค่อยได้เจอพ่อ แต่ยังจำลายมือของเขาได้ดี เป็นลายมือเดียวกับลายมือในกระดาษสามแผ่น ที่แทรกอยู่ในหนังสือวิธีชนะมิตรและจูงใจคนของเดล คาร์เนกี้ หนังสือที่พ่อเคยแนะนำฉันเสมอว่า "ต้องอ่านคู่กับสามก๊กนะลูก อ่านเยอะๆ อ่านหลายๆ รอบ"

สามก๊กฉันอ่านจบได้ แต่คาร์เนกี้ยังไงก็ไม่เคยจบเล่มได้สักที
จึงไม่ต้องแปลกใจ หากพบว่าฉันถนัด "กำจัดมิตรเพาะศัตรูเป็นพิเศษ"

ฉันมีความหลังฝังใจกับหนังสือเล่มนี้ เพราะวันหนึ่งก่อนที่พ่อจะเลิกร้างกับแม่ ก่อนเขาจะย้ายไปอยู่บ้านหลังอื่น ฉันเกิดไปแตะหนังสือคาร์เนกี้เข้า วันนั้นเองที่ฉันได้เจอกระดาษสามแผ่นนั้น

ตอนนั้นฉันเพิ่งเรียน ม.ต้น เพิ่งเริ่มหัดอ่านหนังสือเช่น "ขลุ่ยไม้ไผ่" ได้เข้าใจมากขึ้น เริ่มจะรู้เรื่องชีวิตบ้างแล้ว ฉันจึงเข้าใจข้อความในกระดาษสามแผ่นนั้นอย่างดี

พ่อเขียนระบายถึงความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานของพ่อ

มีอยู่ 2 คำพูดที่ฉันยังจดจำได้แม่นยำคือ
"ผมเลือกแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรักที่สุด"
และ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม"

เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกฉันว่าคำพูดนี้เองคือสิ่งสำคัญ
ที่กำหนดให้ฉันกลายเป็นคนแบบนี้ในวันนี้

แม่ฉันเขียนจดหมายรักด้วยดินสอ เธอเคยเล่าว่า สมัยสาวๆ เธอได้ชื่อว่าเป็นสาวงามประจำถิ่น เธอว่าเพื่อนคนสวยร่วมรุ่นของเธอไม่ค่อยมีใครลายมือสวย แต่ตัวหนังสือของเธองามกระฉ่อนเหนือใคร งามเหมือนหน้าตา จนครูให้ช่วยมาคัดลายมือบนกระดานดำเสมอ

ตัวหนังสือของแม่โย้ไปข้างหลังเล็กน้อย อ่านง่าย และดูซื่อไม่เข้ากันเลยบุคลิกสาวแว่นดำ (ฉันกับน้องเคยล้อเลียนเธอว่าเป็นโยโกะโอโนะที่ปราศจากจอห์น เลนนอน) ในรูปถ่ายเก่าๆ หน้าชุมทางรถไฟคนนั้นเลย

ดูเธอจริงจังตั้งใจมาก กับการเขียนตัวหนังสือที่มีหัวให้มันมีหัวสมศักดิ์ศรีครบถ้วนทุกตัวอักษร เธอยังเขียนแบบนั้นไม่เคยเปลี่ยนมาจนทุกวันนี้

ตอนเป็นเด็กฉันเรียนเก่ง เกรดในสมุดพกเหมือนเดิมเกือบทุกเทอมทุกปี ความเห็นครู ความเห็นแม่จึงเหมือนเดิมแทบทุกเทอมทุกปี จนฉันขี้เกียจเอาไปให้แม่ดู

มีคราวหนึ่ง "ซ่าส์" ฉันจึงเขียนและเซ็นชื่อแทนแม่เองเสียเลย แต่ครูที่ปรึกษามาดเฮฟวี่ของฉันจับได้ ครูเบื่อพวกปลอมลายเซ็นผู้ปกครองมาก มีให้เรียกไปชำระคดีกันทุกเทอม ข้อนี้ฉันไม่รู้มาก่อน แต่เครดิตเก่าๆ คงดีอยู่เพราะครูบอกในชั้นแค่ว่า "เอาไปลบ แล้วให้แม่ (ง) เธอเขียนมาส่งฉันใหม่"

ฉันมักบ่นเสียดายกับเพื่อนๆ และใครต่อใคร ว่าฉันไม่น่า "ชุ่ย" ขนาดทำจดหมายรักของพ่อแม่หายไปทั้งกล่อง ทุกวันนี้ฉันยังโกรธตัวเองไม่หาย ยิ่งโต ยิ่งเสียดาย

ใครคิดว่า "จดหมายรัก" ไม่สำคัญ
ขอบอกตรงนี้เลยว่า "สำคัญมาก"
โดยเฉพาะสำหรับลูกที่เกิดมาในครอบครัวแตกแยกอย่างฉัน
ฉันเสียดายเพราะมันเป็น "หลักฐาน" อย่างเดียวในโลก
ที่แสดงว่าพ่อกับแม่เคยรักกันแค่ไหน!



จดหมายเรือ-ประภาคาร
เมื่อมีความรักกับเขาบ้าง ถึงพบเจอพูดคุยเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน แต่ฉันยังชอบที่จะเขียนจดหมาย ได้จดหมายตอบบ้าง - ไม่ได้บ้างไม่เป็นไร ใครไม่ตอบนานไปก็บ่นว่ากันหน่อย

หนุ่มเดนตายที่หลงมาติดกับดักรายหนึ่งเคยเปรยกับฉันว่า "รักนักเขียนนี่ลำบากนะ ต้องเขียนเยอะ เพราะเธอหิวตัวหนังสือ" และฉันไม่ค่อยชอบคุยโทรศัพท์เสียด้วย

ความเพ้อฝันสูงสุดเกี่ยวกับจดหมายรักของฉันคือ เป็นพ่อแม่ประเภทครองรักกันไป ให้หัวใจและยอดไม้เท้ากลายเป็นทองคำ จนสามารถมอบกล่องจดหมายรักของตนเป็น "ของขวัญ" วันแต่งงานของลูกได้

ทำไมน่ะหรือ...คงเพราะฉันเป็นลูกสาวประเภทที่ฝันอยากได้ของขวัญแบบนั้นมากเลยน่ะสิคุณ

คนที่ฉันมีใจให้จึงมักจะเป็นคนชอบหนังสือ ชอบขีดเขียนอยู่บ้าง

มีรายหนึ่ง (ฟังเหมือนมีคนจีบเยอะ ความจริงที่ดูเยอะเป็นเรื่องเทคนิคทางการเขียนเท่านั้นเองค่ะ) พูดกับฉันว่า "ทำจดหมายรักพ่อแม่หายหรือ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวทำให้ใหม่" โดยบอกว่าเขาจะเขียนจดหมายรักให้ฉันเอง ให้ฉันเขียนตอบบ้างสัปดาห์ละฉบับก็ยังดี


[มีต่อในเล่ม]



พ็อคเก็ตบุ๊ค Love Letters
จดหมายรัก’ปราย พันแสง
Copyright © 2009 by Freeformbooks, Lomdee Co.,Ltd. All rights reserved.
© สงวนลิขสิทธิ์โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ในนามบริษัท ลมดี จำกัด ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ทำสำเนา ถ่ายเอกสาร หรือนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต หรือสื่อชนิดอื่นๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น




จดหมายรักมาร์กซิสต์
เนื้อความบางส่วนจากพ็อคเก็ตบุ๊ค Love Letters
จดหมายรัก’ปราย พันแสง


ใครจะคิดว่า คาร์ล มาร์กซ์ โรแมนติกชนิดมหาวายร้าย เขาเป็นเจ้าพ่อทฎษฏีปฏิวัติสังคม เขาเรียกการปฏิวัติว่า "การเต้นรำ" แถมเขียนจดหมายรักได้เฉียบขาด

จดหมายรัก "ยาขอบ" ของไทยเราที่ว่าหวานนักลองมาเจอจดหมายรักศาสดามาร์กซิสต์บ้าง แล้วจะรู้ว่าหวานขาดใจได้เช่นกัน แต่มาร์กซ์ อาจ "เท่" กว่า "ยาขอบ" เล็กน้อย ตรงที่ว่ามีรักแรกและรักเดียวมั่นคงตลอดชีวิต

มาร์กซิสต์รักเดียวในเดียวนี่เท่มากนะคุณ

เรารู้จักคาร์ล มาร์กซ์ในฐานะศาสดาแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์นักปรัชญา นักสังคมศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ นักปฏิวัติ นักคิดคนสำคัญของโลกในศตวรรษที่ 19

คาร์ล อฮน์ริช มาร์ก เกิดใบ้านที่สุขสบายแบบชนชั้นกลาง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1818 ที่เมืองทริเอ ประเทศเยอรมนี ตระกูลของเขาสืบเชื้อสายาจากแรบไบ (พระของชาวยิว) ไฮน์ริช พ่อของเขานอกจากจะเป็นนักกฎหมายที่ได้รับความนับถืออย่างสูงในทริเอแล้ว ยังมีความรอบรู้เรื่องวรรณกรรมและปรัชญาต่างๆ เป็นอย่างดี นักเขียนคนโปรดของพ่อเขาคือวอลแตร์ นักคิดนักเขียนคนดังชาวฝรั่งเศส และดอริส เลสซิ่ง นักเขียนชาวอังกฤษผู้ให้ความสำคัญกับคุณค่าของมนุษย์อย่างสูง

ในบันทึกประวัติชีวิตของคาร์ล มาร์กซ์ เขียนเอาไว้ว่า พ่อของคาร์ล มาร์กซ์เป็นบุคคลซึ่ง "รู้จักวอลแตร์และเลสซิ่งด้วยหัวใจ" มาร์กซ์สนใจวรรณกรรม สามารถแต่งโคลงกลอนไพเราะได้เองตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่ขวบ แน่นอนว่าย่อมเป็นที่รักและใกล้ชิดกับพ่อเป็นอย่างยิ่ง อิทธิพลความคิดทางปรัชญา ทางสังคมต่างๆ จึงซึบซาบ อยู่ในตัวเขามาแต่เล็กแต่น้อย

