พูดกับบ้าน

'รงค์ วงษ์สวรรค์......... พูดกับบ้าน ..
บันทึกแห่งชีวิตนักเขียน ในความถวิลถึงบ้านและญาติน้ำหมึก “ผมซื้ออิฐและซีเมนท์ด้วยงานเขียนคอลัมน์วันละ 3 ถึง 4 ชิ้น ผมไม่เรียกตัวเองว่าเป็นคนขยันเพราะผมบูชาความขี้เกียจ แต่ผมกำลังปลูกบ้าน ...” ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แล้วที่'รงค์ตั้งใจจะเป็นนักเขียนและต้องมีชีวิตที่ดี "ทำไมนักเขียนจะต้องนอนบ้านเช่าซอมมอซ่อ ทำไมนักเขียนจะต้องไม่มีอันจะกิน เราจะต้องปรับปรุงฐานะของเราให้ได้ ต้องมีบ้านเมื่ออายุยี่สิบกว่า มีรถยนต์เมื่อสามสิบกว่า เราต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี มีอาหารที่บำรุงสุขภาพ มีเหล้าดีๆ กิน และก็ทำงานให้เป็นระเบียบ” ด้วยความเชื่อว่า “ผู้ชายถึงอายุ 30 ถ้ายังไม่มีบ้านก็คงยากจะมีบ้าน”“มึงจะเขียนอะไรก็ได้งั้นหรือ”ประเสริฐ พิจารณ์โสภณถามอย่างหงุดหงิด กังวานท้ายประโยคทักท้วงและตำหนิ ผมยักไหล่ก่อนตอบว่า“วันก่อนกูเขียนเกี่ยวกับการเลือกซื้อลิพสติกได้เงินมาซื้อแม่บันได” “ฝ้าเพดานก็ยังไม่มีนี่หว่า พรุ่งนี้มึงจะเขียนอะไร" [วางจำหน่ายแล้ว]

บนถนนของความเป็นหนุ่ม

'รงค์ วงษ์สวรรค์ บนถนนของความเป็นหนุ่ม ...
ซูเปอร์ไฮเวย์ของฮิปปี้ เพลย์บอย สารคดีละเลียดโลกกว้างในวัยหนุ่มกำดัด สุดยอดสารคดีขบวนแรกในวัยหนุ่มของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ถ่ายทอดประสบการณ์ท่องโลกกว้างอันน่าตื่นตะลึงในดินแดนญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ในฐานะนักข่าวหนังสือพิมพ์ “สยามรัฐ” และตัวแทนนิตยสาร “ดาราไทย” โดยปิดท้ายเล่มด้วยเรื่องสั้นสะท้อนชีวิตวัยหนุ่มของผู้เขียน “บางซ่อน-กรุงเทพฯ” “บนถนนของความเป็นหนุ่ม” ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2504 ในแบบฉบับปกแข็งหนาร่วม 400 หน้ากระดาษ ด้วยความเป็นหนุ่มในวัยกำดัด ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มีความสดในการคิดและเขียนถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่สายตาของเขาพบเจออย่างละเอียด รวดเร็วและเฉียบคม กล่าวได้ว่า “บนถนนของความเป็นหนุ่ม”เป็นสารคดีที่มีชีวิตชีวามากที่สุดที่ช่วยพิสูจน์และยืนยันคำพูดติดปากของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่ว่า “การเดินทางเป็นสายตาของนักเขียน” [วางจำหน่ายแล้ว]

ไฟอาย

ไฟอาย 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ..
จากคอลัมน์ “รำพึงรำพัน โดยลำพู” งานเขียนในยุคแรกเริ่มของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เขียนลงใน “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” เป็นการคิดคำนึงถึงสังคมในแง่มุมต่างๆ อย่างน่าสนใจ ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ พูดถึงคนในระดับล่างไม่ว่าจะเป็นคนกวาดถนน คนโซ โสเภณี ฯลฯ และด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาอย่างโชกโชน คลุกคลีกับคนทุกระดับ ทุกชนชั้น ทำให้ “รำพึงรำพัน” เป็นสุดยอดผลงานยุคเริ่มต้นของนักเขียนไทยผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ทั้งในแง่ของการใช้ภาษาและมุมมองชีวิตที่สะท้อนผ่านตัวละครต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์“ไฟอาย”เป็นงานขบวน 3 จากคอลัมน์รำพึงรำพันโดยลำพู สืบต่อจากเล่ม “หนาวผู้หญิง” และ “เถ้าอารมณ์” ปรากฏตัวให้ผู้อ่านยลโฉมครั้งแรกในปีเดียวกัน คือ พ.ศ. 2503 หลังจากเปิดตัวผลงาน“ไฟอาย” ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น ในปีถัดมา'รงค์ วงษ์สวรรค์ จึงผลงานนวนิยาย“สนิมสร้อย” ตามออกมาติดๆ [วางจำหน่ายแล้ว]

'รงค์ ชุด เหยี่ยวฮิปปี้

แสงแดดเป็นไข้ ไฉไลเป็นบ้า ไม่นานเกินรอ
รวมผลงานชุดเหยี่ยวฮิปปี้ 3 เล่ม
ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์
....
แสงแดดเป็นไข้ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ .... ....................
ผลงานที่ไม่เคยรวมเล่มมาก่อนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ดำเนินการสานต่อให้เป็นรูปเป็นร่าง ว่าด้วยเรื่องราว "หม่อมราชวงศ์นัดพบนักเลง" เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ยุคทำหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ต้องมีนัดพบกับ "ยาม" ของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย โดยมี'รงค์ วงษ์สวรรค์ อยู่ในเหตุการณ์แสนระทึก เพราะต้องทำหน้าที่เป็นลูกมือคอยจดบันทึกการสัมภาษณ์ครั้งนั้นด้วยความอกสั่นขวัญแขวน มีให้อ่านทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากฝีมือการแปลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช[วางจำหน่ายแล้ว]
......................................................
........................ ............. ...................................... ........
ไฉไลเป็นบ้า 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ... เรื่องราวเิกิดขึ้นเมื่อครั้งสมัย'รงค์ วงษ์สวรรค์ สวมวิญญาณนักข่าวหนุ่มไฟแรงสุดเท่ ตะลุยโรงถ่ายหนังจีนชอว์ บราเดอร์ที่กำลังฮอตสุดๆ ในเวลานั้น เจาะลึกสัมภาษณ์ รัน รัน ชอว์ เจ้าของชอว์บราเดอร์, ศึกษาวิธีตั้งชื่อหนังสือจีนสุดฮิตสมัยนั้น, การเซ็นเซอร์, ความลับในการทำซับไตเติล ตั้งแต่ยุคก่อตั้งชอว์บราเดอร์ จนมาถึงจอห์น วู ผู้ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นขวัญใจฮอลลีวู้ดและนักดูหนังรุ่นใหม่ [วางจำหน่ายแล้ว]
......................................................................................... ........................................................................................ ........................................................................................ ..... ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ ....................
ไม่นานเกินรอ
'รงค์ วงษ์สวรรค์
....
เจ้าของคำพูดสุดคลาสสิค"ไม่นานเกินรอ"ที่ใครๆ ก็เอามาใช้พูดกันเขียนกันทุกวันนี้ จะมีกี่คนที่รู้ว่าเป็นสำนวนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ "ไม่นานเกินรอ"เป็นบทบันทึกความในใจจากซอกหลืบลึกที่สุดของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนหนุ่มหัวก้าวหน้าในยุคนั้นที่กำลังเพียรพยายามก่อร่างสร้างสไตล์งานเขียนที่เป็นตำนาน แต่กลับโดนถล่มเละเทะจากนักวิจารณ์ผู้โหดเหี้ยมที่นั่งกระดิกเท้าคอยพิพากษาเขาอยู่บนยอดหอคอยสูงของยุคนั้นอย่างดุเดือด จนกระทั่ง'รงค์ ถึงกับสบถเอาไว้ในตอนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ว่า "ไม่นานเกินรอ! ไม่นานเกินรอ! ผมอยากเปิดเผยความในใจกับเขาว่าผมไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากไอ้โง่คนหนึ่งเท่านั้น! โง่บรรลัย! ให้ห่ากิน!" [วางจำหน่ายแล้ว]
..................................................
..........................................................

'รงค์ คืนรัก

คืนรัก : 'รงค์ วงษ์สวรรค์
พิมพ์ครั้งที่ 5 (วางจำหน่ายแล้ว)
เรื่องราวของบาปหวาน ตราตรึง กาลครั้งหนึ่งยังมี"รัก"เริ่มต้นจาก"ใคร่"หนังสือที่ผู้หญิงหลายคนบอกว่า"เกลียดที่สุด"ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ แต่สำหรับ'ปราย พันแสง มันคือหนังสือที่ "ย้อนศร เซ็กซี่ มีสไตล์ เชิงชั้นร้ายกาจ เท่เหลือกินเหลือใช้ น่าเอาไปทำหนัง"นี่คือผลงานของ'รงค์อีกเล่มหนึ่งที่เป็นหนังสืออยู่ในดวงใจ'ปราย พันแสง ตลอดกาลนับตั้งแต่ได้อ่านครั้งแรก จะมีอะไรคลาสสิคไปกว่าเหตุการณ์ในคืนเดียว ที่ผู้ชายคนหนึ่ง อยากได้ผู้หญิงคนหนึ่ง สารพัดวิธีการที่ผู้ชายคนนั้นเสกสรรหามาเพื่อหล่อน จึงดำเนินไปบนความใคร่ที่ไร้สิ่งเจือปนแม้แต่น้อย ใคร่จริงๆ ใคร่ล้วนๆ แต่งามละเมียดจนคุณอาจไม่อยากเชื่อ ว่าเรื่องพรรค์นี้มันงามถึงเพียงนี้ได้เชียวหรือ สำหรับคนที่ชอบพูดคำว่า"รัก" บางทีใครคนนั้นอาจจะไม่มีวันได้รู้เลยก็ได้ว่า บางครั้งความรักที่แท้จริงนั้น ...มันก็มาจาก"ใคร่" และดำรงอยู่ในหัวใจอย่างลึกซึ้งได้เช่นกัน นี่คือสุดยอด"เชิงและ"ชั้น"ในสไตล์การเขียนของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เราต้องศึกษา คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือและตัวอย่างบทแรก
คลิกอ่านรายละเอียด

วานปีศาจตอบ

'รงค์ วงษ์สวรรค์ วานปีศาจตอบ
พิมพ์ครั้งที่ 2
คัดสรรบทสัมภาษณ์ “คมกริบ” จำนวน 12 ชิ้น จากบทสัมภาษณ์จำนวนหลายร้อยชิ้นตลอดชีวิตของนักเขียนใหญ่ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “พญาอินทรี” แห่งวงการวรรณกรรมไทย รวมถึงการสัมภาษณ์ยียวนกวนยิ้ม’รงค์ วงษ์สวรรค์ ในอดีตของขรรค์ชัย บุนปาน บิ๊กบอสแห่งอาณาจักรมติชนปัจจุบันนี้ ซึ่งเคยเป็นนักเขียนหนุ่มรุ่นน้องย่าน “เฟื่องนคร” สมัยนั้น ปัจจุบันบทสัมภาษณ์เจ๋งๆ แบบ 12 ชิ้นนี้ ไม่มีให้หาอ่านที่ไหนแล้ว ร้อยปีเมืองไทยจึงจะมีนักเขียนแบบนี้ได้สักคนหนึ่ง ร้อยปี จะมีนักเขียนไทยที่ให้สัมภาษณ์ได้ “คมกริบ” แบบนี้สักคนหนึ่ง--หรืออาจจะไม่มีอีกเลย! นอกจากนี้ ยังมีภาคพิเศษสุดๆ คือการสัมภาษณ์ ท่านปรีดี พยมยงค์ ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ขณะลี้ภัยอยู่ ณ บ้านชานกรุงปารีส เมื่อปี 2521 ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นบทสนทนาสุดคลาสสิคของคนสองคน ที่ก้าวเดินบนถนนต่างสาย ยิ่งใหญ่ในเส้นทางของตัวเอง ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่ง ที่เราทุกคนต้องอ่าน ต้องศึกษา ไม่ว่าคุณจะเคยอ่านงานเขียนของ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มาก่อนหรือไม่ก็ตาม
(วางจำหน่ายแล้ว)

มกราคม อำลา

.................
ข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ตลอดเวลาเจ้า พี่อ้อม 081-7164007 e-mail : tuneinpeople@gmail.com เว็บไซต์ http://www.tunegerden.com/

หน้าซองจดหมายอาปุ๊ + บทรำพึง ถึงคนที่ไปจิบไวน์บนฟ้า

บทรำพึง...
คิดถึงคนบางคน
ที่กำลังจิบไวน์บนฟ้า.. ภาพจาก tuneingarden.com
Last update: July,04-2009 ......................
ใครเขียนหนังสือมาบ้างจะรู้ เวลาไม่ได้เขียนอะไรนานๆ มันจะฝืด อาปุ๊-'รงค์ วงษ์สวรรค์ เคยพูดกับฉันว่า "ตอนอาหนุ่มๆ นะ อาเขียนชิบหาย คิดอะไรหน่อย เห็นอะไรหน่อย อยากเขียน แล้วก็เขียนออกมาได้มหาศาล บางทีกลับไปอ่าน ยังรู้สึกว่ามันต้องแก้ตรงนั้นแก้ตรงนี้ คือสมัยหนุ่มจะแรงดี แต่งานเขียนอาจจะไม่ค่อยดีเหมือนตอนแก่"...ฉันก็ว่า "อุ๊ย อา ยิ่งดีสิคะ ยิ่งแก่ยิ่งเขียนกระจายไปเลยสิ ดีจะตาย"แต่อาปุ๊ตอนนั้นนั่งรถเข็นมาร่วมงานหนังสือมติชนที่เชียงใหม่ตอบฉันว่า"ตอนแก่นี่ ความคิดดีๆ มันเยอะก็จริง แต่ไม่ค่อยมีแรงเขียนว่ะ"...คลิกอ่านต่อ.............. ......... *... ...คนอ่าน .........47 ความคิดเห็น