นอกจากอิทธิพลจากพ่อ เพื่อนบ้านสูงศักดิ์อย่าง บารอน วอน เวสท์ฟาเลนก็มีส่วนปลูกฝังความคิดต่างๆ ให้มาร์กซ์อย่างมาก บารอนมีชื่อเสียงมีภูมิปัญญา ให้ความรักและเอ็นดูมาร์กซ์อย่างมากคอยสนับสนุนให้เขาอ่านหนังสือดีๆ มาร์กซ์กับเพื่อนบ้านอาวุโสผู้นี้มักออกไปเดินเล่นด้วยกันเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเรื่องวรรณกรรมอยู่บ่อยๆ

นอกจากวรรณกรรม อีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดในมาร์กซ์มาตั้งแต่แรกรุ่นหนุ่มก็คือ "เจนนี่ วอน เวสท์ฟาเลน" ลูกสาวคนสวยของบารอนที่เติบโตมาด้วยกัน ตอนที่คาร์ล มาร์กซ์อายุได้เพียง 13 ปี เขากับเจนนี่ได้แอบหมั้นกันเองเงียบๆ

เมื่ออายุ 17 มาร์กซ์เรียนจบชั้นมัธยมในทริเอ พ่อได้ส่งเขาไปเรียนวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งบอนน์ และปีต่อมาได้ส่งไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในเบอร์ลินซึ่งดีกว่าที่เก่า มาร์กซ์เรียนอยู่ที่นี่ 4 ปี และในเบอร์ลินนี่เองที่มาร์กซ์เข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม Young Hegelian ซึ่งเป็นกลุ่มหนุ่มสาวไฟแรงนักเคลื่อนไหวทางสังคมในเบอร์ลินตอนนั้น

และแม้จะเจอผู้คนมากมาย แต่คาร์ล มาร์กซ์ยังจงรักภักดีต่อเจนนี่ไม่เสื่อมคลาย ทั้งที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ห่างกันนี้มาร์กซ์กับเจนนี่มีโอกาสเจอกันไม่กี่ครั้ง แต่เขากับเธอยังเขียนจดหมายถึงกันสม่ำเสมอ

เจนนี่เป็นหญิงสาวจากตระกูลชั้นสูง แม้จะเป็นเพื่อนบ้านกันรู้จักกันมาแต่เล็กแต่น้อย แต่เมื่อทราบว่ามาร์กซ์กับเจนนี่รักกันทางครอบครัวของเธกก็ไม่ค่อยชอบใจนัก

มีจดหมายฉบับหนึ่งที่มาร์กซ์เขียนถึงเจนนี่ ขณะที่เขากำลังเคร่งเครียดอยู่กับการทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาเอก ความว่า "ตอนนี้ภรรยาในอนาคตของฉันคงกำลังต่อสู้กับผู้คนที่เคร่งศาสนาในครอบครัวของเธอเองแต่ช่วยไม่ได้เลยจริงๆ ที่เธอเกิดมาในตระกูลชนชั้นสูง ซึ่งยามนี้กำลังต่อต้านครอบครัวของฉันด้วย การรบราครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ฉันเป็นห่วงเหลือเกินว่ามันคงทำให้เธอเหนื่อยล้าเป็นที่สุด"

นั่นแสดงให้เห็นถึงว่า มาร์กซ์ตระหนักถึงความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นที่ไม่ค่อยยุติธรรมกับคนในสังคมเท่าไหร่

แต่ในที่สุด มาร์กซ์กับเจนนี่ก็ได้แต่งงานกันจนได้ในปี 1843 ท่ามกลางความไม่พอใจของครอบครัวฝ่ายหญิง เจนนี่มีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ทั้งรูปโฉม เงินทอง และเกียรติยศทางสังคม มีชายหนุ่มที่เหมาะสมหมายปองเธอมากมาย การที่เธอเลือกแต่งงานกับมาร์กซ์นั้น ถือว่าอนาคตมัวมนจริงๆ ซึ่งการตัดสินใจมั่นคงเด็ดเดี่ยวของเธอนั้น ทำให้มาร์กซ์ต้องก้มหัวยอมรับนับถือเธอจนวาระสุดท้ายของชีวิต

หลังแต่งงานแล้วทั้งคู่ย้ายมาอยู่ปารีส ในช่วงนั้น บรรดาชนชั้นกลางในระบอบราชาธิปไตยในฝรั่งเศสถูกล้มล้าง กระแสการเมืองคุกรุ่น มาร์กซ์กับเจนนี่ถูกจับ และต่อมาต้องระหกระเหินย้ายกลับมาอยู่ที่เยอรมันอีกครั้ง

มาร์กซ์ เป็นนักอุดมคติ เขาตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมเป็นเครื่องจักรผลิตเงินอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเองครอบครัวของเขาจึงลำบากยากจนมาก เพราะต้องพึ่งพารายได้จากการเขียนหนังสือของเขาแต่เพียงอย่างเดียว ยังดีที่เพื่อนสนิทร่วมอุดมการณ์ตลอดชีวิตของมาร์กซ์คือ เฟรดริค เองเกลส์ นั้นมีฐานะร่ำรวย จึงคอยช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวนี้ในยามคับขันอยู่เสมอ

สมัยนั้น การคุมกำเนิดยังไม่สะดวกเหมือนทุกวันนี้ สิ่งที่ครอบครัวนี้หวาดกลัว ที่สุดคือการมีลูก เพราะนั่นหมายถึงว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูเพิ่มขึ้น แต่โชคร้ายที่ยิ่งกลัว ก็ยิ่งมีลูกหลายคน ถ้ามีเจ้าหนี้มาเก็บ เงินที่บ้าน พวกลูกๆ ของมาร์กซ์จะต้องบอกว่า "พ่อไม่อยู่บ้าน" จนเป็นที่รู้กัน

มาร์กซ์กับครอบครัวเคยถูกไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง เพราะค้างค่าเช่า และด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น ครั้งหนึ่ง ลูกสาววัย 1 ขวบของเขาเสียชีวิต มาร์กซ์ไม่มีเงินซื้อโลงศพให้ลูกด้วยซ้ำ

ชีวิตครอบครัวลำบากยากเข็ญ ขนาดที่มาร์กซ์เขียนจดหมายไปเล่าให้เองเกลส์เพื่อนรักฟังว่า "เจนนี่ร้องไห้อีกแล้ว เมื่อผมมองเห็นความทุกข์สาหัสของเธอชัดเจนเท่าไหร่ ผมก็มองเห็นความล้มเหลวของตัวเองชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น"

เองเกลส์ยกย่องเจนนี่อย่างมาก เขาเคยพูดถึงเธอว่า "เป็นผู้หญิงที่มีจิตใจที่เข้มแข็งมาก และอดทนมาก ความสุขยิ่งใหญ่ของเธอคือการทำให้ผู้อื่นมีความสุข อุดมการณ์ของมาร์กซ์ตอนนั้น ดูเลื่อนลอยราวกับแผนที่ในความฝัน แต่เธอยังหยัดยืนเคียงข้างเขา ให้กำลังใจเขาเสมอมา"

เจนนี่สนับสนุนอุดมการณ์ของสามีตลอดชีวิตจริงๆ เธอเห็นความตั้งใจจริง มองเห็นความสำคัญของ "แผนที่ในความฝัน" ในความคิดที่จะปฏิรูปสังคมให้ดีขึ้น ครั้งหนึ่งเธอเคยพูดว่า "แม้ชีวิตของเราจะอยู่ในช่วงเลวร้ายที่สุด แต่สามีของฉันไม่เคยสูญเสียความมั่นใจเลย เขาเชื่อว่าชีวิตต้องดีขึ้น สังคมต้องดีขึ้นในอนาคต"

มาร์กซ์เรียกเจนนี่ว่า "เจ้าหญิงเจ้าเสน่ห์" เป็นราชินีแห่งงานเต้นรำ หญิงสาวที่สวยที่สุดแห่งเมืองทริเอ และอยู่ในความทรงจำของคนทั้งเมือง มาร์กซ์ภูมิใจกับภรรยาองเขามาก มาร์กซ์มีความสุขกับการหวนกลับไปคิดถึงชีวิตรักของเขากับเจนนี่ในวัยหนุ่มสาว

มันเป็นเรื่องน่าทึ่งจริงๆ เพราะเขากับเจนนี่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก รักกันมาตั้งแต่แรกรุ่นหนุ่มสาว กระทั่งแก่เฒ่าจนตายจากกันไปเองตามธรรมชาติ มาร์กซ์เขียนเล่าความทรงจำรำลึกเหล่านี้ไว้ในจดหมายถึงเพื่อนหลายฉบับ

ตลอดชีวิตที่ครองคู่กัน มีข่าวมาร์กซ์วูบวาบไปกับผู้หญิงอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากับเจนนี่แต่อย่างใด ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต มาร์กซ์ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่เจนนี่กลับเป็นฝ่ายตายจากไปก่อนในปี 1881 ด้วยโรคมะเร็งเช่นกัน

เอลินอร์ ลูกสาวคนหนึ่งเล่าเรื่องวาระสุดท้ายของพ่อ-แม่เธอไว้ว่า สภาพความป่วยไข้ ทำให้ "คนสองคนที่มีชีวิตผูกพันกันอย่างแนบแน่นสมบูรณ์แบบ" ไม่อาจอยู่ร่วมห้องใกล้ชิดกันได้เหมือนเก่าอีกต่อไป

"ฉันจดไม่มีวันลืมเลือนวันที่พ่อแข็งแรงพอที่จะเดินเข้าไปหาแม่ได้เลย ในยามนั้น พ่อดูไม่เหมือนชายแก่ที่ร่างกายกำลังจะแตกดับเพราะโรคร้าย ส่วนแม่ก็ดูไม่เหมือนหญิงชราที่ลมหายใจรวยรินจวนสิ้นใจดังสภาพที่เขาทั้งสองคนเป็นอยู่จริง เพราะในวันเช่นนั้น พ่อแม่ฉันจะมีชีวิตชีวาเหมือนหนุ่มสาวแรกรุ่นที่ถูกแรงรักดึงดูดเข้าหากันอย่างลึกซึ้ง"

จดหมายรักฉบับสวยงามที่สุด อ่อนหวานที่สุด เป็นจดหมายที่มาร์กซ์เขียนถึงเจนนี่ในปี 1856 ซึ่งหลังจากเขาแต่งงานกับเธอมาแล้ว 13 ปี มาร์กซ์เขียนถึงเธอว่า "ภาพอันมีชีวิตชีวาของคุณที่ปรากฎอยู่เบ้องหน้าผมยามนี้ ผมกำลังโอบกอดคุณไว้ในอ้อมแขนจุมพิตคุณตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า ผมสยบยอมพร้อมคุกเข่าลงตรงหน้าคุณ แล้วเอ่ยว่า ผมรักคุณ"

ผมต่อสู้เพื่อกรรมาชน แต่ความรักของผมมิใช่ความรักของชนชั้นกรรมาชีพแต่อย่างใด หากแต่เป็นความรักสูงสุด เท่าที่มนุษย์ที่เกิดมาผู้หนึ่งจะพึงรักได้ ความรักที่ผมมีต่อคุณ ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งได้กลับมาเป็นผู้ชายอีกครั้งหนึ่ง"

"ในโลกเรานี้มีผู้หญิงมากมาย ไม่ยากอะไรเลยที่ผมจะมองหาใลหน้าที่สวยสดงดงามของผู้หญิงที่มีอยู่มากหลายแต่จะมีใบหน้าของผู้หญิงคนใดเสมอเหมือนใบหน้าของคุณได้ ผมรักความเหี่ยวย่นที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าคุณ เพราะทุกริ้วรอยเหล่านั้นคือความทรงจำหวานชื่นทั้งหมดแห่งชีวิตผม"

[มีต่อในเล่ม]


พ็อคเก็ตบุ๊ค Love Letters
จดหมายรัก’ปราย พันแสง

Copyright © 2009 by Freeformbooks, Lomdee Co.,Ltd. All rights reserved.
© สงวนลิขสิทธิ์โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ในนามบริษัท ลมดี จำกัด ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ทำสำเนา ถ่ายเอกสาร หรือนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต หรือสื่อชนิดอื่นๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

พ็อคเก็ตบุ๊คออกใหม่ ฟรีฟอร์มสำนักพิม

[ขวา]
พ็อคเก็ตบุ๊คออกใหม่ วางจำหน่ายแล้ว มกราคม 2553
ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์
Last update :Jan-2010
.............

●พ็อคเก็ตบุ๊คฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ปกติวางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature เอกมัย (Vanilla House), ร้านแพร่พิทยา, ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ --หาไม่เจอกรุณาสอบถามพนักงาน [เค้าจะได้รีบหาหรือรีบสั่งมาวางไงคะ เป็นการช่วยสำนักพิมพ์ได้ด้วยทางหนึ่ง] .ใ

● หาอ่านไม่ได้จริงๆสามารถติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ สำนักงานฟรีฟอร์ม....... บริษัท ลมดี จำกัด เลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259 (เวลาทำการ 09.00 - 17.00 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์) และ 08-5664-9612 อีเมล: freeformthailand@hotmail.com

สำนักพิมพ์ โลนลี่ปาย [lonely pai]
พิมพ์หนังสือปาย ทำในปาย และขายเฉพาะในปาย
ในเครือฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ รับสมัคร กองบรรณาธิการ และ กราฟิคดีไซเนอร์ ฝีมือดี พร้อมเดินทางมาทำงาน
ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
กองบก.ควรมีกล้องดิจิตอล และ pc ของตัวเองมาด้วย
ดีไซเนอร์ควรมีแมคฯ และใช้อินดีไซน์คล่อง
สนใจส่งประวัติและผลงานมาที่อีเมล์ lonelypai@hotmail.com
ด่วนมากๆ งานรอเพียบจ้า!
.......................

ส้นสูง สโนว์ไวท์ ลิปสติก

คำ ผกา เธอคือไม้ขีดไฟ ผู้พร้อมจะจุด : พ.ศ.นี้บอกได้ว่าเธอก้าวขึ้นมาเป็นเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นอีกคนหนึ่ง ด้วยงานเขียนเปื้อนสีโยนออกมาพร้อมลูกระเบิดและไม้ขีดไฟที่จุดติด นอกเหนือจากเนื้อหาที่โดนใจคนหลายคน และขัดใจคนอีกหลายคนเช่นกัน สิ่งที่ทำให้โดนและขัดนั้นคือภาษาที่สื่อสารกับผู้อ่านอย่างถึงอกถึงใจ ร้อนแรง และแสบสันต์
..................

ส้นสูง สโนว์ไวท์ ลิปสติก : กุสุมาลย์ ณ ลำพู + คำ ผกา - ผลงานจดหมายโต้ตอบระหว่างผู้หญิงสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ แฟชั่น สื่อ ผ่านมุมมองทางสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ภาษาพูดแบบถึงลูกถึงคน เจ็บ แสบ กัด มันส์ โดย คำ ผกา คอลัมนิสต์ลูกชาวบ้าน กุสุมาลย์ ณ ลำพู เป็นสาวไฮโซฯ เพื่อนสนิท (วางจำหน่ายแล้ว)

.............

เมนูปรารถนา รักไม่เคยชิน คำ ผกา

......................... ..............

เมนูปรารถนา : คำ ผกา -พิมพ์ครั้งที่ 2 เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ และอารมณ์โรแมนติกของฮิมิโตะ ณ เกียวโต อีกภาคหนึ่งของคำ ผกา โดยเขียนเชื่อมโยงกับฤดูกาล อาหาร เครื่องดื่ม ขนม อันหลากหลาย (วางจำหน่ายแล้ว)

..................................

............................

.........................................

................................ .........

รักไม่เคยชิน : คำ ผกา - ความรักความสัมพันธ์ ปัญหาซับซ้อนสารพันของคนสมัยใหม่ ในมุมมองของผู้หญิงยุคนี้ ผิดถูกเลวดีเราไม่เอ่ยถึง เพียงแต่ทุกอย่างสามารถอธิบายได้ด้วยมุมมองทางสังคม ประวัติศาสตร์ (วางจำหน่ายแล้วนี้)

Alice in Wonderland

...................................................
freeform fairy tales
ชุดออริจินอล 3 เล่ม ที่ห้ามพลาด
.........
เทพนิยายที่เด็กทุกคนต้องอ่าน
ผู้ใหญ่ทุกคนต้องผ่าน
.......
ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์แนะนำสุดหัวใจ :)
เริ่มต้นกันด้วย
Alice in Wonderland : อลิซในดินแดนพิศวง
by Lewis Carroll
จิระนันท์ พิตรปรีชา: แปล
.....................
มาร่วมกันต้อนรับ Alice in Wonderland ที่กำลังจะกลายเป็นฉบับภาพยนตร์อีกครั้งโดยฝีมือกำกับภาพยนตร์ของ ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับสุดเซอร์เจ้าของผลงานภาำพยนตร์เรื่องดังมากมาย (รวมถึงพ็อคเก็ตบุ๊ค "เด็กชายหอยนางรม" ที่หลายคนกำลังตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย) โดยมี จอห์นนี่ เดปป์ มารับบทบาทชายมหัศจรรย์ The Mad Hatter : จิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ บรรจงแปลสุดฝีมือ ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์จัดพิมพ์ เพื่อนักอ่านชาวไทยที่"หลงรักเทพนิยาย"และ"หลงรัก"จอห์นนี่ เดปป์โดยเฉพาะ : ) คลิกอ่านต่อ
..............

เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว+เงื้อแล้วก็ต้องฟัน

เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว........ มนันยา แปล ......... ขายดีติดอันดับ 1. จากงานสัปดาห์หนังสือไปแล้ว สำหรับ “เงื้อแล้วก็ต้องฟัน” ผลงานรวมเรื่องสั้นชั้นเทพชุดที่ 1. ของกีย์ เดอ โมปัสซังต์ นักเขียนในดวงใจตลอดกาลของนักแปลมือ 1.ของเมืองไทยอย่าง “มนันยา”ที่เจ้าตัวบรรจงคัดเลือกเรื่องสั้นแต่ละเรื่องมาแปลด้วยตัวเอง ในสำนวนคมกริบ ไม่บันยะบันยัง ถึงลูกถึงคนอันเป็นเอกลักษณ์
...............
สำหรับ ผลงานรวมเรื่องสั้นชั้นเทพชุดที่ 2. ของกีย์ เดอ โมปัสซังต์คราวนี้ “มนันยา” ยังคัดเลือกทุกเรื่องที่เธอชอบมาแปลด้วยตัวเองอีกเช่นเคย คราวนี้ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ทำให้อ่านอิ่มจุใจ ด้วยหนังสือเล่มใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องสั้นสุดเจ๋งที่คัดแล้วอย่างดี
..........................................................................................
...............................
เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว มีทั้งหมด 25 เรื่อง อาทิ .เพราะไม่กล้านอนเตียง .หอมกลิ่นคอกม้า.แกล้งเจ้าบ่าว ความพยาบาท .เรื่องรักในป่าโปร่ง .สงครามกับหญิงวิกลจริต . เผื่อจะใช้บริการ . เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว . หล่อนเป็นใคร . ผู้มีรักแท้ . ตวงเมียขาย . ปารีสที่อยากรู้จัก . ความในใจของทหารรับใช้ . โชคของผู้หมวดลาร์ . ความลับที่เพิ่งได้รู้ . ความรักอันรุนแรง 7. เบื่อเหลือเกิน . ดาบนี้ขึ้นสนิม . ความรักนิรันดร . ทนไม่ไหวแล้ว ทุกเรื่องยังคมกริบ โหด มันส์ ฮาแบบไม่กล้าวาง ไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเช่นอีกเช่นเคย ฟรีฟอร์มรับประกันว่าอ่านแล้วติดหนึบและจะต้องรีบร้องหาเล่ม 3. มาอ่านโดยพลัน! เล่มต่อไปน่ะหรือ คงไม่ต้องรอนาน กำลังจะวางแผงตามกันมาในเร็วๆ นี้
................ ................... .......................................................................................................................... ....................... ..........................
The Best
Short stories
of Guy De
Maupassant เงื้อแล้ว…
ก็ต้องฟัน มนันยา
: แปล
..............
รวมสุดยอดเรื่องสั้นชั้นเทพของกีย์ เดอ โมปัสซังต์ หักทุกมุม ไม่บันยะบันยัง “มนันยา” บรรจงคัด 12 เรื่องสั้นแสนรักมาบรรจงแปลสุดฝีมือ ผลงานสุดยอดเรื่องสั้นของนักเขียนอายุสั้น ผู้ฝากผลงานยืนยงและยิ่งใหญ่เอาไว้ในโลกวรรณกรรม ด้วยฉายา “บิดาแห่งเรื่องสั้นโมเดิร์น” ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกวางจำหน่ายเกือบทุกปี โดยนักแปลหลายรุ่นหลายคน แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดระดับขึ้นหิ้ง ยิ่งผ่านการเจียระไนจากนักแปลมืออาชีพระดับฉกรรจ์เช่น“มนันยา”ด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “ห้ามพลาดทุกกรณี!” (ราคาปก 165 บาท) คลิกอ่าน,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดเกี่ยวกับ "เงื้อแล้ว...ก็ต้องฟัน" ทั้งหมด

พิศวาสเลือด,ทฤษฎีแห่งการฆ่า

SEX CRIME
พิศวาสเลือด

“ฆาตกรบางครั้งก็เป็นคนธรรมดา จนกว่าจะมีความต้องการทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เจาะลึกสารพัดเล่ห์ร้ายก่อนที่คุณจะกลายเป็นเหยื่อ ….คนฆ่าคนได้ลงคอเพราะอะไร เพราะโกรธ เกลียด อาฆาตมาดร้าย นั่นอาจจะปกติธรรมดา เพราะการฆ่าอีกมากมาย มีสาเหตุซับซ้อนมากกว่านั้น อย่างฆาตกรหญิงที่ฆ่าสามี แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ หนึ่ง ผู้หญิงที่อายุน้อยที่มีความต้องการทางเพศสูง และสอง เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ผิดหวังในเรื่องชีวิตคู่ การศึกษาพบว่าการที่ภรรยาลงมือฆ่าสามีนั้น เกิดขึ้นน้อยกว่าการที่สามีฆาตกรรมภรรยา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ฯลฯ ? (วางจำหน่ายแล้ว) คลิกอ่านรายละเอียด

...................................................................................
...................................................................................
.................................................................................
CRIME SCENES
ทฤษฎีแห่งการฆ่า

ครั้งแรกกับการรวมรวมสารพัดทฤษฏีแห่งการฆ่า แม้ว่าความโหดเหี้ยมของฆาตรกรนั้น บางครั้งไม่มีรูปแบบซับซ้อนใดๆ มากมาย ฆาตรกรจำนวนไม่น้อยเลย ที่ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องมีแรงจูงใจใดๆ ทั้งสิ้น ฆาตรกรต่อเนื่องก็คือฆาตกรที่ลงมือฆ่าซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการข่มขืน เท็ด บันดี เป็นนักศึกษากฏหมายรูปหล่อ ทุกคนในศาลต้องมองเขาจนเหลียวหลัง เขาเป็นตัวอย่างชั้นดีในการศึกษาจิตใจฆาตกรต่อเนื่อง ฉายาของเขาคือ นักฆ่าไอคิวสูง” , อัจฉริยะบางคนอาจจะมีความเป็นฆาตรกรอยู่ในตัว หากมองย้อนไป นักเขียนชื่อก้องโลกทั้งหลายต่างเติบโตมาจากการเป็นเด็กก้าวร้าว และเป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วยกันทั้งนั้นฯลฯ(วางจำหน่ายแล้ว) คลิกอ่านรายละเอียด

หวงเยวี่ยน

หวงเยวี่ยน : หนุ่มนักเขียนดาวรุ่งวัยยี่สิบแปด เคยโพสต์นิยายบนอินเทอร์เน็ต แต่ผลงานก้าวพ้นนิยายรักสูตรสำเร็จแบบอินเทอร์เน็ตไปไกลโพ้น ด้วยความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ กรุยทางสร้างสไตล์เฉพาะตัว มีแรงดึงดูดที่ทำให้ผู้อ่านติดหนึบ สมัยเรียนมัธยมเคยไม่พูดไม่จาถึงครึ่งปี เคยเดินรอบสนามแปดคาบเรียนเพื่อขบคิดข้อสงสัยเกี่ยวกับชีวิต บ้าหนังสือหนัก-ขนาดสะสมเล่มที่อ่านจบแล้วได้มากกว่าหมื่นเล่ม เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือการ์ตูน และนิยามตัวเองว่า "ผมไม่ใช่คนธรรมดา แต่ผมเป็นระเบิด!"

...........................................................................
....................................................
................................................................................................................................
.....................................
............................
剪刀石頭布 ฆ้อน กรรไกร กระดาษ
หวงเยวี่ยน : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
'ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น
[ผลงานเล่มใหม่ล่าสุดของหวงเยวี่ยน
-วางจำหน่ายแล้ว] ...
ฆ้อน กรรไกร กระดาษ”ผลงานเล่มใหม่ล่าสุดของหวงเยวี่ยนจากฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ เป็นเรื่องของชีวิตหญิงสาวตัวเล็กๆ ในสังคม เป็นคนธรรมดาๆ ที่พยายามไขว่คว้าหาความไม่ธรรมดาของชีวิต ด้วยบุคลิคสาวออฟฟิศหน้าตาเรียบๆ คุณสมบัติส่วนตัวและนิสัยใจคอก็ไม่ได้โดดเด่นเกินใคร แต่ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป หลังจากที่เธอได้มีโอกาสได้ชื่นชมภาพวาดชื่อ “รัตติกาลแรก” เมื่อเธอมีโอกาสช่วยเหลือชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งติดอยู่ในแกลเลอรี่เพราะไฟดับ และชายหนุ่มนั้นบังเอิญเป็นผู้วาดภาพนั้น....“ฆ้อน กรรไกร กระดาษ” เคยสร้างความประทับใจมาแล้วจากซีรี่ส์ไต้หวันยอดนิยม เคยฉายในเมืองไทยภายใต้ชื่อ “เกมรักหักเหลี่ยมซี้” ในฉบับซีรี่ส์ย่อมจะมีความแตกต่างจากต้นฉบับดั้งเดิม และ “ฆ้อน กรรไกร กระดาษ” เล่มนี้ ก็จะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราวความรักไร้กฏเกณฑ์(แต่ต้องตัดสินใจด้วยเป่ายิ้งฉุบ)อย่างเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ก่อนจะปิดหนังสือลงด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเปี่ยมสุขกันอีกครั้ง - คลิกอ่านรายละเอียด
...............
.........................................................................................
.....................................
............................
幸福來了
ผู้ชายเหมือนระเบิด
[ความสุขกำลังจะมา]
หวงเยวี่ยน : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
'ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น
...........
[ผลงานเล่มแรกของหวงเยวี่ยน
โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์
-วางจำหน่ายแ้ล้ว]:.
vo.....................
“ผมไม่ใช่คนธรรมดา ผมเป็นลูกระเบิด” ระเบิดลูกนี้ชื่อตัวอักษร ผมใช้ถ้อยคำซื่อตรง บอกเล่าความจริงใจ เหมือนชนวนที่เชื่อมโยงกับวัตถุระเบิด ความรักที่ตราตรึง การผจญภัยที่สดสวย เรื่องราวชวนปลื้ม ปีติระคนเหลือเชื่อกักตุนอยู่เต็มสมอง อัดแน่นเจียนระเบิด รสชาติเข้มข้น ความกดดันไร้ขีดจำกัด จำต้องหาทางระบาย ผมจำเป็นต้องระเบิด กรุณาอย่าเป็นห่วง เมื่อผมแหลกเหลวปี้ป่น ผมจะไม่ทิ้งรอยบาดเจ็บใดๆ ไว้บนตัวคุณเลย ดินระเบิดในตัวผมเป็นจิตวิญญาณ สิ่งเดียวที่จะหวั่นไหวบ้างก็คือหัวใจคุณ นอกนั้นจะไม่มีอะไรแตกสลาย ...แล้วคุณจะลืมผมไม่ลง............ง คลิกอ่านต่อ
..........
คนอ่าน

ซูซาน บอยล์

สู้ สู้! ซูซานบอยล์
ป้าเฉิ่มโลกตะลึง
[ราคาปก 210 บาท]
........
ป้าเฉิ่มซูซาน บอยล์ วัย 48 ปี ผู้ ไม่เคยแต่งงานและไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อน ปรากฏกายบนเวที Britain’s Got Talent เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 กล้องจับภาพกรรมการและผู้ชมแสดงท่าทางเย้ยหยันออกนอกหน้า ก่อนที่ซูซานจะเริ่มร้องเพลง I Dreamed a Dream ซึ่งทำให้ทุกคนอึ้งตะลึงงัน
คลิปวิดีโอการแสดงในวันประกวดของเธอ ถูกโพสต์ลง“ยูทูบ” ทุบสถิติอัตราฮิตเรท หรือจำนวนผู้ชมทะลุ 100 ล้านครั้งในเวลาไม่กี่วัน
“ซูซาน บอยล์” เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกๆ คนที่มีความฝัน” อีแลง เพจ ซูเปอร์สตาร์ นักแสดงละครเวที นักร้องอังกฤษรุ่นลายครามกล่าวไว้อย่างนั้น แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ซูซาน บอยล์ จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ปรากฏการณ์ซูซาน บอยล์ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ชีวิตที่พลิกผันจากดินเป็นดาวเพียงชั่วข้ามคืน อำนาจของ ‘ปากต่อปาก’ ในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่มีอินเตอร์เนตเป็นตัวนำ เรื่องราวชีวิตของเธอถูกสื่อมวลชนล้วงแคะทุกซอกมุม ข่าวคราวไซมอน คาวเวลล์เตรียมจับเธอเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายเพลงของเขา จนถึงข่าวการแปลงโฉมใหม่ของเธอที่ดูดีขึ้น แต่หลายคนต่อต้านเพราะอยากให้เธอขี้เหร่เหมือนเดิมมากว่า(ซะงั้น)
เรื่องราวชีวิตน่าทึ่งของป้าเฉิ่มซูซาน บอยล์ เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!