งานอาปุ๊อีกชุด

น้ำผึ้งพระจันทร์หยดแรก
'รงค์ วงษ์สวรรค์
คัดสรรผลงาน'รง วงษ์สวรรค์ ที่ติดหนึบอยู่ในดวงใจ 'ปราย พันแสง ผลงานมาสเตอร์พีซแห่งระลึกถึง รวมผลงานเขียนแห่งแรงบันดาลใจของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่มีอิทธิพลต่องานเขียนของ'ปราย พันแสง ทั้งงานเขียนที่ดีที่สุด รักที่สุด และแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่สุดของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ในสายตาของคนเขียนหนังสือรุ่นหลัง ผู้ยังมี " ' " อยู่นำหน้าชื่อตามนักเขียนในดวงใจและยังบูชาผลงานของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ไม่เสื่อมคลาย ทุกเรื่องในเล่มนี้คัดสรรค์มาเพื่อนักอ่านหน้าใหม่ ที่ไม่เคยได้สัมผัสผลงานชิ้นเยี่ยมจริงๆ ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ มาก่อน รวมทั้งสำหรับนักอ่านหน้าเก่า ที่อยากจะอ่านใหม่อีกครั้งในวันนี้ [มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้]
......................................................................................... ..................................................................
...................... ........................................................................................ ........................................................................................ .......................................................................................
.
SEX : เซ็กซ์กอฮอลิก
'รงค์ วงษ์สวรรค์ .... รวมผลงาน sex life ทัศนคติและรสนิยมเกี่ยวกับเซ็กซ์ของ'รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่เจ้าตัวบรรจงคัดสรรค์เตรียมใส่แฟ้มไว้สำหรับการรวมเล่ม แต่บังเอิญมีธุระต้องไปจิบไวน์บนฟ้าเสียก่อนที่งานจะสำเร็จเป็นเล่ม แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนจะได้อ่านจากเล่มนี้ คือสิ่งที่'รงค์ วงษ์สวรรค์ ตั้งใจทิ้งเอาไว้ให้เราคิดถึงเขาโดยเฉพาะ [มีกำหนดวางจำหน่ายเร็วๆ นี้]
..........................................................................................
.........................................................................................
.....................................................................................
.....................................................................................................
..........................................................................................
...............................................................................................................................................

สินในหมึก




สินในหมึก ยาขอบ
เมื่อความรักสอนให้เขียนหนังสือ เคล็ดวิชาการประพันธ์อันเลื่องลือก็หลั่งไหล นี่คือสุดยอดหนังสืออมตะ ยิ่งผ่านกาลเวลา ยิ่งขลังเข้ม และไม่เคยล้าสมัย “สินในหมึก”เป็นหนังสือรวมยุทธวิธีเขียนหนังสือให้ได้อย่างใจ เขียนให้คนติด เขียนให้ขายดี มีคนชื่นชอบโดยทั่วไป ยาขอบไม่เน้นเรื่องพรสวรรค์ คนเราสามารถฝึกปรือให้เก่งขึ้นมาได้ ถ้ามี “ความปลอดโปร่งแห่งอารมณ์” ฯลฯ หนังสือเล่มนี้คัดคำแนะนำเฉพาะหัวกะทิ เป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มาจากภายใน มาจากความเป็นมนุษย์ เป็นจริง พิสูจน์ได้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกเขียนหนังสือทุกรูปแบบ ไม่ว่าเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น บทความ สารคดี เขียนไดอารี่ออนไลน์หรือแม้แต่เขียนบล็อก! (ราคาปก 225 บาท) คลิกอ่านรายละเอียดทั้งหมด


"ความรู้สึกที่เข้าไปจับแน่นในดวงใจนี้ ก็คือ ปีเท่าปีเท่าที่ได้คลุกคลีกับสำนักพิมพ์รายวันมาหลายแห่ง
ข้าพเจ้าก็ได้พบเห็นกระดาษชนิดหนึ่งมามากมายเต็มที เป็นกระดาษที่กองบรรณาธิการ ได้รับมาเก็บไว้
พอเป็นตั้งสูงๆ ก่อความเกะกะให้มากเข้าทุกทีแล้วก็เอาทิ้งตะกร้าเสียทีหนึ่ง นี่คือกระดาษที่บรรจุนวนิยายเรื่องสั้นบ้างไม่สั้นบ้าง ซึ่งผ่านการอ่านคร่าวๆ แล้วว่าคุณค่ายังไม่เข้าถึงมาตรฐาน ที่สำนักพิมพ์นั้นปรารถนา"
...
"การปฏิบัติต่อกระดาษเหล่านี้เช่นนี้เป็นเรื่องจำเป็นจำใจที่หนังสือพิมพ์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะถ้าไม่ทำดังนั้นภายในระยะสองสามปีสำนักพิมพ์ก็จะต้องหาห้องใหม่ ซึ่งจะต้องใหญ่กว่าจะบรรจุกองบรรณาธิการทั้งกองไว้เป็นห้องเก็บต้นฉบับที่ไม่อาจพิมพ์ลงไปในหน้าหนังสือพิมพ์ได้เหล่านี้"
.........
"จากกระดาษที่ถูกโยนผลุงลงไปในตะกร้านี้เองก็ทำให้หลับตาเห็นบุคคลจำพวกหนึ่งซึ่งมีแทรกแซงอยู่ทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะเป็นเหนือหรือใต้ของเมืองไทย ไม่ว่าจะหนาวจัดหรือร้อนจัดเกินไป ไม่ว่าจะดึกดื่นค่อนคืน และจะเป็นจังหวัดที่มีไฟฟ้าอำนวยความสว่างให้หรือไม่ก็ตาม แต่บุคคลเหล่านี้ก็ยังหลังขดหลังแข็งฝักใฝ่อยู่กับสิ่งที่ตัวรัก โดยมิได้คำนึงความร้อนหนาวเกินไป หรือความขมุกขมัวประการใดเลย"
......
"บุคคลประเภทนี้นั่งหลังขดหลังแข็งจดจ่ออยู่กับสิ่งเดียว คือการประดิษฐ์คิดร้อยกรองตัวอักษรให้ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว แล้วก็หวังไปฝันไปว่าเรื่องราวที่ตัวประดิษฐ์คิดแต่งขึ้นนั้น คงจะสบอัธยาศัยของผู้ที่ได้อ่าน ซึ่งโดยลักษณะการนั้นเขาก็ย่อมจะได้รับความชื่นใจ มาเป็นเครื่องบำรุงหัวใจของตนเอง"
....
"ข้าพเจ้าหลับตาเห็นความหมั่นหมาย ของเจ้าของกระดาษที่ถูกทิ้งตะกร้าว่าเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นทุกคราวที่เห็นกองกระดาษเหล่านี้ถูกกวาดลงไปสู่ตะกร้า จึงสุดแสนที่จะเจ็บปวดในใจแทน"
...
"ด้วยประการฉะนี้ ข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนเลว ในเรื่องขี้เกียจเขียนจดหมายติดต่อกับใครๆ ในทางกิจการอย่างที่สุดก็จำต้องทรมานความรู้สึกของตัวเองนั่งลงตอบจดหมายของผู้ที่รักและริเริ่มการประพันธ์ ซึ่งถามไถ่ถึงการแต่งหนังสืออยู่เนืองๆ"
....
"จนกล่าวได้ว่าบัดนี้ข้าพเจ้าได้ตอบจดหมายของมิตรที่ไม่รู้จักหน้าจำพวกนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 500 ฉบับ
การนั่งหลังขดหลังแข็งเพื่อทำสิ่งที่ส่งไปให้เขาโยนลงตะกร้า ก็เป็นไม้เรียวของความอำมหิตที่โลกได้ให้แก่ผู้รักและริเป็นนักประพันธ์อยู่แล้ว ข้าพเจ้าไม่อาจระงับความเห็นอกเห็นใจบุคคลจำพวกนี้จึงต้องตอบจดหมายไปปลุกปลอบและบางทีก็แนะนำไปตามทีตามเกิด"
...
"ก็จดหมายที่เขียนเพื่อการปลุกปลอบมิให้คนท้อแท้เสียกำลังใจนั้นจะเขียนกันบรรทัดสองบรรทัดได้เมื่อไรเล่าและทั้งที่ต้องเขียนยาวอยู่แล้วแต่จะให้เขียนยาวจนจุใจความ ที่อยากแนะนำเป็นแต่ละรายบุคคลนั้นย่อมเหลือวิสัย"
...
"จึงมีทางเลือกเดียวก็แต่เขียนถึงสิ่งที่ตนสำคัญว่า จะมีประโยชน์ออกไปให้แพร่หลายเสียในคราวเดียว
คือผ่านการเป็นตัวพิมพ์ออกมา “สินในหมึก” จึงเกิดขึ้นดังนี้"
......
"การจดปากกาลงไปในสิ่งที่ตนเองพรั่นพรึงอย่างยิ่ง แต่ก็ยังฝืนทำมันออกมา ก็เพราะความเห็นอกเห็นใจ
ในเพื่อนผู้มารักศิลปะอันเดียวกันดังนี้ และชะรอยเป็นกุศลที่วิชาชีพทางประพันธ์ จะคลี่คลายขยายตัวออกไปในแผ่นดินไทยเบื้องหน้าอย่างหนึ่ง “สินในหมึก”ที่เขียนลงในประชามิตรด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึงนั้น
จวบจนบัดนี้ก็ยังมิได้ยินเสียงถุยน้ำลายใส่ข้าพเจ้าเลย สาธุ"





สินในหมึก
ภาค 1



1.

พนิดาของฉัน
คุณรู้ไหม ว่าการน้อยใจแล้วตีโพยตีพายของผู้หญิงน่ะ ฉันคุ้นเสียจนชอบแอบหัวเราะ แต่เจ้าสิ่งนี้เมื่อมาปรากฏที่คุณ ฉันมิได้หัวเราะเลย ได้สงบงันไปเพราะความตื่นเต้นและเต็มตื้นด้วยความปีติอย่างหาที่เปรียบมิได้ทีเดียว ความน้อยใจของพนิดาเป็น “บทเรียนด้วยของจริง” อันมีค่าสูงแก่ความรู้สึกของมนุษย์ผู้ชอบล้อโลกเป็นอันมาก
...
ทั้งการตีโพยตีพายนั้นเล่า ก็ชั่งเป็นการตีที่ถูกจุดอ่อนของฉันอย่างจังที่สุด เป็นการตีถูกชนิดที่ฉันไม่เคยถูกใครตีเช่นนั้นมาก่อนเลย

อภินิหารของถ้อยคำนี่ชั่งมหัศจรรย์จริงหนอ สามารถทำให้หัวใจคนฉ่ำชื่นทั้งๆ กำลังถูกเชือดชำแหละอยู่ที่ตรงหัวใจนั้นเองถูกอย่างที่คุณคิดแล้ว แม่ดวงจันทร์ในน้ำของฉัน ที่ว่าความเป็นผัวจริงจังของผู้ชายอย่างฉันก็คือความตายเข้าไปค่อนชีวิตของกุลสตรี

ฉันรู้จักตัวฉันเองดีนัก และนี่ก็คือการตีถูกจังที่สุด จึงขอสนับสนุนการตีโพยตีพายประโยคนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจทีเดียว

แต่ถึงจะสนับสนุนในเชิงรับผิด
ฉันก็ไม่ขออภัยในความผิดอันเป็นเหตุแห่งการตีโพยตีพายของคุณ

ฉันจะทำอย่างไรให้กับการตกลงใจที่พอใจเสียแล้ว ฉันจะล้อโลกให้ถึงที่สุด
เพื่อจะดูสิว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร
และถ้าเสียท่าก็จะโยนความผิดพลาดในชั่วชีวิตนี้ให้แก่คำสาปของพรหม
พนิดาจึงมีสิทธิ์ที่จะตีโพยตีพายได้ต่อไปตลอดกาลที่คุณยังมีความอดทน

ส่วนความน้อยเนื้อต่ำใจนั้น ยอดรักของฉันย่อมรู้ว่าฉันรับผิดชอบง่ายก็ต่อเมื่อฉันแน่ใจว่าตัวเองทำผิด เพราะฉะนั้นในกรณีซึ่งก่อให้พนิดาเกิดความน้อยใจนี้ มหาโจรใจอ่อนของคุณจะไม่ยอมรับผิดเป็นอันขาด

จริงอยู่แม้ว่าจะเคยฟังปรารภมาหลายครั้ง และทั้งในระยะนี้ก็ยังจะต้องรับว่ายิ่งได้ยินถี่เข้า แต่ฉันก็ไม่มีโอกาสได้รู้ถึงความประสงค์แท้จริงเบื้องหลังการพูดถึงบ่อยๆ ของคุณนั้นเลย

ขอให้พิจารณาอย่างยุติธรรมเถิด ฉันเดินมาแต่หนไหน หรือมีแว่นทิพย์อันใดอยู่ในมือเล่าจึงจะได้ลอดรู้เข้าไปถึงส่วนลึกแห่งห้องหัวใจของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเคราะห์กรรมดลเธอมิให้หยุดรักชายชั่วคนหนึ่งได้ แต่เธอก็สุดแสนจะเปิดหน้าออกมาสู้กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางหยามหยันทั้งหลายได้

ดังนั้นความน้อยใจจึงบันดาลให้เธอระบายถ้อยคำที่มีชีวิตออกมาว่า “เลิกบ้าที่ไปนั่งหวังช่วยโจรใจเพชรให้เป็นคนดีเสียที ฉันจึงเกิดต้องการแรงกล้าที่จะแต่งงานกับการแต่งหนังสือ เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวในโลกแท้ๆ ที่คุณมีให้ฉันระลึกถึงได้ โดยไม่ต้องนึกแช่งด่าตัวเองควบไปด้วย” อนิจจา

ฉันไม่รู้เลยว่าระยะนี้ที่พนิดาเซ้าซี้ถึงเรื่องนี้ยิ่งขึ้น ก็ด้วยได้กำหนดความปรารถนาไว้เช่นนี้เองนี่ฉันทำบาปใหญ่ไว้กับดวงใจเยาวมิตรที่ดีที่สุดในชีวิตและมีวิธีเดียวที่จะลดบาปอันนี้ได้ ก็ด้วยต้องพูดในเรื่องที่ฉันกระดากใจไม่อยากพูดฉะนั้นหรือ?

ฉันเกลียดทุกคนที่ถามฉันถึงหลักเกณฑ์วิธีแต่งหนังสือ แม้ว่าผู้ถามนั้นๆ จะน่าสนับสนุนเพราะเหตุมีใจมาจดจ่อในงานที่ฉันรักก็ตาม

ฉันเกลียดเพราะข้อถามชนิดนี้เท่ากับต้อนให้ฉันออกไปยืนในที่ที่จะได้รับความอับอาย และได้ยินแต่เสียงถุยน้ำลาย อาชีพของฉันคือการเขียนหนังสือ ชีวิตฉันแขวนอยู่กับการแต่งหนังสือ แต่ถ้าจะพูดถึงวิธีทำก็มีความอัดอั้นตันใจ

ไม่ใช่ไม่มีวิธีทำ
จะบอกว่าไม่มีนั้นไม่ได้

ขืนพูดเช่นนั้นตัวหนังสือที่ฉันเขียนไว้ก็จะลุกขึ้นมาเต้นปรักปรำว่าฉันเป็นคนโกหกกลางเมือง

วิธีและหลักเกณฑ์น่ะมี แต่ทีนี้กลัวว่าถ้าเทียบเคียงกับหลักเกณฑ์ของท่านผู้รู้ หลักซึ่งได้จากความไม่รู้หลักของฉันก็จะกลายเป็นฟองสบู่ไป

อันที่จริงหลักเกณฑ์ในการประพันธ์นั้นเห็นสาธยายกันไว้หลายต่อหลายรายแล้ว แต่ท่านนั้นๆ เป็นผู้รู้ทรงคุณวุฒิอันดีฝ่ายการหนังสือ ท่านจึงสามารถแยกแยะชั้นเชิงของการประพันธ์โดยลำดับหลักเกณฑ์ว่า
อะไรก่อนอะไรหลังได้แม่นยำตามวิวัฒนาการแห่งวิชาอักษรศาสตร์

ส่วนฉันนั้นนอกเสียจากจะเรียกตัวเองว่าผู้รู้ในเชิงอักษรศาสตร์ไม่ได้แล้ว เพื่อความบริสุทธิ์แก่ใจแห่งตนก็ซ้ำจะต้องเน้นให้แน่ตระหนักลงไปอีกว่า ตนยังต่ำต้อยในวิชาการอันนี้อยู่จริงๆ

แต่ถ้าเผอิญจะมีสักสิ่งหนึ่งที่พอจะหนุนใจตนเองให้ถึงกับกล้าเขยิบขึ้นมาพูดเรื่องขีดๆ เขียน ๆ โดยทำนองแนะนำแก่ผู้ริเริ่มบ้างแล้ว เจ้าสิ่งนั้นก็ต้องเป็นความที่ตนเองได้ทำฝากไว้เป็นอย่างแปลกประหลาดอยู่บ้าง
สำหรับวงแคบแห่งการประพันธ์นวนิยายของเมืองไทย นับแต่อดีตมาจนปัจจุบัน

แต่ถึงแม้จะมีงานทำไว้แล้วสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ฉันก็ยังอดพรั่นพรึงเสียมิได้ เมื่อจะต้องชี้แจงถึงหลักเกณฑ์ที่กุศลได้บันดาลให้ตัวได้พบเห็นเอง

แต่ถึงจะหวาดหวั่นพรั่นพรึงเพียงไร บัดนี้ก็เข้าที่คับขัน จำต้องกัดฟันทำใจกล้าพูดถึงสิ่งที่ไม่เคยเต็มใจจะบอกเล่าแก่ใครออกไป เพราะยอดหญิงของฉันตัดรอนฉันแล้ว เขาจะแต่งงานกับการแต่งหนังสือ ฉันก็มีทางแต่จะพยายามทำหน้าชื่นอวยชัยให้พรเขา แล้วก็แอบเอาจูบลอบเหน็บหลังการแต่งหนังสือหรือขอเรียกว่ายอดรักคนใหม่ของเขาไป

โอ้ ผู้หญิงคนนี้จะใจแข็งสักเพียงไหนหนอ เขาจะระลึกถึงฉันบ้างไหมหนอ เมื่อหัวใจเขาได้ถูกจูบอยู่ทุกคราวที่มือเขาจับงานประพันธ์

ฉันจะปลุกปั้นพนิดาให้เป็นนักประพันธ์มีชื่อให้จนได้ จะพยายามทุกวิถีทางที่ฉันนึกว่าจะช่วยให้คุณบรรลุความสำเร็จในงานประเภทนี้

เพราะในความสำเร็จของพนิดานี้เอง ผู้ชายที่ถูกปักหน้าตราชื่อว่าเป็นโจรก็จะได้นอนหลับสนิทอยู่ในดวงหทัยของราชินีองค์หนึ่งแห่งโลกการประพันธ์เมืองไทย

[ยังมีต่อในเล่ม]



“สินในหมึก” ของ ยาขอบ
ประกายพฤกษ์ ศรุตานนท์ เจ้าของลิขสิทธิ์
สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จัดพิมพ์ซ้ำโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ถูกต้อง
Copyright © 2009 by Freeformbooks, Lomdee Co.,Ltd. All rights reserved.
© สงวนลิขสิทธิ์โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ในนามบริษัท ลมดี จำกัด ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ทำสำเนา ถ่ายเอกสาร หรือนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต หรือสื่อชนิดอื่นๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น





คำนิยม“สินในหมึก”ยาขอบ
จาก วัฒน์ วรรลยางกูร
: นักเขียนรางวัลศรีบูรพา 2550


คิดแบบ ‘ยาขอบ’

เมษายน เป็นเดือนแห่งการจากไปของ ‘ยาขอบ’ หรือ โชติ แพร่พันธุ์ นักประพันธ์แห่งกลุ่ม ‘สุภาพบุรุษ’ อันเป็นกลุ่มนักประพันธ์อาชีพกลุ่มแรกสุดของประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2472


คนสำคัญของกลุ่มสุภาพบุรุษ เช่น ศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์), แม่อนงค์ –เรียมเอง (มาลัย ชูพินิจ) , ยาขอบ (โชติ แพร่พันธุ์), ฮิวเมอริสต์ (อบ ไชยวสุ)

ในความรู้สึกนึกคิดของผม (วัฒน์)
ศรีบูรพา น่านับถือ
ยาขอบ น่ารัก
เรียมเอง น่าเคารพ
ฮิวเมอริสต์ น่าขำ

ทั้งนี้ดูจากความคิด งานเขียน และการใช้ชีวิต

ที่สำคัญผลงานของสอง-สามนักประพันธ์นี้ ทำให้ผมหลงใหลงานประพันธ์ตั้งแต่วัยมัธยม

วาระนี้ขอกล่าวเฉพาะ ยาขอบ

ยาขอบโด่งดังจากการเขียนนิยายเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ตั้งแต่ปี 2475 ขณะอายุเพียง 25 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2486 ในวัย 36 ปี ยาขอบได้เขียนหนังสือชื่อ ‘สินในหมึก’

สินในหมึก หมายถึงการทำมาหาทรัพย์สินได้จากการใช้ปากกาขีดเขียนเส้นหมึกเป็นตัวอักษร ราวกับเป็นงานเสกกระดาษให้เป็นเงินได้อย่างน่าอัศจรรย์

ยาขอบ ผู้ผ่านการเป็นนักเขียนขายดี ชนิดคนอ่านต้องมารอซื้อหนังสือถึงโรงพิมพ์ ย่อมมีความเหมาะสมที่จะเขียนหนังสือ สินในหมึก

สินในหมึก หากเรียกอย่างทุกวันนี้ ย่อมเป็นหนังสือประเภท how to เพียงแต่เป็นฮาวทูที่ลงลึกในเรื่องของชีวิต เรื่องของความคิด มิใช่ฮาวทูที่บอกเทคนิค เคล็ดลับดาดๆ
สินในหมึก เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ช่วยชี้ทางให้ผมในระยะเริ่มต้นฝึกฝนการประพันธ์ เช่นที่ ยาขอบ บอกว่า

“เขียนจากการปฏิบัติเข้ามาหาทฤษฎี”

คือให้เขียนไปตามความรู้สึก โดยไม่ต้องไปกังวลเรื่องของกรอบเกณฑ์ต่างๆมากนัก เช่นว่าสารคดีต้องเขียนอย่างนั้น เรื่องสั้นต้องมีตัวละครเท่านี้ กลอน โคลง ต้องเขียนแบบนี้เท่านั้น เพราะหากเราไปขึ้นต่อคำจำกัดความ หรือกรอบเกณฑ์ต่างๆมากเกินไป ก็อาจทำให้เขียนไม่ออก

เขียนไปตามใจปรารถนานั้นดีที่สุด

โดย ยาขอบ เปรียบเทียบว่า เหมือนคนที่ชกมวยแรกเริ่มนั้น ยังไม่มีใครชกเก่ง ชกเป็นหรอก ก็ชกไปงูๆปลาๆตามสัญชาตญาณ และถ้าสามารถประคองตัวมาได้ ก็แสดงว่า การชกของเราไม่ขี้ไก่ จากนั้นค่อยเรียนรู้ทฤษฎีต่างๆจากครูมวย จะปฏิเสธทฤษฎีเสียเลยมิได้

แต่ถ้ารอเรียนทฤษฎีจนช่ำชอง แล้วค่อยขึ้นสังเวียนชก ก็เหมือนคนเรียนว่ายน้ำโดยไม่เคยลงน้ำนั่นเอง เรียนให้ตายก็ว่ายน้ำไม่เป็น

นี่คือหลักคิดของ ยาขอบ ให้เริ่มเรียนจากการลงมือทำ

จำได้ว่า สมัยผมเป็นเด็กวัด หลวงพี่มหาสอนว่า บัณฑิต แปลว่า ผู้ได้ลูบคลำ ผมโดนหลวงพี่อำหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้ลึกทางบาลีสันสกฤต แต่ฟังแล้วหลวงพี่สอนได้เข้าท่า การจะเป็นผู้รู้ ก็ต้องผ่านการปฎิบัติ แบบ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ คำสอนอันเฉียบขาดของหลวงพี่นี้ ผมไม่อาจคัดง้างได้ ก็เลยเชื่อท่านมาตลอด และบังเอิญมาตรงกับความคิดของ ยาขอบ ในเรื่องการประพันธ์

เช่น เมื่อเราอ่านทฤษฎีการเขียนเรื่องสั้น มีเกณฑ์ว่าเรื่องสั้นควรมีตัวละคร 4-5 ตัว แต่เรื่องสั้นบางเรื่อง เราอาจมีตัวละครหลายสิบตัวก็ได้ ตามที่เราเห็นว่าเหมาะสม

คิดแบบยาขอบ คือคิดจากปฏิบัติเข้ามาหาทฤษฎี ลองทำดูก่อน แล้วค่อยเข้าสู่กรอบเกณฑ์บังคับ

ข้อต่อไป ยาขอบ เขียนไว้ในสินในหมึกว่า
“ผู้ที่ต้องการบรรลุความมีชื่อในการประพันธ์ ต้องสลัดความเหิมเห่อออกไปจากตนให้ได้เสียก่อน ความเหิมเห่อนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เมื่อหลุดเข้าไปอยู่ในหัวของผู้ใด ก็ย่อมจะทำให้หัวของผู้นั้นสูงขึ้น จนยากแก่การจะเกาหัวตัวเองให้ถึงทีเดียว”

และในประเด็นใกล้เคียงกัน ยาขอบเขียนไว้ใน สินในหมึก ว่า

“มิตรแท้เป็นสิ่งสำคัญข้อต้นในหนทางของการประพันธ์ เพราะการจะกล้าเตือนกันในความเห่อเหิมฟุ้งซ่านนั้น จะหาได้ง่ายก็แต่ในมิตรแท้เท่านั้น”

คิดแบบยาขอบข้อนี้เข้าใจง่าย พูดได้ว่า การจะเป็นนักประพันธ์มีชื่อเสียงนั้น ต้องเป็นไปโดยมีสติรู้ตัว ไม่เห่อเหิมหลงใหลจนเกินการ ยาขอบเตือนด้วยความเปรียบประชดประเทียดคมคาย คือการเป็นนักประพันธ์ในยุคโน้น (พ.ศ. 2475) ยุคที่คนรู้หนังสือยังมีน้อย การเป็นนักประพันธ์จึงไม่ธรรมดา เป็นผู้มีเกียรติสูงส่ง ซึ่งหากเห่อเหิมก็จะอยู่ในอาการ ‘หัวสูงจนยากแก่การเกาหัวตัวเองได้ถึง’ ทีเดียวเชียว จะสูงสักขนาดไหน จึงเอื้อมมือเกาหัวตัวเองไม่ถึง ลองจินตนาการดู ร้ายกาจจริงๆปากคอ..บรมครู ยาขอบ

ทุกวันนี้การเป็นนักประพันธ์ เป็นกวี เป็นคอลัมนิสต์ อาจจะไม่ใช่เกียรติยศสูงส่งอย่างสมัยโน้น คนรู้หนังสือ คนมีความรู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมีมากมายหลายหลาก แต่การเตือนใจมิให้เห่อเหิมเกินไป (จนเกาหัวตัวเองไม่ถึง) ก็สามารถเตือนใจได้ทุกสาขาวิชาชีพ