ไมเคิล เฟลป์ส

หนังสือที่ทุกครอบครัวควรอ่าน ในการพลิกชีวิต(ติดลบ)
สู่ความเป็นเลิศ ไมเคิล เฟลป์ส
เบื้องลับฮีโร่ แชมป์ 14
เหรียญทองโอลิมปิก เรื่องจริง
ที่โลกไม่เคยรู้
ในเกมชีวิต
สุดทึ่ง! กฤติยา รามโกมุท,
นพดล เวชสวัสดิ์ : แปล [ราคาปก 210 บาท]

จาก “เด็กพิเศษ” สมาธิสั้น ปัญหาเพียบ จากครอบครัวหย่าร้าง ไมเคิล เฟลป์ส พลิกชีวิตติดลบเป็นซูเปอร์เปอร์สตาร์ ฮีโร่นักว่ายน้ำขวัญใจชาวอเมริกัน ทุบสถิติ 8 เหรียญทองอันเหลือเชื่อ จากการแข่งขันโอลิมปิกปักกิ่งในปี 2008 อย่างหมดจดสง่างาม
..........
ใครจะคิดว่า “เด็กพิเศษ” จากครอบครัวหย่าร้าง ประสบปัญหาชีวิตอย่างรุนแรงจากโรคสมาธิสั้น แต่สามารถเรียนรู้ต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยวิธีเลี้ยงดูเอาใจใส่สุดพิเศษจากคุณแม่จอมอดทนทรหด ผู้คิดค้นวิธีการเลี้ยงลูกที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร จนกระทั่งเฟลป์สเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับโรคร้ายประจำตัว ต่อสู้กับการล้อเลียนเสียดสีจากเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่มีวุฒิภาวะสูงกว่า
......................................
ไมเคิล เฟลป์ส์ : เบื้องลับฮีโร่ เปิดเผยทุกรายละเอียดในชีวิตแบบเจาะลึก บันทึกทุกสถิติการแข่งขัน ครบครันด้วยภาพถ่ายที่ไม่เคยเปิดเผยจำนวนมาก วิธีเลี้ยงดูเด็กพิเศษด้วยวิธีการสุดวิเศษ รวมทั้งบทวิเคราะห์เจาะลึกค้นหาคำตอบ ว่าทำไมคนที่มีชีวิตติดลบอย่างเฟลป์ส จึงพุ่งสู่ความรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้
...
นี่คือหนังสือที่ทุกครอบครัวควรจะได้อ่าน
รวมทั้งทุกคนที่อยากรู้เบื้องหลังตำนานมีลมหายใจ--- ไมเคิล เฟลป์ส

โดเรียน เงื้อฯ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรัก สิในหมึก แมร์ด 3 เล่ม

The Picture
of Dorian Gray ภาพวาด
โดเรียน เกรย์ ออสการ์ ไวลด์ : เขียน
กิตติวรรณ ซิมตระการ
: แปล จิตราภรณ์ วนัสพงศ์: บรรณาธิการ
’ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น .......................
งานศิลปะชิ้นเยี่ยม!ในรูปแบบนวนิยาย เฉียบคม แสบสันต์ ราวกับเป็นหนังสือรวมฮิตคำคมของออสการ์ ไวลด์ ผลงานนวนิยายเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของคำคมและบทละครสำคัญที่ผู้คนมักจะหยิบยกมาเอ่ยอ้างตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทเพลงให้แก่คีตกวีมากมาย ผลงานของเขาได้รับการนำมาสร้างเป็นละครเวทีและภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในปี 2009 จะมีผลงานจากบทประพันธ์ของออสการ์ ไวลด์ถึง 2 เรื่องที่จะเข้าโรงฉาย ได้แก่ ภาพวาดโดเรียน เกรย์ (The Picture of Dorian Gray) โดยมีชื่อภาพยนตร์ว่าโดเรียน เกรย์ (Dorian Gray) นำแสดงโดยมีคอลลิน เฟิร์ธ นักแสดงหนุ่มจาก “ไดอารีของบริดเจต โจนส์” ส่วนในปลายปี 2009 ก็จะมีเรื่อง A Woman of No Importance ออกฉาย โดยมี อแมนดา เซย์ฟรีด จาก Mamma Mia! รับบทนำ (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านบทแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับ ภาพวาดโดเรียน เกรย์ ทั้งหมด
...........................
..............................
.............................
.............................
.............................
จดหมายรักยาขอบ
เรื่องรักต้องห้ามแต่สุดโรแมนติกของ “ยาขอบ” นักประพันธ์ชั้นครู ที่เคยสร้างผลงานเขียนเขย่าสังคมไทยให้สะท้านสะเทือนประจำยุคสมัย ฝ่ายชายเป็นนักประพันธ์ใหญ่จอมเจ้าชู้ มีภรรยาอยู่แล้วถึง 4 คน แต่ยังสามารถเขียนจดหมายจีบผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาวและอยากเป็นนักเขียนอย่าง “พนิดา” สาวสวยประจำยุคสมัย “จดหมายรักยาขอบ” เป็นหนังสือหายาก เป็นเรื่องรักคลาสสิคที่ตราตรึงใจนักอ่านมายาวนาน สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม ได้รับอนุญาตจากคุณประกายพฤกษ์ ศรุตานนท์ เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือยาขอบ ให้นำมาจัดพิมพ์ซ้ำอย่างถูกต้อง ในรูปเล่มใหม่ สวยงาม แต่ไม่ได้จัดจ้านจนเกินไปนัก ด้วยฝีมือศิลปินชื่อดัง “โลเล” ทวีศักดิ์ ศรีทองดี (ราคาปก 255 บาท) คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือ,คำนิยมยาวจุใจจาก วัฒน์ วรรยางกูร,คำนิยม "เอื้อมไม่ได้แอ้มไม่ถึง"จาก 'ปราย พันแสง และอื่นๆ

...........................

..............................
.............................
.............................
.............................

จดหมายรัก สินในหมึก

พิมพ์ครั้งที่ 5 Love Letters
จดหมายรัก
’ปราย พันแสง
....... “เมื่อยังหนุ่มข้าพเจ้าคิดจะรัก แต่เมื่อย่างเข้าวัยชรา ข้าพเจ้ารักจะคิด” นั่นเป็นคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนึ่งในสุดยอดนักเขียนจดหมายรัก นอกจากนี้ในหนังสือเล่มนี้ ยังมีเรื่องราวชีวิต ความรัก และจดหมายของคนดังและไม่ดังของโลก อาทิ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรักไอน์สไตน์ จดหมายรักคาร์ล มาร์กซ์ ฯลฯ เคยฮิตสนั่นลั่นเมืองมาแล้วเมื่อตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ โศก ซึ้งเศร้า เข้าข้น หวาน มันส์ จนอ่านแล้วเหมือนจะละลาย รวมถึงจดหมายพิเศษในกล่องข้างใจ ที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน (ราคาปก 225 บาท)
...........................
..............................
.............................
.............................
.............................
สินในหมึก
ยาขอบ
...........
เมื่อความรักสอนให้เขียนหนังสือ เคล็ดวิชาการประพันธ์อันเลื่องลือก็หลั่งไหล นี่คือสุดยอดหนังสืออมตะ ยิ่งผ่านกาลเวลา ยิ่งขลังเข้ม และไม่เคยล้าสมัย “สินในหมึก”เป็นหนังสือรวมยุทธวิธีเขียนหนังสือให้ได้อย่างใจ เขียนให้คนติด เขียนให้ขายดี มีคนชื่นชอบโดยทั่วไป ยาขอบไม่เน้นเรื่องพรสวรรค์ คนเราสามารถฝึกปรือให้เก่งขึ้นมาได้ ถ้ามี “ความปลอดโปร่งแห่งอารมณ์” ฯลฯ หนังสือเล่มนี้คัดคำแนะนำเฉพาะหัวกะทิ เป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มาจากภายใน มาจากความเป็นมนุษย์ เป็นจริง พิสูจน์ได้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกเขียนหนังสือทุกรูปแบบ ไม่ว่าเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น บทความ สารคดี เขียนไดอารี่ออนไลน์หรือแม้แต่เขียนบล็อก! (ราคาปก 225 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างบางตอน, คำนิยมจาก วัฒน์ วรรลยางกูร : นักเขียนรางวัลศรีบูรพา ปี 2550 และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือ"สินในหมึก"ทั้งหมด

ชุดแมร์ด 3 เล่ม

A Year in the Merde
อะ เยียร์ อิน เดอะ แมร์ด
ผ้าขี้ริ้วห่อชา
มนันยา: แปลไปหัวเราะไป

ปฐมบทแห่งนวนิยายแสบสันต์และฮากระจาย ด้วยอารมณ์ขันสุภาพแต่ซาดิสต์แบบหนุ่มอังกฤษหัวใจอินดี้ ว่าด้วยเรื่องราวของพอล เวสต์ หนุ่มลอนดอนที่เดินทางมาปารีสเพื่อบุกเบิกธุรกิจร้านน้ำชาอังกฤษในฝรั่งเศส ด้วยความสับสนทางวัฒนธรรม พอลต้องหารับมือกับ“ฝรั่งเศส”ทุกกระบวนท่า ไม่ว่าจะเป็นวิธีเอาตัวรอดจากการประชุมร่วมกับคนฝรั่งเศส วิธีหาบ้านพักแบบฝรั่งเศส สาวฝรั่งเศส จูบแบบฝรั่งเศส รวมถึงวิธีการสะกดภาษาอังกฤษแบบฝรั่งเซส ฝรั่งเศส ฯลฯ.A Year in the Merde ติดอันดับอินเตอร์เบสต์เซลเลอร์ เป็นหนังสือภาคบังคับที่ต้องมีทุกร้านหนังสือในปารีส (ราคาปก 295 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

...........................