สำหรับในสาขานักเขียน ข้อเตือนใจมิให้เห่อเหิม มีความจำเป็น เวลาที่เรากลายเป็นนักเขียนขายดี นักเขียนมือรางวัล เช่น รางวัลพานแว่นฟ้า รางวัลเซเว่นบุ๊คฯ รางวัลซีไรต์ รางวัลศรีบูรพา....พอถึงรางวัลศรีบูรพา ผม(วัฒน์) ก็รู้สึกคันศีรษะขึ้นมาทันที พยายามเกาหัวตัวเอง ปรากฏว่าเอื้อมมือสุดแขนก็เกาได้แค่ใบหู –ฮา

ข้อสำคัญ ยาขอบบอกว่า เราต้องมี ‘มิตรแท้’ ที่ไม่ใช่แค่บริษัทประกันภัย แต่หมายถึง เพื่อนหรือคนรู้ใจใกล้ชิด ที่กล้าพูดความจริงกับเราในทุกเรื่อง

เพื่อนแท้ มิตรแท้ ที่อ่านต้นฉบับบทกวี เรื่องสั้น หรือข้อเขียนต่างๆของเรา แล้วกล้าพูดกับเราอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีอคติแบบฉันทาคติ (เอนเอียงเพราะรัก) หรือโมหคติ (เอนเอียงเพราะหลง) หรือ โทสคติ (เอนเอียงเพราะโกรธเกลียด) แถมยังช่วยดูออกว่า เราเกาศีรษะถึงหรือไม่อีกด้วย

คิดแบบยาขอบ ข้อต่อไป จากหนังสือสินในหมึกว่า

“ความเป็นนักประพันธ์คือเป็นผู้รู้คน”

“ธาตุแท้ที่กุมกันขึ้นเป็นนักประพันธ์ ปลีกตัวออกไปจากความรู้มากหรือรู้น้อยในด้านอักษรศาสตร์เสียแล้ว แต่ทะเล้นไปปรากฏตัวอยู่ในด้านความเป็นผู้รู้มนุษยศาสตร์ คือรู้คน รู้จักว่าคนคืออะไร ภาวะแวดล้อมคนมีอย่างไร ความรัก ความโกรธ ความโหดเหี้ยมและเมตตาปราณี เป็นกลไกที่บงการการกระทำต่างๆของคนเพียงไร ยิ่งรู้คนมากขึ้นเท่าไหร่ ธาตุแท้ของนักประพันธ์ก็ยิ่งกุมกันแน่นแฟ้นมากขึ้นเท่านั้น”

คิดแบบยาขอบ ย้ำว่าความรู้สำคัญที่สุดของการเป็นนักประพันธ์ เป็นกวี เป็นศิลปิน คือ ‘รู้คน’ ซึ่งความรู้ชนิดนี้ เรียนรู้ได้จาก มหาวิทยาลัยชีวิต จึงไม่แปลกว่า กวี นักประพันธ์ จะมีวุฒิปริญญาอะไร ขอเพียงแต่เขามีความรู้ในเรื่องของคน ซึ่งโดยมากก็มักมาจากประสบการณ์ชีวิตที่ตรากตรำ ดังเช่นยาขอบ ในวัยเด็กเติบโตมาอย่างระหกระเหิน ไม่เคยได้อยู่ครบหน้าพ่อแม่ลูก ต้องเร่ร่อนไปเป็นจ็อกกี้ เร่ร่อนไปอยู่กับท้าวพระยาคนนั้นคนนี้ ซึ่งระหว่างความระหกระเหิน ยาขอบได้เรียนรู้เรื่องคน ทั้งจากการสังเกตในชีวิตจริง และจากการอ่านหนังสือ สำคัญที่สุดคือการมีประสบการณ์ทางอารมณ์ ผ่านช่วงชีวิตเงียบเหงาว้าเหว่อย่างเด็กที่ครอบครัวไม่สมบูรณ์ และผ่านช่วงชีวิตวัยหนุ่ม ที่พบรสรักอันรื่นรมย์ เป็นที่มาของข้อเขียนน่าอ่านหลากหลาย

ยาขอบเน้นว่า การรู้คน คือรู้ว่า ภาวะแวดล้อมอย่างไรทำให้คนมีความรัก ความโกรธ ความเหี้ยมโหด เมื่อเราจะพรรณนาบทบาทตัวละคร จึงต้องเข้าใจให้ทะลุปรุโปร่ง ทำไมคนนี้จึงมีบทบาทโหดเหี้ยม ทำไมตัวละครนี้จึงมีบทบาทเมตตากรุณา ล้วนเป็นเรื่องมีที่มา ซึ่งนักประพันธ์มีหน้าที่อธิบายที่มาเหล่านี้ด้วยความรู้ในเรื่อง ‘คน’

มิใช่จู่ๆ ตัวละครที่เคยดีมีเมตตา ก็กลับกลายเป็นอ้ายผู้ร้ายใจทมิฬขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย ไม่มีแซกโซโฟน

เท่านี้ก็มากโขสำหรับทีเด็ดเคล็ดลับจากความคิดของยาขอบ ในหนังสือสินในหมึก
ที่จริงความรู้เรื่องคน มิได้จำเป็นเฉพาะในการทำงานประพันธ์ผู้เสาะหาสินในหมึกหรอก เพราะทุกคนทุกอาชีพต้องมีความรู้ในเรื่องคน เมื่อเราต้องอยู่กับคน กระทบสัมผัสผู้คนอยู่ทุกวัน นับตั้งแต่ต้องรู้จักว่า คนที่เราสัมผัสสัมพันธ์ในแต่ละวันนั้น ใครเป็นอย่างไร คนไหนใจดี คนไหนใจดำ คนไหนคิดอะไร ฯลฯ การเรียนรู้เรื่องคน จะต้องเรียนรู้ทุกวันไม่สิ้นสุด เพื่อที่เราจะได้เข้าใจคน และอยู่กับคนอย่างปกติสุข

รู้เรื่องคนจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักประพันธ์ เพราะต้องบรรยายเรื่องคน อาชีพอื่นๆก็ต้องรู้เรื่องคน ความรู้เรื่องคน จึงไม่ได้ผูกขาดอยู่ในผู้มีอาชีพขายกาแฟเท่านั้น (ขายกาแฟต้องคนกาแฟ มิฉะนั้น ขม..)

คนเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบกับเรามากที่สุด

ขนาดโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เรายังต้องเรียนรู้ โดยที่ความเป็นจริง เราสามารถหลีกเลี่ยงไม่ข้องเกี่ยวสัมพันธ์กับสิ่งเหล่านี้ก็ได้ ถ้าเราไม่อยากข้องเกี่ยวจริงๆ ต่างจาก ‘คน’ ที่เราหลีกหนี หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เราจึงต้องสัมพันธ์และต้องเรียนรู้อย่างยิ่ง

คิดแบบยาขอบข้อต่อไปจากหนังสือสินในหมึกบอกว่า

“นักประพันธ์ย่อมปลอดโปร่งพอจะดูสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วกับตนเหมือนเรื่องละคร ถ้าใครขาดสิ่งนี้ ไม่ใช่ขาดพรสวรรค์ แต่ขาดธาตุแท้ของนักประพันธ์ ขาดพรสวรรค์เป็นนักประพันธ์ได้ แต่ไม่ดี แต่ขาดธาตุแท้เป็นไม่ได้ ขาดจินตนาการอันซาบซึ้งเป็นนักประพันธ์ที่ดีไม่ได้ แต่ขาดความปลอดโปร่งอันเป็นบ่อเกิดของจินตนาการ เป็นนักประพันธ์ไม่ได้ทีเดียว!”

ความคิดข้อนี้ของยาขอบ บอกเราถึงการเป็นผู้มีใจเที่ยงดั่งเข็มนาฬิกาเมื่อ 12 นาฬิกา ว่าแม้แต่เมื่อมองเรื่องราวในชีวิตตัวเองก็ต้องมองอย่างเที่ยงธรรม ไม่เอนเอียง สามารถมีใจอุเบกขา มองเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตตัวเองเหมือนดูหนังละคร มองเห็นที่มาที่ไปโดยไม่ลำเอียง คนเราจะเขียนประพันธ์เรื่องราวใดๆที่สุดย่อมไม่พ้นเขียนจากประสบการณ์หรือเรื่องราวตัวเอง ยาขอบย้ำว่า ธาตุแท้นักประพันธ์ คือสามารถมองเรื่องราวในชีวิตตัวเองเหมือนดูหนังดูละคร ไม่ลำเอียง หากขาดคุณสมบัตินี้ก็คือขาดธาตุแท้นักประพันธ์ทีเดียว!

ที่สำคัญต้องมี สมาธิ จึงจะ “ปลอดโปร่งอันเป็นบ่อเกิดจินตนาการ” คนไม่มีสมาธิ คนอยู่นิ่งไม่ได้ อยู่คนเดียวไม่เป็น ยาขอบบอกว่าเป็นนักประพันธ์ไม่ได้เลยทีเดียว

ขาดธาตุแท้นักประพันธ์เป็นปัญหาฉกรรจ์ยิ่งกว่าขาดพรสวรรค์

ข้อต่อมา คิดแบบยาขอบ จากสินในหมึก คือ เกี่ยวกับการดำรงชีวิตในอาชีพนักประพันธ์

“การประพันธ์ในเมืองไทยเป็นอาชีพที่อยู่ได้ ไม่มีไส้แห้งตาย ในเมื่อเป็นนักประพันธ์ แล้วก็ดำเนินชีวิตอย่างนักประพันธ์ อย่าริไปดำเนินชีวิตอย่างเจ้าของบ่อน้ำมัน”

ข้อนี้ก็ชัดเจนว่าให้รู้อยู่รู้เป็นตามฐานะที่เหมาะสม เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันนั้นเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก สามารถจ้างนักร้องสาวสวยมาขับกล่อมในฮาเร็มได้ แต่เป็นเจ้าของบ่อน้ำหมึก ‘ลมใต้ปีกกวี’ แม้น้ำหมึกจะมีหลั่งไหลไม่ขาดสาย เป็นบ่อน้ำพุแห่งความคิดฝันอันไม่สิ้นสุด แต่ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตแบบเจ้าของบ่อน้ำมันได้หรอก ฮิ-ฮิ

เป็นเจ้าของบ่อน้ำหมึก ไม่มีไวน์ขวดละหมื่นแสนมานั่งจิบได้ แต่ใช้สมองสักหน่อย อาจหาไวน์ผลไม้ไทยราคาย่อมเยามาจิบได้ หรือเรียนรู้วิธีทำสาโท ทำไวน์ เผลอๆได้ขายเป็นค่ากับข้าวอีกด้วย

ไม่รวยต้องรู้จักใช้สมอง

ข้อคิดส่งท้ายของความคิดแบบยาขอบ บอกว่า

“เกิดเป็นคน ตายไปแล้วทำให้คนอยู่ต้องระลึกถึง ก็นับว่าเป็นคนกับเขาชาติหนึ่งไม่เสียเปล่า”

การเขียนหนังสือ งานประพันธ์ ก็เป็นงานชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้คนเขียน คนประพันธ์เป็นที่จดจำของคนรุ่นหลัง แม้ว่าเขาได้ตายไปแล้ว กังที่เราได้มารำลึกถึง ยาขอบ หรือโชติ แพร่พันธุ์ ผู้ตายไปตั้งแต่ 5 เมษายน พ.ศ. 2499

เรารำลึกถึงเขา เพราะเขามีความคิด มีข้อเขียนที่เราอ่านแล้วได้สาระบันเทิง ได้แง่คิดคมขำ
นี่คือความคิดแบบยาขอบ จากหนังสือ สินในหมึก





Copyright © 2009 by Freeformbooks, Lomdee Co.,Ltd. All rights reserved. © สงวนลิขสิทธิ์โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ในนามบริษัท ลมดี จำกัด ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปลอกเลียน ทำสำเนา ถ่ายเอกสาร หรือนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต หรือสื่อชนิดอื่นๆ ไม่ว่าในรูปแบบใด นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

พ็อคเก็ตบุ๊คออกใหม่ ฟรีฟอร์มสำนักพิม

[ขวา]
พ็อคเก็ตบุ๊คออกใหม่ วางจำหน่ายแล้ว มกราคม 2553
ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์
Last update :Jan-2010
.............

●พ็อคเก็ตบุ๊คฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ปกติวางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature เอกมัย (Vanilla House), ร้านแพร่พิทยา, ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ --หาไม่เจอกรุณาสอบถามพนักงาน [เค้าจะได้รีบหาหรือรีบสั่งมาวางไงคะ เป็นการช่วยสำนักพิมพ์ได้ด้วยทางหนึ่ง] .ใ

● หาอ่านไม่ได้จริงๆสามารถติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ สำนักงานฟรีฟอร์ม....... บริษัท ลมดี จำกัด เลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259 (เวลาทำการ 09.00 - 17.00 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์) และ 08-5664-9612 อีเมล: freeformthailand@hotmail.com

สำนักพิมพ์ โลนลี่ปาย [lonely pai]
พิมพ์หนังสือปาย ทำในปาย และขายเฉพาะในปาย
ในเครือฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ รับสมัคร กองบรรณาธิการ และ กราฟิคดีไซเนอร์ ฝีมือดี พร้อมเดินทางมาทำงาน
ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
กองบก.ควรมีกล้องดิจิตอล และ pc ของตัวเองมาด้วย
ดีไซเนอร์ควรมีแมคฯ และใช้อินดีไซน์คล่อง
สนใจส่งประวัติและผลงานมาที่อีเมล์ lonelypai@hotmail.com
ด่วนมากๆ งานรอเพียบจ้า!
.......................

ส้นสูง สโนว์ไวท์ ลิปสติก

คำ ผกา เธอคือไม้ขีดไฟ ผู้พร้อมจะจุด : พ.ศ.นี้บอกได้ว่าเธอก้าวขึ้นมาเป็นเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นอีกคนหนึ่ง ด้วยงานเขียนเปื้อนสีโยนออกมาพร้อมลูกระเบิดและไม้ขีดไฟที่จุดติด นอกเหนือจากเนื้อหาที่โดนใจคนหลายคน และขัดใจคนอีกหลายคนเช่นกัน สิ่งที่ทำให้โดนและขัดนั้นคือภาษาที่สื่อสารกับผู้อ่านอย่างถึงอกถึงใจ ร้อนแรง และแสบสันต์
..................

ส้นสูง สโนว์ไวท์ ลิปสติก : กุสุมาลย์ ณ ลำพู + คำ ผกา - ผลงานจดหมายโต้ตอบระหว่างผู้หญิงสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ แฟชั่น สื่อ ผ่านมุมมองทางสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ภาษาพูดแบบถึงลูกถึงคน เจ็บ แสบ กัด มันส์ โดย คำ ผกา คอลัมนิสต์ลูกชาวบ้าน กุสุมาลย์ ณ ลำพู เป็นสาวไฮโซฯ เพื่อนสนิท (วางจำหน่ายแล้ว)

.............

เมนูปรารถนา รักไม่เคยชิน คำ ผกา

......................... ..............

เมนูปรารถนา : คำ ผกา -พิมพ์ครั้งที่ 2 เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ และอารมณ์โรแมนติกของฮิมิโตะ ณ เกียวโต อีกภาคหนึ่งของคำ ผกา โดยเขียนเชื่อมโยงกับฤดูกาล อาหาร เครื่องดื่ม ขนม อันหลากหลาย (วางจำหน่ายแล้ว)

..................................

............................

.........................................

................................ .........

รักไม่เคยชิน : คำ ผกา - ความรักความสัมพันธ์ ปัญหาซับซ้อนสารพันของคนสมัยใหม่ ในมุมมองของผู้หญิงยุคนี้ ผิดถูกเลวดีเราไม่เอ่ยถึง เพียงแต่ทุกอย่างสามารถอธิบายได้ด้วยมุมมองทางสังคม ประวัติศาสตร์ (วางจำหน่ายแล้วนี้)

Alice in Wonderland

...................................................
freeform fairy tales
ชุดออริจินอล 3 เล่ม ที่ห้ามพลาด
.........
เทพนิยายที่เด็กทุกคนต้องอ่าน
ผู้ใหญ่ทุกคนต้องผ่าน
.......
ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์แนะนำสุดหัวใจ :)
เริ่มต้นกันด้วย
Alice in Wonderland : อลิซในดินแดนพิศวง
by Lewis Carroll
จิระนันท์ พิตรปรีชา: แปล
.....................
มาร่วมกันต้อนรับ Alice in Wonderland ที่กำลังจะกลายเป็นฉบับภาพยนตร์อีกครั้งโดยฝีมือกำกับภาพยนตร์ของ ทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับสุดเซอร์เจ้าของผลงานภาำพยนตร์เรื่องดังมากมาย (รวมถึงพ็อคเก็ตบุ๊ค "เด็กชายหอยนางรม" ที่หลายคนกำลังตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย) โดยมี จอห์นนี่ เดปป์ มารับบทบาทชายมหัศจรรย์ The Mad Hatter : จิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ บรรจงแปลสุดฝีมือ ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์จัดพิมพ์ เพื่อนักอ่านชาวไทยที่"หลงรักเทพนิยาย"และ"หลงรัก"จอห์นนี่ เดปป์โดยเฉพาะ : ) คลิกอ่านต่อ
..............

เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว+เงื้อแล้วก็ต้องฟัน

เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว........ มนันยา แปล ......... ขายดีติดอันดับ 1. จากงานสัปดาห์หนังสือไปแล้ว สำหรับ “เงื้อแล้วก็ต้องฟัน” ผลงานรวมเรื่องสั้นชั้นเทพชุดที่ 1. ของกีย์ เดอ โมปัสซังต์ นักเขียนในดวงใจตลอดกาลของนักแปลมือ 1.ของเมืองไทยอย่าง “มนันยา”ที่เจ้าตัวบรรจงคัดเลือกเรื่องสั้นแต่ละเรื่องมาแปลด้วยตัวเอง ในสำนวนคมกริบ ไม่บันยะบันยัง ถึงลูกถึงคนอันเป็นเอกลักษณ์
...............
สำหรับ ผลงานรวมเรื่องสั้นชั้นเทพชุดที่ 2. ของกีย์ เดอ โมปัสซังต์คราวนี้ “มนันยา” ยังคัดเลือกทุกเรื่องที่เธอชอบมาแปลด้วยตัวเองอีกเช่นเคย คราวนี้ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ทำให้อ่านอิ่มจุใจ ด้วยหนังสือเล่มใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องสั้นสุดเจ๋งที่คัดแล้วอย่างดี
..........................................................................................
...............................
เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว มีทั้งหมด 25 เรื่อง อาทิ .เพราะไม่กล้านอนเตียง .หอมกลิ่นคอกม้า.แกล้งเจ้าบ่าว ความพยาบาท .เรื่องรักในป่าโปร่ง .สงครามกับหญิงวิกลจริต . เผื่อจะใช้บริการ . เหตุเกิดเพราะเชือกเส้นเดียว . หล่อนเป็นใคร . ผู้มีรักแท้ . ตวงเมียขาย . ปารีสที่อยากรู้จัก . ความในใจของทหารรับใช้ . โชคของผู้หมวดลาร์ . ความลับที่เพิ่งได้รู้ . ความรักอันรุนแรง 7. เบื่อเหลือเกิน . ดาบนี้ขึ้นสนิม . ความรักนิรันดร . ทนไม่ไหวแล้ว ทุกเรื่องยังคมกริบ โหด มันส์ ฮาแบบไม่กล้าวาง ไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเช่นอีกเช่นเคย ฟรีฟอร์มรับประกันว่าอ่านแล้วติดหนึบและจะต้องรีบร้องหาเล่ม 3. มาอ่านโดยพลัน! เล่มต่อไปน่ะหรือ คงไม่ต้องรอนาน กำลังจะวางแผงตามกันมาในเร็วๆ นี้
................ ................... .......................................................................................................................... ....................... ..........................
The Best
Short stories
of Guy De
Maupassant เงื้อแล้ว…
ก็ต้องฟัน มนันยา
: แปล
..............
รวมสุดยอดเรื่องสั้นชั้นเทพของกีย์ เดอ โมปัสซังต์ หักทุกมุม ไม่บันยะบันยัง “มนันยา” บรรจงคัด 12 เรื่องสั้นแสนรักมาบรรจงแปลสุดฝีมือ ผลงานสุดยอดเรื่องสั้นของนักเขียนอายุสั้น ผู้ฝากผลงานยืนยงและยิ่งใหญ่เอาไว้ในโลกวรรณกรรม ด้วยฉายา “บิดาแห่งเรื่องสั้นโมเดิร์น” ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกวางจำหน่ายเกือบทุกปี โดยนักแปลหลายรุ่นหลายคน แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดระดับขึ้นหิ้ง ยิ่งผ่านการเจียระไนจากนักแปลมืออาชีพระดับฉกรรจ์เช่น“มนันยา”ด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “ห้ามพลาดทุกกรณี!” (ราคาปก 165 บาท) คลิกอ่าน,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดเกี่ยวกับ "เงื้อแล้ว...ก็ต้องฟัน" ทั้งหมด

พิศวาสเลือด,ทฤษฎีแห่งการฆ่า

SEX CRIME
พิศวาสเลือด

“ฆาตกรบางครั้งก็เป็นคนธรรมดา จนกว่าจะมีความต้องการทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เจาะลึกสารพัดเล่ห์ร้ายก่อนที่คุณจะกลายเป็นเหยื่อ ….คนฆ่าคนได้ลงคอเพราะอะไร เพราะโกรธ เกลียด อาฆาตมาดร้าย นั่นอาจจะปกติธรรมดา เพราะการฆ่าอีกมากมาย มีสาเหตุซับซ้อนมากกว่านั้น อย่างฆาตกรหญิงที่ฆ่าสามี แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ หนึ่ง ผู้หญิงที่อายุน้อยที่มีความต้องการทางเพศสูง และสอง เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ผิดหวังในเรื่องชีวิตคู่ การศึกษาพบว่าการที่ภรรยาลงมือฆ่าสามีนั้น เกิดขึ้นน้อยกว่าการที่สามีฆาตกรรมภรรยา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ฯลฯ ? (วางจำหน่ายแล้ว) คลิกอ่านรายละเอียด

...................................................................................
...................................................................................
.................................................................................
CRIME SCENES
ทฤษฎีแห่งการฆ่า

ครั้งแรกกับการรวมรวมสารพัดทฤษฏีแห่งการฆ่า แม้ว่าความโหดเหี้ยมของฆาตรกรนั้น บางครั้งไม่มีรูปแบบซับซ้อนใดๆ มากมาย ฆาตรกรจำนวนไม่น้อยเลย ที่ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องมีแรงจูงใจใดๆ ทั้งสิ้น ฆาตรกรต่อเนื่องก็คือฆาตกรที่ลงมือฆ่าซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการข่มขืน เท็ด บันดี เป็นนักศึกษากฏหมายรูปหล่อ ทุกคนในศาลต้องมองเขาจนเหลียวหลัง เขาเป็นตัวอย่างชั้นดีในการศึกษาจิตใจฆาตกรต่อเนื่อง ฉายาของเขาคือ นักฆ่าไอคิวสูง” , อัจฉริยะบางคนอาจจะมีความเป็นฆาตรกรอยู่ในตัว หากมองย้อนไป นักเขียนชื่อก้องโลกทั้งหลายต่างเติบโตมาจากการเป็นเด็กก้าวร้าว และเป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วยกันทั้งนั้นฯลฯ(วางจำหน่ายแล้ว) คลิกอ่านรายละเอียด

หวงเยวี่ยน

หวงเยวี่ยน : หนุ่มนักเขียนดาวรุ่งวัยยี่สิบแปด เคยโพสต์นิยายบนอินเทอร์เน็ต แต่ผลงานก้าวพ้นนิยายรักสูตรสำเร็จแบบอินเทอร์เน็ตไปไกลโพ้น ด้วยความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ กรุยทางสร้างสไตล์เฉพาะตัว มีแรงดึงดูดที่ทำให้ผู้อ่านติดหนึบ สมัยเรียนมัธยมเคยไม่พูดไม่จาถึงครึ่งปี เคยเดินรอบสนามแปดคาบเรียนเพื่อขบคิดข้อสงสัยเกี่ยวกับชีวิต บ้าหนังสือหนัก-ขนาดสะสมเล่มที่อ่านจบแล้วได้มากกว่าหมื่นเล่ม เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือการ์ตูน และนิยามตัวเองว่า "ผมไม่ใช่คนธรรมดา แต่ผมเป็นระเบิด!"

...........................................................................
....................................................
................................................................................................................................
.....................................
............................
剪刀石頭布 ฆ้อน กรรไกร กระดาษ
หวงเยวี่ยน : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
'ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น
[ผลงานเล่มใหม่ล่าสุดของหวงเยวี่ยน
-วางจำหน่ายแล้ว] ...
ฆ้อน กรรไกร กระดาษ”ผลงานเล่มใหม่ล่าสุดของหวงเยวี่ยนจากฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ เป็นเรื่องของชีวิตหญิงสาวตัวเล็กๆ ในสังคม เป็นคนธรรมดาๆ ที่พยายามไขว่คว้าหาความไม่ธรรมดาของชีวิต ด้วยบุคลิคสาวออฟฟิศหน้าตาเรียบๆ คุณสมบัติส่วนตัวและนิสัยใจคอก็ไม่ได้โดดเด่นเกินใคร แต่ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป หลังจากที่เธอได้มีโอกาสได้ชื่นชมภาพวาดชื่อ “รัตติกาลแรก” เมื่อเธอมีโอกาสช่วยเหลือชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งติดอยู่ในแกลเลอรี่เพราะไฟดับ และชายหนุ่มนั้นบังเอิญเป็นผู้วาดภาพนั้น....“ฆ้อน กรรไกร กระดาษ” เคยสร้างความประทับใจมาแล้วจากซีรี่ส์ไต้หวันยอดนิยม เคยฉายในเมืองไทยภายใต้ชื่อ “เกมรักหักเหลี่ยมซี้” ในฉบับซีรี่ส์ย่อมจะมีความแตกต่างจากต้นฉบับดั้งเดิม และ “ฆ้อน กรรไกร กระดาษ” เล่มนี้ ก็จะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราวความรักไร้กฏเกณฑ์(แต่ต้องตัดสินใจด้วยเป่ายิ้งฉุบ)อย่างเต็มอิ่มยิ่งขึ้น ก่อนจะปิดหนังสือลงด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเปี่ยมสุขกันอีกครั้ง - คลิกอ่านรายละเอียด
...............
.........................................................................................
.....................................
............................
幸福來了
ผู้ชายเหมือนระเบิด
[ความสุขกำลังจะมา]
หวงเยวี่ยน : เขียน
อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี : แปล
'ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น
...........
[ผลงานเล่มแรกของหวงเยวี่ยน
โดยฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์
-วางจำหน่ายแ้ล้ว]:.
vo.....................
“ผมไม่ใช่คนธรรมดา ผมเป็นลูกระเบิด” ระเบิดลูกนี้ชื่อตัวอักษร ผมใช้ถ้อยคำซื่อตรง บอกเล่าความจริงใจ เหมือนชนวนที่เชื่อมโยงกับวัตถุระเบิด ความรักที่ตราตรึง การผจญภัยที่สดสวย เรื่องราวชวนปลื้ม ปีติระคนเหลือเชื่อกักตุนอยู่เต็มสมอง อัดแน่นเจียนระเบิด รสชาติเข้มข้น ความกดดันไร้ขีดจำกัด จำต้องหาทางระบาย ผมจำเป็นต้องระเบิด กรุณาอย่าเป็นห่วง เมื่อผมแหลกเหลวปี้ป่น ผมจะไม่ทิ้งรอยบาดเจ็บใดๆ ไว้บนตัวคุณเลย ดินระเบิดในตัวผมเป็นจิตวิญญาณ สิ่งเดียวที่จะหวั่นไหวบ้างก็คือหัวใจคุณ นอกนั้นจะไม่มีอะไรแตกสลาย ...แล้วคุณจะลืมผมไม่ลง............ง คลิกอ่านต่อ
..........
คนอ่าน