.............................. ............................. ............................. .............................

Merde Actually

แมร์ดแอคชวลลี่

ทุกหัวใจมีแมร์ด

วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ :แปล

มนันยา : คำนิยม

หลังจากที่พอลได้เปิดร้านน้ำชาอังกฤษในฝรั่งเศสสมดังความตั้งใจ แต่พอลก็ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับฝรั่งเศสที่ต้องการคำตอบ เช่นว่า อะไรที่จะทำให้ตำรวจในฝรั่งเศสกลัวที่สุด? ทำไมจึงไม่มีการเตือนบนชายหาดเปลือยกาย, การนอนกับเมียของเจ้านายผิดหรือเปล่า? และที่สำคัญพอลยังคงตามหาสาวฝรั่งเศสที่สมบูรณ์แบบ แต่พอลจะเจอรักแท้ไหม หรือจะจบลงบนกองแมร์ด? การผจญภัยครั้งใหม่ของพอลที่ยังคงสร้างปัญหาระหว่างประเทศแบบสุดฮาอีกเช่นเคย (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

...........................

.......................

...............

.................................................

........................... .............................. ............................. ............................. .............................
Talk to the Snail. ทอล์ค ทู เดอะ สเนล
:กฎแห่งแมร์ด
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง : แปล
..............................
ทำอย่างไรถึงจะได้รับการบริการดีๆ ในภัตตาคารฝรั่งเศส, เรียนรู้การวางตัวแบบสุภาพและหยาบคายสุดๆ ในเวลาเดียวกัน ค้นพบภาษารัก เซ็กส์ และการสูบบุหรี่ (ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ), วลีที่สำคัญและขำขันฝรั่งเศ๊ส ฝรั่งเศสที่นำมาใช้ได้ในทุกสถานการณ์ พร้อมตัวอย่างไหวพริบเล็กๆน้อยๆที่ใช้ได้ในชีวิตจริง ฯลฯ ทั้งหมดรวมอยู่แล้วในหนังสือเล่มนี้ เหมาะกับคนที่สนใจฝรั่งเศส อยากไปฝรั่งเศส หรือคนที่กลัวทุกอย่างเกี่ยวกับฝรั่งเศส ก็ห้ามพลาดเล่มนี้อย่างเด็ดขาด! (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

ร้านชำ ความลับ

SUICIDE SHOP
ร้านชำสำหรับคนอยากตาย
ฌอง เติลเล่ : เขียน
องอาจ กันใจศักดิ์ : แปล
..... ถ้าคุณชอบครอบครัว Addams Family ถ้าคุณมีทิม เบอร์ตันอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้คุณพบรักใหม่อีกครั้ง ซุยไซด์ช็อป (Suicide Shop) หรือ “ร้านชำสำหรับคนอยากตาย” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกิจการร้านค้าเล็กๆ อยู่ในเมืองหนึ่ง ดินแดนซึ่งศาสนาได้เลือนหายไปจากความนึกคิดของผู้คน การฆ่าตัวตายจึงไม่เป็นบาป ไม่ขัดต่อศีลธรรม ณ ที่แห่งนี้กิจการของตระกูลตูวาชกำลังดำเนินไปได้สวย ใครอยากตายได้เลือกตายสมใจ สินค้าในร้านชำแห่งนี้ มีทั้งเชือกแขวนคอ ชุดประกอบพิธีฮาราคีรี ยาพิษหรือแม้แต่ "จูบมรณะ" (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
...................
..........
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........
.........................
ลับในความรัก จิระนันท์ พิตรปรีชา : แปล
พิมพ์ครั้งที่ 3
.... การรักใครสักคนนั้นหมายถึงอะไรกันแน่ ? “คู่สร้างคู่สม” มีจริงหรือไม่ ? ทำไมความหลง จึงไม่ใช่ความรัก ? อะไรคือรัก อย่างไรคือหลง? ทำไมการรักคนเลวจึงเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ? หนังสือเล่มนี้จะช่วยค้นหาความหมายของรักในระดับที่ลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หนังสือเล่มนี้คือของขวัญวาเลนไทน์สำหรับสมอง ..รอถึงวันแห่งความรัก อาจจะสายเกินไป (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

ริต้า ยูบิควิท Child 44 ต้นส้ม

SAINTE RITA เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน แคลร์ วัลเนียวิคส์ : เขียน วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ : แปลถึงเนื้อถึงกระดูก เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน (Sainte Rita, patronne des causes désespérées) เป็นรวมเรื่องสั้นหกเรื่องหกรส ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาฝรั่งเศส ผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิตของ แคลร์ วัลเนียวิคซ์ (Claire Wolniewicz) นักเขียนหญิงสาวสวยเชื้อสายโปแลนด์ กำลังมาแรงเป็นที่จับในแวดวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสขณะนี้(ราคาปก 155 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด .................................................
..
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
UBIQUITE
ผู้ชายครึ่งฝัน
แคลร์ วัลเนียวิคส์ : เขียน
พัชรินทร์ เสี่ยงเทียน : แปล.....
เรื่องราวประหลาดล้ำที่เกิดขึ้นในชีวิตแสนเงียบเหงาของ อดัม โวลลาดิเยร์ พนักงานออฟฟิศหนุ่มผู้เงียบขรึม ที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าตัวเองต้องการหรือชอบทำสิ่งใดในชีวิต ทว่ายังสามารถก้าวหน้าในอาชีพจนได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี ตั้งแต่เล็กจนโตอดัมคุ้นเคยกับกรอบเกณฑ์ของครอบครัว เคยชินกับการอยู่ในโอวาท ไม่เคยมีปากเสียงหรือความคิดเห็น จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อมีคนเข้ามาทักผิดบ่อยๆ ว่าอดัมเป็นคนนั้นคนนี้แทบไม่ซ้ำหน้า เมื่อเขาเริ่มหาวิธีรับมือกับการทักผิด เช่นลองรับสมอ้างไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพและอุปนิสัย จากที่เป็นคนเฉิ่มๆ อดัมกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์และเริ่มติดใจรูปแบบชีวิตคนอื่นที่เขาสมอ้างสวมรอยเข้าอย่างจัง (ราคาปก 155 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

..........................................................................................................................................

..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

.........................................................................

CHILD 44 - รหัสฆาฏ ทอม ร็อบ สมิธ : เขียน สุวัฒน์ หลีเหม : แปล

ตรวจสอบทุกคนที่ไว้ใจ ไม่มีอะไรให้กิน ไม่เหลืออะไรให้รัก ลุ้นระทึกสุดขั้วหัวใจ กับ Child 44 - รหัสฆาฏ สุดยอดนวนิยายทริลเลอร์เรื่องล่าสุดของโลกที่นักอ่านต่างรอคอยและเป็นที่กล่าวขวัญ นวนิยายซึ่งก่อให้เกิดสงครามการประมูลราคาในงาน London Book Fair เมื่อปี 2007 ที่ ยิ่งโด่งดังมากขึ้นเมื่อริดลีย์ สก็อต ผู้กำกับมือรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง “Gladiator” และอีกหลายเรื่องในระดับบล็อกบัสเตอร์ (Alien, Blade Runner, Black Hawk Down) ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อไปทำเป็นภาพยนตร์และตั้งใจจะกำกับด้วยตนเอง Child 44 ขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 27 ประเทศ (ราคาปก 395 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
...........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
坊っちゃん夏目 漱石
ต้นส้ม น้ำตา พายุ
นัทสึเมะ โซเซกิ
กันฐพงศ์ เจียวก๊ก : แปล .... ห้ามอ่านในที่สาธารณะเพราะคุณอาจจะต้องหัวเราะทั้งน้ำตา"นี่คือการผจญภัย ของคุณหนูจอมซ่าส์ คุณย่าโพสิทีฟ สารพัดวีรกรรม เฉิ่มเบ๊อะแต่โคตรจริงใจ ของเอกบุรุษสุดเพี้ยน ผู้ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แล้วคุณจะรักนิยายเรื่องนี้ ...เหมือนฉัน" 'ปราย พันแสง (คำนิยมชมชื่น) จากปกหลัง : นวนิยายญี่ปุ่นชั้นเลิศที่ได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วโลก ผลงานมาสเตอร์พีซของนัทสิเมะ โซเซกิ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยเรื่องราวใสซื่อ โหด มันส์ ฮากระจาย การผจญภัยในโลกมนุษย์บิดๆ เบี้ยวๆ ของคุณหนูขี้วีน จอมเพี้ยน ลูกผู้ดีเก่า ตกกระป๋องและตกกระไดพลอยโจนไปอยู่ในโรงเรียนบ้านนอกคอกนา จึงต้องลุยดะถ้วนหน้า ตั้งแต่อาจารย์ใหญ่ คณะครู นักเรียน ยันนักการภารโรงล้วนแสบซ่าส์ โดยมีคุณย่าโพสิทีฟเป็นแบคอัพ(ราคา 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
..........