ซูซาน บอยล์

สู้ สู้! ซูซานบอยล์
ป้าเฉิ่มโลกตะลึง
[ราคาปก 210 บาท]
........
ป้าเฉิ่มซูซาน บอยล์ วัย 48 ปี ผู้ ไม่เคยแต่งงานและไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อน ปรากฏกายบนเวที Britain’s Got Talent เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 กล้องจับภาพกรรมการและผู้ชมแสดงท่าทางเย้ยหยันออกนอกหน้า ก่อนที่ซูซานจะเริ่มร้องเพลง I Dreamed a Dream ซึ่งทำให้ทุกคนอึ้งตะลึงงัน
คลิปวิดีโอการแสดงในวันประกวดของเธอ ถูกโพสต์ลง“ยูทูบ” ทุบสถิติอัตราฮิตเรท หรือจำนวนผู้ชมทะลุ 100 ล้านครั้งในเวลาไม่กี่วัน
“ซูซาน บอยล์” เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกๆ คนที่มีความฝัน” อีแลง เพจ ซูเปอร์สตาร์ นักแสดงละครเวที นักร้องอังกฤษรุ่นลายครามกล่าวไว้อย่างนั้น แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ซูซาน บอยล์ จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ปรากฏการณ์ซูซาน บอยล์ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ชีวิตที่พลิกผันจากดินเป็นดาวเพียงชั่วข้ามคืน อำนาจของ ‘ปากต่อปาก’ ในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่มีอินเตอร์เนตเป็นตัวนำ เรื่องราวชีวิตของเธอถูกสื่อมวลชนล้วงแคะทุกซอกมุม ข่าวคราวไซมอน คาวเวลล์เตรียมจับเธอเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่ายเพลงของเขา จนถึงข่าวการแปลงโฉมใหม่ของเธอที่ดูดีขึ้น แต่หลายคนต่อต้านเพราะอยากให้เธอขี้เหร่เหมือนเดิมมากว่า(ซะงั้น)
เรื่องราวชีวิตน่าทึ่งของป้าเฉิ่มซูซาน บอยล์ เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!

ไมเคิล เฟลป์ส

หนังสือที่ทุกครอบครัวควรอ่าน ในการพลิกชีวิต(ติดลบ)
สู่ความเป็นเลิศ ไมเคิล เฟลป์ส
เบื้องลับฮีโร่ แชมป์ 14
เหรียญทองโอลิมปิก เรื่องจริง
ที่โลกไม่เคยรู้
ในเกมชีวิต
สุดทึ่ง! กฤติยา รามโกมุท,
นพดล เวชสวัสดิ์ : แปล [ราคาปก 210 บาท]

จาก “เด็กพิเศษ” สมาธิสั้น ปัญหาเพียบ จากครอบครัวหย่าร้าง ไมเคิล เฟลป์ส พลิกชีวิตติดลบเป็นซูเปอร์เปอร์สตาร์ ฮีโร่นักว่ายน้ำขวัญใจชาวอเมริกัน ทุบสถิติ 8 เหรียญทองอันเหลือเชื่อ จากการแข่งขันโอลิมปิกปักกิ่งในปี 2008 อย่างหมดจดสง่างาม
..........
ใครจะคิดว่า “เด็กพิเศษ” จากครอบครัวหย่าร้าง ประสบปัญหาชีวิตอย่างรุนแรงจากโรคสมาธิสั้น แต่สามารถเรียนรู้ต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยวิธีเลี้ยงดูเอาใจใส่สุดพิเศษจากคุณแม่จอมอดทนทรหด ผู้คิดค้นวิธีการเลี้ยงลูกที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร จนกระทั่งเฟลป์สเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับโรคร้ายประจำตัว ต่อสู้กับการล้อเลียนเสียดสีจากเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่มีวุฒิภาวะสูงกว่า
......................................
ไมเคิล เฟลป์ส์ : เบื้องลับฮีโร่ เปิดเผยทุกรายละเอียดในชีวิตแบบเจาะลึก บันทึกทุกสถิติการแข่งขัน ครบครันด้วยภาพถ่ายที่ไม่เคยเปิดเผยจำนวนมาก วิธีเลี้ยงดูเด็กพิเศษด้วยวิธีการสุดวิเศษ รวมทั้งบทวิเคราะห์เจาะลึกค้นหาคำตอบ ว่าทำไมคนที่มีชีวิตติดลบอย่างเฟลป์ส จึงพุ่งสู่ความรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้
...
นี่คือหนังสือที่ทุกครอบครัวควรจะได้อ่าน
รวมทั้งทุกคนที่อยากรู้เบื้องหลังตำนานมีลมหายใจ--- ไมเคิล เฟลป์ส

โดเรียน เงื้อฯ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรัก สิในหมึก แมร์ด 3 เล่ม

The Picture
of Dorian Gray ภาพวาด
โดเรียน เกรย์ ออสการ์ ไวลด์ : เขียน
กิตติวรรณ ซิมตระการ
: แปล จิตราภรณ์ วนัสพงศ์: บรรณาธิการ
’ปราย พันแสง : คำนิยมชมชื่น .......................
งานศิลปะชิ้นเยี่ยม!ในรูปแบบนวนิยาย เฉียบคม แสบสันต์ ราวกับเป็นหนังสือรวมฮิตคำคมของออสการ์ ไวลด์ ผลงานนวนิยายเรื่องแรกและเรื่องเดียวในชีวิตของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของคำคมและบทละครสำคัญที่ผู้คนมักจะหยิบยกมาเอ่ยอ้างตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทเพลงให้แก่คีตกวีมากมาย ผลงานของเขาได้รับการนำมาสร้างเป็นละครเวทีและภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในปี 2009 จะมีผลงานจากบทประพันธ์ของออสการ์ ไวลด์ถึง 2 เรื่องที่จะเข้าโรงฉาย ได้แก่ ภาพวาดโดเรียน เกรย์ (The Picture of Dorian Gray) โดยมีชื่อภาพยนตร์ว่าโดเรียน เกรย์ (Dorian Gray) นำแสดงโดยมีคอลลิน เฟิร์ธ นักแสดงหนุ่มจาก “ไดอารีของบริดเจต โจนส์” ส่วนในปลายปี 2009 ก็จะมีเรื่อง A Woman of No Importance ออกฉาย โดยมี อแมนดา เซย์ฟรีด จาก Mamma Mia! รับบทนำ (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านบทแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับ ภาพวาดโดเรียน เกรย์ ทั้งหมด
...........................
..............................
.............................
.............................
.............................
จดหมายรักยาขอบ
เรื่องรักต้องห้ามแต่สุดโรแมนติกของ “ยาขอบ” นักประพันธ์ชั้นครู ที่เคยสร้างผลงานเขียนเขย่าสังคมไทยให้สะท้านสะเทือนประจำยุคสมัย ฝ่ายชายเป็นนักประพันธ์ใหญ่จอมเจ้าชู้ มีภรรยาอยู่แล้วถึง 4 คน แต่ยังสามารถเขียนจดหมายจีบผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาวและอยากเป็นนักเขียนอย่าง “พนิดา” สาวสวยประจำยุคสมัย “จดหมายรักยาขอบ” เป็นหนังสือหายาก เป็นเรื่องรักคลาสสิคที่ตราตรึงใจนักอ่านมายาวนาน สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม ได้รับอนุญาตจากคุณประกายพฤกษ์ ศรุตานนท์ เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือยาขอบ ให้นำมาจัดพิมพ์ซ้ำอย่างถูกต้อง ในรูปเล่มใหม่ สวยงาม แต่ไม่ได้จัดจ้านจนเกินไปนัก ด้วยฝีมือศิลปินชื่อดัง “โลเล” ทวีศักดิ์ ศรีทองดี (ราคาปก 255 บาท) คลิกอ่านรายละเอียดหนังสือ,คำนิยมยาวจุใจจาก วัฒน์ วรรยางกูร,คำนิยม "เอื้อมไม่ได้แอ้มไม่ถึง"จาก 'ปราย พันแสง และอื่นๆ

...........................

..............................
.............................
.............................
.............................

จดหมายรัก สินในหมึก

พิมพ์ครั้งที่ 5 Love Letters
จดหมายรัก
’ปราย พันแสง
....... “เมื่อยังหนุ่มข้าพเจ้าคิดจะรัก แต่เมื่อย่างเข้าวัยชรา ข้าพเจ้ารักจะคิด” นั่นเป็นคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หนึ่งในสุดยอดนักเขียนจดหมายรัก นอกจากนี้ในหนังสือเล่มนี้ ยังมีเรื่องราวชีวิต ความรัก และจดหมายของคนดังและไม่ดังของโลก อาทิ จดหมายรักยาขอบ จดหมายรักไอน์สไตน์ จดหมายรักคาร์ล มาร์กซ์ ฯลฯ เคยฮิตสนั่นลั่นเมืองมาแล้วเมื่อตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ โศก ซึ้งเศร้า เข้าข้น หวาน มันส์ จนอ่านแล้วเหมือนจะละลาย รวมถึงจดหมายพิเศษในกล่องข้างใจ ที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน (ราคาปก 225 บาท)
...........................
..............................
.............................
.............................
.............................
สินในหมึก
ยาขอบ
...........
เมื่อความรักสอนให้เขียนหนังสือ เคล็ดวิชาการประพันธ์อันเลื่องลือก็หลั่งไหล นี่คือสุดยอดหนังสืออมตะ ยิ่งผ่านกาลเวลา ยิ่งขลังเข้ม และไม่เคยล้าสมัย “สินในหมึก”เป็นหนังสือรวมยุทธวิธีเขียนหนังสือให้ได้อย่างใจ เขียนให้คนติด เขียนให้ขายดี มีคนชื่นชอบโดยทั่วไป ยาขอบไม่เน้นเรื่องพรสวรรค์ คนเราสามารถฝึกปรือให้เก่งขึ้นมาได้ ถ้ามี “ความปลอดโปร่งแห่งอารมณ์” ฯลฯ หนังสือเล่มนี้คัดคำแนะนำเฉพาะหัวกะทิ เป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มาจากภายใน มาจากความเป็นมนุษย์ เป็นจริง พิสูจน์ได้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกเขียนหนังสือทุกรูปแบบ ไม่ว่าเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น บทความ สารคดี เขียนไดอารี่ออนไลน์หรือแม้แต่เขียนบล็อก! (ราคาปก 225 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างบางตอน, คำนิยมจาก วัฒน์ วรรลยางกูร : นักเขียนรางวัลศรีบูรพา ปี 2550 และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือ"สินในหมึก"ทั้งหมด

ชุดแมร์ด 3 เล่ม

A Year in the Merde
อะ เยียร์ อิน เดอะ แมร์ด
ผ้าขี้ริ้วห่อชา
มนันยา: แปลไปหัวเราะไป

ปฐมบทแห่งนวนิยายแสบสันต์และฮากระจาย ด้วยอารมณ์ขันสุภาพแต่ซาดิสต์แบบหนุ่มอังกฤษหัวใจอินดี้ ว่าด้วยเรื่องราวของพอล เวสต์ หนุ่มลอนดอนที่เดินทางมาปารีสเพื่อบุกเบิกธุรกิจร้านน้ำชาอังกฤษในฝรั่งเศส ด้วยความสับสนทางวัฒนธรรม พอลต้องหารับมือกับ“ฝรั่งเศส”ทุกกระบวนท่า ไม่ว่าจะเป็นวิธีเอาตัวรอดจากการประชุมร่วมกับคนฝรั่งเศส วิธีหาบ้านพักแบบฝรั่งเศส สาวฝรั่งเศส จูบแบบฝรั่งเศส รวมถึงวิธีการสะกดภาษาอังกฤษแบบฝรั่งเซส ฝรั่งเศส ฯลฯ.A Year in the Merde ติดอันดับอินเตอร์เบสต์เซลเลอร์ เป็นหนังสือภาคบังคับที่ต้องมีทุกร้านหนังสือในปารีส (ราคาปก 295 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

...........................

.............................. ............................. ............................. .............................

Merde Actually

แมร์ดแอคชวลลี่

ทุกหัวใจมีแมร์ด

วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ :แปล

มนันยา : คำนิยม

หลังจากที่พอลได้เปิดร้านน้ำชาอังกฤษในฝรั่งเศสสมดังความตั้งใจ แต่พอลก็ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับฝรั่งเศสที่ต้องการคำตอบ เช่นว่า อะไรที่จะทำให้ตำรวจในฝรั่งเศสกลัวที่สุด? ทำไมจึงไม่มีการเตือนบนชายหาดเปลือยกาย, การนอนกับเมียของเจ้านายผิดหรือเปล่า? และที่สำคัญพอลยังคงตามหาสาวฝรั่งเศสที่สมบูรณ์แบบ แต่พอลจะเจอรักแท้ไหม หรือจะจบลงบนกองแมร์ด? การผจญภัยครั้งใหม่ของพอลที่ยังคงสร้างปัญหาระหว่างประเทศแบบสุดฮาอีกเช่นเคย (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

...........................

.......................

...............

.................................................

........................... .............................. ............................. ............................. .............................
Talk to the Snail. ทอล์ค ทู เดอะ สเนล
:กฎแห่งแมร์ด
อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง : แปล
..............................
ทำอย่างไรถึงจะได้รับการบริการดีๆ ในภัตตาคารฝรั่งเศส, เรียนรู้การวางตัวแบบสุภาพและหยาบคายสุดๆ ในเวลาเดียวกัน ค้นพบภาษารัก เซ็กส์ และการสูบบุหรี่ (ไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับ), วลีที่สำคัญและขำขันฝรั่งเศ๊ส ฝรั่งเศสที่นำมาใช้ได้ในทุกสถานการณ์ พร้อมตัวอย่างไหวพริบเล็กๆน้อยๆที่ใช้ได้ในชีวิตจริง ฯลฯ ทั้งหมดรวมอยู่แล้วในหนังสือเล่มนี้ เหมาะกับคนที่สนใจฝรั่งเศส อยากไปฝรั่งเศส หรือคนที่กลัวทุกอย่างเกี่ยวกับฝรั่งเศส ก็ห้ามพลาดเล่มนี้อย่างเด็ดขาด! (ราคาปก 325 บาท) คลิกอ่านตัวอย่างตอนแรก,ประวัตินักเขียน-นักแปล และรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับหนังสือชุดแมร์ดซีรี่ส์ทั้งหมด

ร้านชำ ความลับ

SUICIDE SHOP
ร้านชำสำหรับคนอยากตาย
ฌอง เติลเล่ : เขียน
องอาจ กันใจศักดิ์ : แปล
..... ถ้าคุณชอบครอบครัว Addams Family ถ้าคุณมีทิม เบอร์ตันอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้คุณพบรักใหม่อีกครั้ง ซุยไซด์ช็อป (Suicide Shop) หรือ “ร้านชำสำหรับคนอยากตาย” เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกิจการร้านค้าเล็กๆ อยู่ในเมืองหนึ่ง ดินแดนซึ่งศาสนาได้เลือนหายไปจากความนึกคิดของผู้คน การฆ่าตัวตายจึงไม่เป็นบาป ไม่ขัดต่อศีลธรรม ณ ที่แห่งนี้กิจการของตระกูลตูวาชกำลังดำเนินไปได้สวย ใครอยากตายได้เลือกตายสมใจ สินค้าในร้านชำแห่งนี้ มีทั้งเชือกแขวนคอ ชุดประกอบพิธีฮาราคีรี ยาพิษหรือแม้แต่ "จูบมรณะ" (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
...................
..........
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........
.........................
ลับในความรัก จิระนันท์ พิตรปรีชา : แปล
พิมพ์ครั้งที่ 3
.... การรักใครสักคนนั้นหมายถึงอะไรกันแน่ ? “คู่สร้างคู่สม” มีจริงหรือไม่ ? ทำไมความหลง จึงไม่ใช่ความรัก ? อะไรคือรัก อย่างไรคือหลง? ทำไมการรักคนเลวจึงเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ? หนังสือเล่มนี้จะช่วยค้นหาความหมายของรักในระดับที่ลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หนังสือเล่มนี้คือของขวัญวาเลนไทน์สำหรับสมอง ..รอถึงวันแห่งความรัก อาจจะสายเกินไป (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

ริต้า ยูบิควิท Child 44 ต้นส้ม

SAINTE RITA เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน แคลร์ วัลเนียวิคส์ : เขียน วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ : แปลถึงเนื้อถึงกระดูก เซนต์รีตา ผู้หญิงสีฟ้าครึ้มฝน (Sainte Rita, patronne des causes désespérées) เป็นรวมเรื่องสั้นหกเรื่องหกรส ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาฝรั่งเศส ผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มแรกในชีวิตของ แคลร์ วัลเนียวิคซ์ (Claire Wolniewicz) นักเขียนหญิงสาวสวยเชื้อสายโปแลนด์ กำลังมาแรงเป็นที่จับในแวดวงการวรรณกรรมฝรั่งเศสขณะนี้(ราคาปก 155 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด .................................................
..
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
UBIQUITE
ผู้ชายครึ่งฝัน
แคลร์ วัลเนียวิคส์ : เขียน
พัชรินทร์ เสี่ยงเทียน : แปล.....
เรื่องราวประหลาดล้ำที่เกิดขึ้นในชีวิตแสนเงียบเหงาของ อดัม โวลลาดิเยร์ พนักงานออฟฟิศหนุ่มผู้เงียบขรึม ที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าตัวเองต้องการหรือชอบทำสิ่งใดในชีวิต ทว่ายังสามารถก้าวหน้าในอาชีพจนได้เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี ตั้งแต่เล็กจนโตอดัมคุ้นเคยกับกรอบเกณฑ์ของครอบครัว เคยชินกับการอยู่ในโอวาท ไม่เคยมีปากเสียงหรือความคิดเห็น จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อมีคนเข้ามาทักผิดบ่อยๆ ว่าอดัมเป็นคนนั้นคนนี้แทบไม่ซ้ำหน้า เมื่อเขาเริ่มหาวิธีรับมือกับการทักผิด เช่นลองรับสมอ้างไปเรื่อยๆ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพและอุปนิสัย จากที่เป็นคนเฉิ่มๆ อดัมกลายเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์และเริ่มติดใจรูปแบบชีวิตคนอื่นที่เขาสมอ้างสวมรอยเข้าอย่างจัง (ราคาปก 155 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

..........................................................................................................................................

..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

.........................................................................

CHILD 44 - รหัสฆาฏ ทอม ร็อบ สมิธ : เขียน สุวัฒน์ หลีเหม : แปล

ตรวจสอบทุกคนที่ไว้ใจ ไม่มีอะไรให้กิน ไม่เหลืออะไรให้รัก ลุ้นระทึกสุดขั้วหัวใจ กับ Child 44 - รหัสฆาฏ สุดยอดนวนิยายทริลเลอร์เรื่องล่าสุดของโลกที่นักอ่านต่างรอคอยและเป็นที่กล่าวขวัญ นวนิยายซึ่งก่อให้เกิดสงครามการประมูลราคาในงาน London Book Fair เมื่อปี 2007 ที่ ยิ่งโด่งดังมากขึ้นเมื่อริดลีย์ สก็อต ผู้กำกับมือรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง “Gladiator” และอีกหลายเรื่องในระดับบล็อกบัสเตอร์ (Alien, Blade Runner, Black Hawk Down) ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อไปทำเป็นภาพยนตร์และตั้งใจจะกำกับด้วยตนเอง Child 44 ขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 27 ประเทศ (ราคาปก 395 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
........................................................................
..........................................................
..................................................
...........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
坊っちゃん夏目 漱石
ต้นส้ม น้ำตา พายุ
นัทสึเมะ โซเซกิ
กันฐพงศ์ เจียวก๊ก : แปล .... ห้ามอ่านในที่สาธารณะเพราะคุณอาจจะต้องหัวเราะทั้งน้ำตา"นี่คือการผจญภัย ของคุณหนูจอมซ่าส์ คุณย่าโพสิทีฟ สารพัดวีรกรรม เฉิ่มเบ๊อะแต่โคตรจริงใจ ของเอกบุรุษสุดเพี้ยน ผู้ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แล้วคุณจะรักนิยายเรื่องนี้ ...เหมือนฉัน" 'ปราย พันแสง (คำนิยมชมชื่น) จากปกหลัง : นวนิยายญี่ปุ่นชั้นเลิศที่ได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วโลก ผลงานมาสเตอร์พีซของนัทสิเมะ โซเซกิ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยเรื่องราวใสซื่อ โหด มันส์ ฮากระจาย การผจญภัยในโลกมนุษย์บิดๆ เบี้ยวๆ ของคุณหนูขี้วีน จอมเพี้ยน ลูกผู้ดีเก่า ตกกระป๋องและตกกระไดพลอยโจนไปอยู่ในโรงเรียนบ้านนอกคอกนา จึงต้องลุยดะถ้วนหน้า ตั้งแต่อาจารย์ใหญ่ คณะครู นักเรียน ยันนักการภารโรงล้วนแสบซ่าส์ โดยมีคุณย่าโพสิทีฟเป็นแบคอัพ(ราคา 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
..........

ปราย พันแสง พ็อคเก็ตบุ๊ค

คาเฟ่เสน่หา 'ปราย พันแสง
ชีวิตก็เหมือนคาเฟ่ริมทางบางครั้งเนืองแน่น บางครั้งอ้างว้างมีคนผ่านมา มีคนผ่านไปใครจดจำ ใครลืมเลือน ย่อมมิใช่เรื่องใหญ่หากช่วงเวลาที่พบกัน ได้เปิดดวงตา เผยดวงใจหมดจดหมดใจ ...แล้วจากกัน.....คาเฟ่เสน่หา(passion cafe')รวมบทความแห่งเสน่หาที่โลดแล่นในวังวนชีวิต มิใช่ความรักอย่างเดียวที่ทำให้คนเราตาบอด แต่ยังมีความปรารถนาลึกลับซ่อนอยู่ลึกเร้นข้างในใจ ดูเหมือนไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด แต่กลับฉุดกระชากลากถูความเป็นมนุษย์ของเราจนแทบมิอาจต้านทาน(ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
....................................................................................
..........................................................
..........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
..........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.............................................................
.................. Highway Blues
สูงต่ำล้วนผ่านตา
'ปราย พันแสง หลังจาก “คาเฟ่เสน่หา” หนังสือรวมบทความชุดแรกของปี 2551 ได้รับการต้อนรับจากนักอ่านเป็นอย่างดี สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จึงส่งผลงานชุดใหม่ “สูงต่ำล้วนผ่านตา” รวมบทความชุดที่ 2 ของ ’ปราย พันแสง วางแผงตามมาอย่างต่อเนื่อง "สูงต่ำล้วนผ่านตา" รวมบทความว่าด้วยเรื่องราวสิ่งละเล็กๆ พันละน้อยๆ เกี่ยวกับแง่มุมต่างๆ ของชีวิต ซึ่งเคยตีพิมพ์ตามที่ต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการป่ายปีน การขึ้น การลง ในการเดินทางของชีวิตของคนเราที่มีความหมายกว้างไกล (ราคาปก 198 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด

.................................................................................

..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................

.................................................................

...........

study book ฮารูกิ มูราคามิ ’ปราย พันแสง เขียนอย่างไรให้ขายดีติดเบสท์เซลเลอร์ทั่วโลก ชำแหละคมความคิดและสไตล์การเขียนของ ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนญี่ปุ่นนอกคอก ที่มีผลงานเขียนและงานแปลมากถึง 40 ภาษา กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย แถมติดอันดับขายดีหลายล้านเล่มทั่วโลก ว่ากันว่านี่คือนักเขียนรางวัลโนเบลคนต่อไป (ราคาปก 175บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
...........................
.........................................................................
..........................................................
.........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
............
เรื่องรักใคร่ 'ปราย พันแสง พิมพ์ครั้งที่ 3 .... รวมเรื่องจุ๊กจิ๊กว่าด้วยความรัก หวาน ขม อมหวาน อมเปรี้ยวครบรส ในรูปแบบเรียงความ ภาพยนตร์ ดนตรี เรื่องสั้น บทกวี บทแปล เอสกิโม และอื่นๆ อีกมากมาย “คุณไม่จำเป็นต้องกินคนที่คุณรักนะ จอร์จินา คุณเคยคิดมั้ยว่าการกินเข้าเขาไป มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของคุณ คุณจะคิดว่า เมื่อคุณกินเขาแล้ว คุณกับเขาจะได้อยู่ร่วมกัน ตลอดไปไม่ได้นะ” จินตนาการ,อาหาร,เซ็กซ์ และวิธีปรุงเนื้อคนรัก “ความรักมากมายนั้นมันไม่จีรังยั่งยืนอะไร มันท่วมท้นล้นใจ แล้วจางหายไปได้อย่างมหัศจรรย์ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยฉะนั้น” แล้วเราจะรู้เอง (ราคาปก 175 บาท) คลิกอ่านรายละเอียด
........................
.........................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
..........................................................................................
..........................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
.........................................................
..........
คนรัก เคยรัก ยังรัก (ดาว)
รวมเรื่องสั้นและบทกวี เคยเป็นหนังสือทำมือชื่อ "ดาว" มาหลายปี ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว เนื้อหาในเล่มว่าด้วยเทหวัตถุโรแมนติกบนท้องฟ้า อันเป็นที่มาของแรงบันดาลใจ ความสุข ความรัก ความเศร้า และเรื่องราวในชีวิตอีกมากหลาย ทุกเรื่องราวในเล่มล้วนแล้วแต่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากดวงดาว เนื่องเพราะดาวบางดวง คำบางคำในชีวิตมีความหมาย บางคำหากหลุดจากปากไป อาจทำให้ดาวทุกดวงบนท้องฟ้าหายวับ
จากปกหลัง "กรุงเทพฯ ยังมีดาวนะ ไม่ว่าดาวประจำเมือง หรือดาวประจำวัน แม้แต่ดาวที่เป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เรายังเห็นกันได้ในเขตเมืองหลวงนี้ ...ตรงไหนก็มีดาว ถ้าเรามีตาสำหรับมองมัน" "สำหรับบางคน โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปอย่างว่างเปล่า ชีวิตเป็นอย่างนี้ ความหมายของมันไม่เคยแน่นอน บางครั้งดูเหมือนเราจะเข้าใจในความเป็นไป แต่บางทีก็ไม่ ความร้ายกาจของมันคือ บางทีคิดว่าเข้าใจ แต่ความจริงอาจจะไม่" "แล้วคุณเชื่อไหม เรื่องที่เขาเล่ากัน ว่าคนสองคนจะรักกันไปจนตาย แล้วคุณรู้ไหม หากจะมีใครรักใครไปจนตายจริงๆ มันจะมีแค่คนเดียวเท่านั้น ...ที่รักไปจนตาย" (ราคาปก 125 บาท)