ปราย พันแสง พ็อคเก็ตบุ๊ค

คาเฟ่เสน่หา 'ปราย พันแสง
ชีวิตก็เหมือนคาเฟ่ริมทางบางครั้งเนืองแน่น บางครั้งอ้างว้างมีคนผ่านมา มีคนผ่านไปใครจดจำ ใครลืมเลือน ย่อมมิใช่เรื่องใหญ่หากช่วงเวลาที่พบกัน ได้เปิดดวงตา เผยดวงใจหมดจดหมดใจ ...แล้วจากกัน.....คาเฟ่เสน่หา(passion cafe')รวมบทความแห่งเสน่หาที่โลดแล่นในวังวนชีวิต มิใช่ความรักอย่างเดียวที่ทำให้คนเราตาบอด แต่ยังมีความปรารถนาลึกลับซ่อนอยู่ลึกเร้นข้างในใจ ดูเหมือนไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด แต่กลับฉุดกระชากลากถูความเป็นมนุษย์ของเราจนแทบมิอาจต้านทาน(ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
....................................................................................
..........................................................
..........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
..........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.............................................................
.................. Highway Blues
สูงต่ำล้วนผ่านตา
'ปราย พันแสง หลังจาก “คาเฟ่เสน่หา” หนังสือรวมบทความชุดแรกของปี 2551 ได้รับการต้อนรับจากนักอ่านเป็นอย่างดี สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จึงส่งผลงานชุดใหม่ “สูงต่ำล้วนผ่านตา” รวมบทความชุดที่ 2 ของ ’ปราย พันแสง วางแผงตามมาอย่างต่อเนื่อง "สูงต่ำล้วนผ่านตา" รวมบทความว่าด้วยเรื่องราวสิ่งละเล็กๆ พันละน้อยๆ เกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต ซึ่งเคยตีพิมพ์ตามที่ต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการป่ายปีน การขึ้น การลง ในการเดินทางของชีวิตของคนเราที่มีความหมายกว้างไกล (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

.................................................................................

..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

.................................................................

...........

study book ฮารูกิ มูราคามิ ’ปราย พันแสง เขียนอย่างไรให้ขายดีติดเบสท์เซลเลอร์ทั่วโลก ชำแหละคมความคิดและสไตล์การเขียนของ ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนญี่ปุ่นนอกคอก ที่มีผลงานเขียนและงานแปลมากถึง 40 ภาษา กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย แถมติดอันดับขายดีหลายล้านเล่มทั่วโลก ว่ากันว่านี่คือนักเขียนรางวัลโนเบลคนต่อไป (ราคาปก 175บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
...........................
.........................................................................
..........................................................
.........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
............
เรื่องรักใคร่ 'ปราย พันแสง พิมพ์ครั้งที่ 3 .... รวมเรื่องจุ๊กจิ๊กว่าด้วยความรัก หวาน ขม อมหวาน อมเปรี้ยวครบรส ในรูปแบบเรียงความ ภาพยนตร์ ดนตรี เรื่องสั้น บทกวี บทแปล เอสกิโม และอื่นๆ อีกมากมาย “คุณไม่จำเป็นต้องกินคนที่คุณรักนะ จอร์จินา คุณเคยคิดมั้ยว่าการกินเข้าเขาไป มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของคุณ คุณจะคิดว่า เมื่อคุณกินเขาแล้ว คุณกับเขาจะได้อยู่ร่วมกัน ตลอดไปไม่ได้นะ” จินตนาการ,อาหาร,เซ็กซ์ และวิธีปรุงเนื้อคนรัก “ความรักมากมายนั้นมันไม่จีรังยั่งยืนอะไร มันท่วมท้นล้นใจ แล้วจางหายไปได้อย่างมหัศจรรย์ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยฉะนั้น” แล้วเราจะรู้เอง (ราคาปก 175 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
........................
.........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
..........................................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
.........................................................
..........
คนรัก เคยรัก ยังรัก (ดาว)
รวมเรื่องสั้นและบทกวี เคยเป็นหนังสือทำมือชื่อ "ดาว" มาหลายปี ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว เนื้อหาในเล่มว่าด้วยเทหวัตถุโรแมนติกบนท้องฟ้า อันเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ ความสุข ความรัก ความเศร้า และเรื่องราวในชีวิตอีกมากหลาย ทุกเรื่องราวในเล่มล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากดวงดาว เนื่องเพราะดาวบางดวง คำบางคำในชีวิตมีความหมาย บางคำหากหลุดจากปากไป อาจทำให้ดาวทุกดวงบนท้องฟ้าหายวับ
จากปกหลัง "กรุงเทพฯ ยังมีดาวนะ ไม่ว่าดาวประจำเมือง หรือดาวประจำวัน แม้แต่ดาวที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เรายังเห็นกันได้ในเขตเมืองหลวงนี้ ...ตรงไหนก็มีดาว ถ้าเรามีตาสำหรับมองมัน" "สำหรับบางคน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปอย่างว่างเปล่า ชีวิตเป็นอย่างนี้ ความหมายของมันไม่เคยแน่นอน บางครั้งดูเหมือนเราจะเข้าใจในความเป็นไป แต่บางทีก็ไม่ ความร้ายกาจของมันคือ บางทีคิดว่าเข้าใจ แต่ความจริงอาจจะไม่" "แล้วคุณเชื่อไหม เรื่องที่เขาเล่ากัน ว่าคนสองคนจะรักกันไปจนตาย แล้วคุณรู้ไหม หากจะมีใครรักใครไปจนตายจริงๆ มันจะมีแค่คนเดียวเท่านั้น ...ที่รักไปจนตาย" (ราคาปก 125 บาท)