สวนสวรรค์ที่สาปสูญ

Paradise Lost
สวนสวรรค์ที่สาบสูญ : Jimmy Liao
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล :
แปลจากภาษาจีน
'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ
.......................................... หนังสือชุดใหม่ของ "จิมมี่ เลี่ยว"ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในปี 2549 จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์นานมี หนังสือชุดนี้ มีด้วยกันทั้งหมดห้าเล่ม มีตัวละครชุดเดียวกัน แต่ละเล่ม สามารถจบได้ในตอน เรื่องราวทั้งหมดในหนังสือชุดนี้น่ารักและมีเสน่ห์ แบบเศร้าๆ เจ็บๆ แปลกๆ ดี Paradise lost เป็นเรื่องราวมิตรภาพความผูกพัน ของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตจำนวนหนึ่ง มารวมตัวกันอยู่ในดินแดนหนึ่ง ที่พวกเขาทุกคนล้วนเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ละชีวิต จะมีปมด้อย มีบาดแผล มีความพิการ มีความบกพร่อง ซึ่งโลกภายนอกอาจจะปฏิเสธพวกเขา แต่ในดินแดนแห่งนี้ ทุกชีวิตมีอิสระเสรี และมีผู้ที่เข้าใจกันและกัน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ตัวอย่างตัวละครบางตัว ในเรื่องราวชุดนี้ก็ได้แก่
.........................................................................
..........................................................
..................................................
...
หมีกากบาท หมีกากบาทถูกทำร้ายตั้งแต่เล็ก จึงมีรอยแผลอยู่เต็มตัว หากคุณถามเขาว่าเจ็บตรงไหนที่สุด เขาจะชี้ตรงหัวใจ แม้จะได้รับความทุกข์สาหัส แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีแสงสว่าง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ผ้าพันแผล เป็นเด็กชายที่พันผ้าพันแผลทั้งตัว เขามักฝันว่าตัวเองบินได้ และมีผีเสื้อตัวน้อยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
หนูดำ เจ้าของทรมานหนูดำด้วยวิธีต่างๆ นานา แต่หนูดำก็ยังคงมีจิตใจงดงาม ในบางครั้งเจ้าของอุ้มเขาด้วยความทะนุถนอมอยู่บ้าง แต่หนูดำก็อดที่จะหวั่นกลัวไม่ได้
..................................................................
...................................................................
.........................................................
โทนี่หน้าบาก โทนี่เป็นเด็กชายขี้อายเป็นที่สุด เขาเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจ มักจะยืนนิ่งอยู่ข้างหิ้งหนังสือในห้องสมุด เขามีแต่เงาตัวเองในกระจกเป็นเพื่อน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ไข่พะโล้ ไม่ว่าจะทำอะไร ไข่พะโล้จะต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนเสมอ ก่อนข้ามถนน หรือกระทั่งในสวนที่มีดอกไม้บานสะพรั่ง เขาก็ยังอธิษฐาน
..................................................................
...................................................................
.........................................................
จอห์นจมูกแดง เขามักรู้สึกว่าโลกของเขาว่างเปล่า ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นเพียงความฝัน เขาไม่สามารถอธิบายอะไรให้ใครฟังได้ แต่อย่างน้อย เขาก็รู้สึกสบายใจในโลกอันว่างเปล่าของตัวเอง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
จูลี่ เป็นคนที่ขยันโยนขวดบรรจุข้อความที่ชายหาด ให้ลอยไปตามคลื่นอยู่เสมอ เธอวาดฝันว่าจะพบรักจากการทำเช่นนี้ แต่ขวดเหล่านั้นมักถูกคลื่นซัดกลับ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ลูกโป่ง มักลอยไปลอยมาอยู่คนเดียว วันหนึ่งศีรษะของเขาแตกเป็นรู เจ้าหนูลูกโป่งจึงตกลงมาจากฟ้า แต่ไม่นานก็ถูกจับมัดกลับไปแขวนไว้กับต้นไม้
..................................................................
...................................................................
.........................................................
เหิรหาว เหิรหาวเชอบแกล้งผู้อื่น วันวันเอาแต่หาเรื่องทะเลาะ คนอื่นบอกว่าสีดำ เธอจะบอกว่าขาว เธอเกลียดโลกแห่งความเป็นจริง ชื่นชอบโลกที่โกลาหลวุ่นวาย
..................................................................
...................................................................
.........................................................
โทรโข่ง เอาแต่ป่าวประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เที่ยวกระจายข่าวสารไปทั่ว เขาสวมหมวกกันน็อคจึงไม่ได้ยินเลยว่าเสียงไม่ได้ออกจากโทรโข่ง
..................................................................
...................................................................
.........................................................
แมรี่และแมวของเธอ แมรี่เลี้ยงแมวตาโตตัวหนึ่ง แต่ละวันแมวของเธอจะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป บางทีรู้สึกหน่าย บางทีรู้สึกเบื่อ บางทีรู้สึกว่าโลกมันน่าขัน
......................................................................
...................................................................
.........................................................
บอลลูน เป็นเด็กฉลาดไอคิวสูง ฉลาดมากเสียจนไม่อยากจะเรียนรู้อะไรทั้งนั้น ทุกคนต่างชื่นชมความฉลาดของเธอ แต่เธอกลับเบื่อที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคนโง่ ฯลฯ
...................................................................
.........................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
............... Enter Loneliness
Paradise Lost 1 :
เดียวดายในความอ้างว้าง ช้างสีชมพูกับแอ๊ปเปิ้ลสีทอง เป็นตัวละครเปิดเรื่องเข้าสู่สถานที่มหัศจรรย์ ช้างสีชมพูเป็นเพื่อนกับเด็กแว่น ทั้งสองตาบอด มองไม่เห็น แต่ชอบไปยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหน้าต่าง ชอบนั่งบนโขดหินริมทะเล เพื่อเฝ้ามองพระจันทร์ ทอแสงสว่างไสวขึ้นมาจากผิวน้ำ ทั้งยังชอบทอดกายนอนหงายบนสนามหญ้าโรงเรียน เพื่อรอคอยดวงดาวเปล่งประกายเต็มฟ้า เด็กแว่นเป็นเจ้าของแว่นตาสายรุ้งแสนสวย เสียดายที่เธอมองไม่เห็น ช้างสีชมพูก็มีแว่นสายรุ้งเช่นกัน เสียดายที่มันก็มองไม่เห็น ทั้งสองมิอาจแลเห็นแว่นตาแสนสวยของกันและกัน แต่ตระหนักดีว่า จิตใจของทั้งสองนั้น ต่างงดงามประหนึ่งสายรุ้ง
..................................................
..................................................................
...................................................................
................................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
Snow Falling in Childhood Paradise Lost 2 :
ความปวดร้าวอันงดงาม ปกเล่มนี้ เป็น เจ้าหมีกากบาท ที่กำลังดุ่มเดินเดียวดายอยู่ในป่า หมีกากบาทโดนทำร้ายมาแต่เล็ก ร่างกายยับเยินด้วยบาดแผล หากคุณถามเขาว่าเจ็บปวดตรงไหนที่สุด เขาจะแตะตรงหัวใจ มีใครบ้างไหมที่ไม่เคยเจ็บปวดมาก่อน เขายืนยันมั่นใจ เจ็บปวดที่สุด ณ จุดใด ต้องทำแผลให้สวยที่สุดตรงจุดนั้น ทุกครั้งที่โดนทำร้าย หมีกากบาทมักซ่อนตัวในสถานที่งดงามที่สุด จินตนาการถึงช่วงเวลาแสนสุข หลังจากหลั่งน้ำตาไม่กี่หยด เขาจะแตะตรงหัวใจแล้วหยุดร้องไห้
.........................................................................
..........................................................
..................................................
.........
..................................................................
...................................................................
..........................................................................................................................
...................................................................
.........................................................
A Mysterious Flower Blooms
Paradise Lost 3:
ดอกไม้แห่งความลับผลิบานแล้ว เป็นดอกไม้แห่งจินตนาการของคนเขียนที่มีครีเอทีฟไอเดียสุดยอด ภาพปกเล่มนี้ ผู้เขียนเลือกตัวละคร“แอนนี่” เป็นตัวเอก ปกสวยจริงๆโดยเฉพาะลวดลายบนต้นไม้ใบไม้ใช้สีเงินสีทองสะท้อนแสงบนพื้นปกสีดำ ลึกลับแบบสไตล์กอธิคนิดๆ วิจิตรตระการตาแบบภารตะหน่อยๆ แปลกตากว่าทุกเล่ม “แอนนี่” เป็นเด็กฉลาดแก่แดดที่สุดในเรื่องราวชุดนี้ แอนนี่รู้จักโลกของผู้ใหญ่เร็วเกินไป เกิดแก่เจ็บตาย เธอเข้าใจทั้งหมด โลกแห่งความจริงของแอนนี่ หมายถึงช่วงเวลาที่เธอได้แสดงละครเท่านั้น
.........................................................................
....................................
..................................................................
...................................................................
..............................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................

The Magic Is Gone Paradise Lost 4 อัศจรรย์พลันสลาย เรื่องเริ่มต้นเมื่อเวทย์มนต์เสื่อมสลายไปหมดสิ้น โลกเราไม่มีแล้วความมหัศจรรย์ ไม่มีเรื่องเหลือเชื่ออะไรแล้วทั้งนั้น ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าทำไมคุณเลี่ยวไม่เอาตอนนี้ไว้เป็นเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดนี้... เพราะมันน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่พอไปเห็นเล่มสุดท้ายจริงๆ จึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ คือคุณเลี่ยวเขาคงไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้ายเหมือนเราไง เขาเลยวางเรื่องนี้ไว้กลางๆ :) ภาพปกเล่มนี้เธอชื่อ “ราตรี” คู่กรณีของ“ทิวา”เรื่องราวของกลางคืนและกลางวันที่ต่างกันอย่างเหลือเกิน โลกของราตรีเต็มไปด้วยสีสัน โลกของทิวากลับมีเพียงขาวดำ

..................................................
..................................................................
...................................................................
...................................................................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
The Lost Miracle
Paradise Lost 5 :
เมื่อปาฏิหาริย์เลือนหาย เด็กน้อยกับสวิงตาข่ายบนปกหนังสือคนนี้ชื่อ “ออทัม” เธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ ที่พยายามตามจับความฝันของเธอเอง ออทัมเติบโตมากับคุณปู่ พออายุได้หกขวบ คุณปู่มอบสวิงจับผีเสื้อที่คุณปู่ทำเองให้เธอเป็นของขวัญ วันต่อมาคุณปู่เสียชีวิตกะทันหัน คืนนั้นออทัมฝันเห็นคุณปู่ของเธอส่งยิ้มให้ พลางพูดว่า “จับชีวิตที่สวยงามไว้ให้ดี!”เธอตื่นขึ้นมาทั้งน้ำตา กอดของขวัญจากคุณปู่ไว้แน่น แล้วสาบานว่า เธอจะใช้เวลาทั้งชีวิตไล่จับความสวยงามที่ไม่จีรังเอาไว้ให้ได้
..................................................
..................................................................
...................................................................
...........................................................................................................
..................................................
..................................................................
...................................................................
.........................................................
The Blue Stone :
Jimmy Liao ชุตินันท์ เอกอุกฤษฏ์กุล : แปลจากภาษาจีน 'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ เป็นหนังสืออีกเล่มของ จิมมี่ เลี่ยว ที่ออกวางจำหน่ายพร้อมกับหนังสือชุด Paradise Lost "โลกเหงาของหินสีฟ้า" เป็นเรื่องราวของหินสีฟ้าก้อนหนึ่ง ที่แตกออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งถูกทิ้งไว้ในป่าลึก อีกซีกหนึ่งถูกพาเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ แล้วก็ถูกแปรรูป ถูกทำให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้มันเหงาแล้วก็คิดถึงอีกครึ่งที่เหลืออยู่ตลอดเวลา จะว่าไปแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็คือ The Missing Piece ของ เชล ซิลเวอร์สไตน์ที่เอามาเขียนใหม่แบบคนตะวันออกดีๆ นี่เอง อาจจะเป็นเพราะจิตวิญญาณแบบเอเชีย ที่เรียกร้องสิ่งต่างๆ จากชีวิตน้อยกว่าคนตะวันตกกระมัง อ่านแล้วจึงรู้สึกว่ามันเป็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เจียมเนื้อเจียมตัวดี ถ้าแอบรักใครชอบใคร หนังสือเล่มนี้เหมาะมากที่จะเป็นหนังสือบอกความในใจว่าเรารัก โดยมีหมายเหตุที่มองไม่เห็นว่า รักและคิดถึงนะ แต่ไม่ได้เรียกร้องต้องการอะไรจากเธอเลยนะ เป็นหนังสือที่น่ารักมากๆ
..................................................................
...................................................................
.........................................................
Paradise Lost
สวนสวรรค์ที่สาบสูญ
: Jimmy Liao
.........................................................
The Blue Stone
โลกเหงาของหินสีฟ้า
: Jimmy Liao
..................................................................
...................................................................
.........................................................
ชุตินันท์ เอกอุกฤษฎ์กุล
: แปลจากภาษาจีน 'ปราย พันแสง : บรรณาธิการ
..................................................................
...................................................................
จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมี
สามารถสั่งซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์มได้เลยครับ
โทร.0-2664-4256-7,08-5664-9612
เป็นบริการพิเศษ
สำหรับแฟนหนังสือ'ปราย พันแสง ครับ-ค่าส่งฟรี

28

28

27

27

26

26

25

25

24

24

23

23

22

22

21

21

20

20

19

19

18

18

17

18

16

16

15

15

14

14

13

13

12

12

11

11

X8

8

X7

7

X6

6

X5

5

X4

4

X3

3

X2

1

ติดต่อสังซื้อ

● ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ คุณเจี๊ยบ โทร. 08-5664-9612 ● พ็อคเก็ตบุ๊คสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม วางจำหน่ายที่ร้านนายอินทร์,ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์,ร้านดอกหญ้า สยามแสควร์ ซอย3, ร้านคิโนะคุนิยะ,ร้าน Sauce Art Literature เอกมัย (Vanilla House), ร้านแพร่พิทยา, ร้านบุ๊คคลับ,ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หาไม่เจอกรุณาสอบถามพนักงาน ● ติดต่อสั่งซื้อโดยตรงได้ที่ สำนักงานฟรีฟอร์ม บริษัท ลมดี จำกัดเลขที่ 22/5 สุขุมวิท 23 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2664-4256-7 โทรสาร 0-2664-4259 (เวลาทำการ 09.00 - 17.00 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์) และ 08-5664-9612อีเมล:freeformthailand@hotmail.com: ... * คลิกกลับหน้าแรก *คลิกกลับนิตยสารฟรีฟอร์ม *คลิกกลับฟรีฟอร์มพรินติ้งเซอร์วิส *คลิกกลับบล็อก'ปราย พันแสง