สวนสวรรค์ที่สาปสูญ

Paradise Lost
สวนสวรรค์ที่สาบสูญ : Jimmy Liao
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล :
แปลจากภาษาจีน
'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ
.......................................... หนังสือชุดใหม่ของ "จิมมี่ เลี่ยว"ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในปี 2549 จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์นานมี หนังสือชุดนี้ มีด้วยกันทั้งหมดห้าเล่ม มีตัวละครชุดเดียวกัน แต่ละเล่ม สามารถจบได้ในตอน เรื่องราวทั้งหมดในหนังสือชุดนี้น่ารักและมีเสน่ห์ แบบเศร้าๆ เจ็บๆ แปลกๆ ดี Paradise lost เป็นเรื่องราวมิตรภาพความผูกพัน ของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตจำนวนหนึ่ง มารวมตัวกันอยู่ในดินแดนหนึ่ง ที่พวกเขาทุกคนล้วนเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ละชีวิต จะมีปมด้อย มีบาดแผล มีความพิการ มีความบกพร่อง ซึ่งโลกภายนอกอาจจะปฏิเสธพวกเขา แต่ในดินแดนแห่งนี้ ทุกชีวิตมีอิสระเสรี และมีผู้ที่เข้าใจกันและกัน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ตัวอย่างตัวละครบางตัว ในเรื่องราวชุดนี้ก็ได้แก่
.........................................................................
..........................................................
..................................................
...
หมีกากบาท หมีกากบาทถูกทำร้ายตั้งแต่เล็ก จึงมีรอยแผลอยู่เต็มตัว หากคุณถามเขาว่าเจ็บตรงไหนที่สุด เขาจะชี้ตรงหัวใจ แม้จะได้รับความทุกข์สาหัส แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีแสงสว่าง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ผ้าพันแผล เป็นเด็กชายที่พันผ้าพันแผลทั้งตัว เขามักฝันว่าตัวเองบินได้ และมีผีเสื้อตัวน้อยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
หนูดำ เจ้าของทรมานหนูดำด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่หนูดำก็ยังคงมีจิตใจงดงาม ในบางครั้งเจ้าของอุ้มเขาด้วยความทะนุถนอมอยู่บ้าง แต่หนูดำก็อดที่จะหวั่นกลัวไม่ได้
..................................................................
...................................................................
.........................................................
โทนี่หน้าบาก โทนี่เป็นเด็กชายขี้อายเป็นที่สุด เขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจ มักจะยืนนิ่งอยู่ข้างหิ้งหนังสือในห้องสมุด เขามีแต่เงาตัวเองในกระจกเป็นเพื่อน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ไข่พะโล้ ไม่ว่าจะทำอะไร ไข่พะโล้จะต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนเสมอ ก่อนข้ามถนน หรือกระทั่งในสวนที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง เขาก็ยังอธิษฐาน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
จอห์นจมูกแดง เขามักรู้สึกว่าโลกของเขาว่างเปล่า ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นเพียงความฝัน เขาไม่สามารถอธิบายอะไรให้ใครฟังได้ แต่อย่างน้อย เขาก็รู้สึกสบายใจในโลกอันว่างเปล่าของตัวเอง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
จูลี่ เป็นคนที่ขยันโยนขวดบรรจุข้อความที่ชายหาด ให้ลอยไปตามคลื่นอยู่เสมอ เธอวาดฝันว่าจะพบรักจากการทำเช่นนี้ แต่ขวดเหล่านั้นมักถูกคลื่นซัดกลับ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ลูกโป่ง มักลอยไปลอยมาอยู่คนเดียว วันหนึ่งศีรษะของเขาแตกเป็นรู เจ้าหนูลูกโป่งจึงตกลงมาจากฟ้า แต่ไม่นานก็ถูกจับมัดกลับไปแขวนไว้กับต้นไม้
..................................................................
...................................................................
.........................................................
เหิรหาว เหิรหาวเชอบแกล้งผู้อื่น วันวันเอาแต่หาเรื่องทะเลาะ คนอื่นบอกว่าสีดำ เธอจะบอกว่าขาว เธอเกลียดโลกแห่งความเป็นจริง ชื่นชอบโลกที่โกลาหลวุ่นวาย
..................................................................
...................................................................
.........................................................
โทรโข่ง เอาแต่ป่าวประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เที่ยวกระจายข่าวสารไปทั่ว เขาสวมหมวกกันน็อคจึงไม่ได้ยินเลยว่าเสียงไม่ได้ออกจากโทรโข่ง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
แมรี่และแมวของเธอ แมรี่เลี้ยงแมวตาโตตัวหนึ่ง แต่ละวันแมวของเธอจะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป บางทีรู้สึกหน่าย บางทีรู้สึกเบื่อ บางทีรู้สึกว่าโลกมันน่าขัน
......................................................................
...................................................................
.........................................................
บอลลูน เป็นเด็กฉลาดไอคิวสูง ฉลาดมากเสียจนไม่อยากจะเรียนรู้อะไรทั้งนั้น ทุกคนต่างชื่นชมความฉลาดของเธอ แต่เธอกลับเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคนโง่ ฯลฯ
...................................................................
.........................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
............... Enter Loneliness
Paradise Lost 1 :
เดียวดายในความอ้างว้าง ช้างสีชมพูกับแอ๊ปเปิ้ลสีทอง เป็นตัวละครเปิดเรื่องเข้าสู่สถานที่มหัศจรรย์ ช้างสีชมพูเป็นเพื่อนกับเด็กแว่น ทั้งสองตาบอด มองไม่เห็น แต่ชอบไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหน้าต่าง ชอบนั่งบนโขดหินริมทะเล เพื่อเฝ้ามองพระจันทร์ ทอแสงสว่างไสวขึ้นมาจากผิวน้ำ ทั้งยังชอบทอดกายนอนหงายบนสนามหญ้าโรงเรียน เพื่อรอคอยดวงดาวเปล่งประกายเต็มฟ้า เด็กแว่นเป็นเจ้าของแว่นตาสายรุ้งแสนสวย เสียดายที่เธอมองไม่เห็น ช้างสีชมพูก็มีแว่นสายรุ้งเช่นกัน เสียดายที่มันก็มองไม่เห็น ทั้งสองมิอาจแลเห็นแว่นตาแสนสวยของกันและกัน แต่ตระหนักดีว่า จิตใจของทั้งสองนั้น ต่างงดงามประหนึ่งสายรุ้ง
..................................................
..................................................................
...................................................................
................................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
Snow Falling in Childhood Paradise Lost 2 :
ความปวดร้าวอันงดงาม ปกเล่มนี้ เป็น เจ้าหมีกากบาท ที่กำลังดุ่มเดินเดียวดายอยู่ในป่า หมีกากบาทโดนทำร้ายมาแต่เล็ก ร่างกายยับเยินด้วยบาดแผล หากคุณถามเขาว่าเจ็บปวดตรงไหนที่สุด เขาจะแตะตรงหัวใจ มีใครบ้างไหมที่ไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน เขายืนยันมั่นใจ เจ็บปวดที่สุด ณ จุดใด ต้องทำแผลให้สวยที่สุดตรงจุดนั้น ทุกครั้งที่โดนทำร้าย หมีกากบาทมักซ่อนตัวในสถานที่งดงามที่สุด จินตนาการถึงช่วงเวลาแสนสุข หลังจากหลั่งน้ำตาไม่กี่หยด เขาจะแตะตรงหัวใจแล้วหยุดร้องไห้
.........................................................................
..........................................................
..................................................
.........
..................................................................
...................................................................
..........................................................................................................................
...................................................................
.........................................................
A Mysterious Flower Blooms
Paradise Lost 3:
ดอกไม้แห่งความลับผลิบานแล้ว เป็นดอกไม้แห่งจินตนาการของคนเขียนที่มีครีเอทีฟไอเดียสุดยอด ภาพปกเล่มนี้ ผู้เขียนเลือกตัวละคร“แอนนี่” เป็นตัวเอก ปกสวยจริงๆโดยเฉพาะลวดลายบนต้นไม้ใบไม้ใช้สีเงินสีทองสะท้อนแสงบนพื้นปกสีดำ ลึกลับแบบสไตล์กอธิคนิดๆ วิจิตรตระการตาแบบภารตะหน่อยๆ แปลกตากว่าทุกเล่ม “แอนนี่” เป็นเด็กฉลาดแก่แดดที่สุดในเรื่องราวชุดนี้ แอนนี่รู้จักโลกของผู้ใหญ่เร็วเกินไป เกิดแก่เจ็บตาย เธอเข้าใจทั้งหมด โลกแห่งความจริงของแอนนี่ หมายถึงช่วงเวลาที่เธอได้แสดงละครเท่านั้น
.........................................................................
....................................
..................................................................
...................................................................
..............................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................

The Magic Is Gone Paradise Lost 4 อัศจรรย์พลันสลาย เรื่องเริ่มต้นเมื่อเวทย์มนต์เสื่อมสลายไปหมดสิ้น โลกเราไม่มีแล้วความมหัศจรรย์ ไม่มีเรื่องเหลือเชื่ออะไรแล้วทั้งนั้น ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าทำไมคุณเลี่ยวไม่เอาตอนนี้ไว้เป็นเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดนี้... เพราะมันน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่พอไปเห็นเล่มสุดท้ายจริงๆ จึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ คือคุณเลี่ยวเขาคงไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้ายเหมือนเราไง เขาเลยวางเรื่องนี้ไว้กลางๆ :) ภาพปกเล่มนี้เธอชื่อ “ราตรี” คู่กรณีของ“ทิวา”เรื่องราวของกลางคืนและกลางวันที่ต่างกันอย่างเหลือเกิน โลกของราตรีเต็มไปด้วยสีสัน โลกของทิวากลับมีเพียงขาวดำ

..................................................
..................................................................
...................................................................
...................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
The Lost Miracle
Paradise Lost 5 :
เมื่อปาฏิหาริย์เลือนหาย เด็กน้อยกับสวิงตาข่ายบนปกหนังสือคนนี้ชื่อ “ออทัม” เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ ที่พยายามตามจับความฝันของเธอเอง ออทัมเติบโตมากับคุณปู่ พออายุได้หกขวบ คุณปู่มอบสวิงจับผีเสื้อที่คุณปู่ทำเองให้เธอเป็นของขวัญ วันต่อมาคุณปู่เสียชีวิตกะทันหัน คืนนั้นออทัมฝันเห็นคุณปู่ของเธอส่งยิ้มให้ พลางพูดว่า “จับชีวิตที่สวยงามไว้ให้ดี!”เธอตื่นขึ้นมาทั้งน้ำตา กอดของขวัญจากคุณปู่ไว้แน่น แล้วสาบานว่า เธอจะใช้เวลาทั้งชีวิตไล่จับความสวยงามที่ไม่จีรังเอาไว้ให้ได้
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
The Blue Stone :
Jimmy Liao ชุตินันท์ เอกอุกฤษฏ์กุล : แปลจากภาษาจีน 'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ เป็นหนังสืออีกเล่มของ จิมมี่ เลี่ยว ที่ออกวางจำหน่ายพร้อมกับหนังสือชุด Paradise Lost "โลกเหงาของหินสีฟ้า" เป็นเรื่องราวของหินสีฟ้าก้อนหนึ่ง ที่แตกออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งถูกทิ้งไว้ในป่าลึก อีกซีกหนึ่งถูกพาเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ แล้วก็ถูกแปรรูป ถูกทำให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้มันเหงาแล้วก็คิดถึงอีกครึ่งที่เหลืออยู่ตลอดเวลา จะว่าไปแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็คือ The Missing Piece ของ เชล ซิลเวอร์สไตน์ที่เอามาเขียนใหม่แบบคนตะวันออกดีๆ นี่เอง อาจจะเป็นเพราะจิตวิญญาณแบบเอเชีย ที่เรียกร้องสิ่งต่างๆ จากชีวิตน้อยกว่าคนตะวันตกกระมัง อ่านแล้วจึงรู้สึกว่ามันเป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เจียมเนื้อเจียมตัวดี ถ้าแอบรักใครชอบใคร หนังสือเล่มนี้เหมาะมากที่จะเป็นหนังสือบอกความในใจว่าเรารัก โดยมีหมายเหตุที่มองไม่เห็นว่า รักและคิดถึงนะ แต่ไม่ได้เรียกร้องต้องการอะไรจากเธอเลยนะ เป็นหนังสือที่น่ารักมากๆ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
Paradise Lost
สวนสวรรค์ที่สาบสูญ
: Jimmy Liao
.........................................................
The Blue Stone
โลกเหงาของหินสีฟ้า
: Jimmy Liao
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล
: แปลจากภาษาจีน 'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ
..................................................................
...................................................................
จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมี
สามารถสั่งซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์มได้เลยครับ
โทร.0-2664-4256-7,08-5664-9612
เป็นบริการพิเศษ
สำหรับแฟนหนังสือ'ปราย พันแสง ครับ-ค่าส่งฟรี

28

28

27

27

26

26

25

25

24

24

23

23

22

22

21

21

20

20

19

19

18

18

17

18

16

16

15

15

14

14

13

13

12

12

11

11

X8

8

X7

7

X6

6

X5

5

X4

4

X3

3

X2

1

ติดต่อสังซื้อ

● ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ คุณเจี๊ยบ โทร. 08-5664-9612 ● พ็อคเก็ตบุ๊คสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม วางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature เอกมัย (Vanilla House), ร้านแพร่พิทยา, ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หาไม่เจอกรุณาสอบถามพนักงาน ● ติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ สำนักงานฟรีฟอร์ม บริษัท ลมดี จำกัดเลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259 (เวลาทำการ 09.00 - 17.00 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์) และ 08-5664-9612อีเมล:freeformthailand@hotmail.com: ... * คลิกกลับหน้าแรก *คลิกกลับนิตยสารฟรีฟอร์ม *คลิกกลับฟรีฟอร์มพรินติ้งเซอร์วิส *คลิกกลับบล็อก'ปราย พันแสง